วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2562

บราซิลมองจะขายเรือบรรทุกเครื่องบิน Sao Paulo และขายเรือดำน้ำ U209 แลกเรืออู่ระบายพลชั้น Pisco LSD เปรู

Brazil seeks to sell former aircraft carrier


Brazil intends to sell the hull of its former aircraft carrier NAe Sao Paulo. (Victor Barreira)
https://www.janes.com/article/91549/brazil-seeks-to-sell-former-aircraft-carrier

Peru looks set to take Brazilian submarines in return for LSD


The future of part of Brazil’s fleet of German-designed U209-class diesel-electric submarines (SSKs) has started to become clearer, as it transpires that negotiations to barter two of the boats for a Peruvian-built amphibious assault ship are under way.
https://www.janes.com/article/91545/peru-looks-set-to-take-brazilian-submarines-in-return-for-lsd

Empresa Gerencial de Projetos Navais(EMGEPRON) รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมทางเรือบราซิลมีความประสงค์ที่จะออกการประกวดราคาและผู้เข้าแข่งขันในวันที่ 27 กันยายน 2019
เพื่อขายตัวเรือของเรือบรรทุกเครื่องบิน A12 NAe São Paulo ที่เคยประจำการในกองทัพเรือบราซิล(Brazilian Navy, Marinha do Brasil) ที่ราคาขั้นต่ำ 5.3 million Brazilian real($1.3 million)

ระหว่างที่ประจำการในกองทัพเรือบราซิล เรือบรรทุกเครื่องบิน Sao Paulo ได้เดินเรือปฏิบัติการในทะเลเป็นเวลา 206วัน รวมระยะทาง 85.344km
ซึ่งปัจจุบันเรือถูกจอดเทียบท่า ณ อู่เรือ Arsenal de Marinha do Rio de Janeiro(AMRJ) ของรัฐบาลบราซิล หลังจากที่ปลดประจำการในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2018

เรือบรรทุกเครื่องบิน A12 Sao Paulo เดิมคือเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Clemenceau ชื่อ R99 FS Foch ที่เคยประจำการในกองทัพเรือฝรั่งเศส(French Navy, Marine Nationale) โดยกองทัพเรือบราซิลได้จัดหาเข้าประจำการเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2000
เพื่อทดแทนเรือบรรทุกเครื่องบิน A11 NAeL Minas Gerais ซึ่งเดิมคือเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Colossus ชื่อ HMS Vengeance กองทัพเรือสหราชอาณาจักร(Royal Navy) ที่กองทัพเรือบราซิลประจำการมาตั้งแต่ปี 1960 และปลดประจำการในปี 2001

บราซิลเคยมีแผนที่จะปรับปรุงความทันสมัยของเรือบรรทุกเครื่องบิน Sao Paulo ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการ Obtenção da Capacidade Operacional Plena โดยกำหนดการปรับปรุงสำหรับ
ระบบสื่อสาร, Radar ค้นหา, ระบบขับเคลื่อน, อุปกรณ์เครื่องกำเนิดพลังงาน, รางดีดส่งอากาศยานขึ้นบิน(catapult) และระบบลงจอดอากาศยาน

แต่ปรากฎว่าการประมาณการค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาสูงเกินไปและมีความยุ่งยากทางเทคนิคที่จะทำให้เสร็จสมบูรณ์ และแผนการปรับปรุงเรือได้ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2017(https://aagth1.blogspot.com/2017/02/sao-paulo.html)
ปัจจุบันกองทัพเรือบราซิลได้จัดหาเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ยกพลขึ้นบกเอนกประสงค์ A140 PHM Atlantico ที่เดิมคือเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ L12 HMS Ocean กองทัพเรือสหราชอาณาจักรเป็นเรือธงลำใหม่แทน(https://aagth1.blogspot.com/2019/07/a140-phm-atlantico.html)

ในฐานะส่วนหนึ่งของอนาคตแผนจัดการกองเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK) แบบ U209 ที่ออกแบบโดยเยอรมนีของกองทัพเรือบราซิลได้มีความชัดเจนมากขึ้น
ตามที่ปรากฎว่ามีการดำเนินการเจรจาการซื้อขายแลกเปลี่ยนเรือดำน้ำ U209 จำนวน 2ลำของบราซิลกับเรือยกพลขึ้นบกจู่โจมที่เปรูสร้างในประเทศ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวในรัฐบาลบราซิลและรัฐบาลเปรู

กองทัพเรือเปรู(Peruvian Navy) มีความต้องการจัดหาเรือดำน้ำสมัยใหม่ 2ลำเพื่อทดแทนเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Islay(U209-1100) จำนวน 2ลำ ได้เสนอเรืออู่ระบายพล LSD(Landing Ship Dock) ชั้น Pisco
ซึ่งเรือลำแรก BAP Pisco ความยาวเรือ 122m ระวางขับน้ำเต็มที่ 11,000ton ถูกสร้างโดยอู่เรือ SIMA ใน Callao เปรูที่วงเงินราว $170 million เพื่อแลกเปลี่ยนกับเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Tupi(U209-1400) 2ลำของบราซิล

กองทัพเรือบราซิลกำลังอยู่ระหว่างการจัดหาเรือดำน้ำ Scorpène ฝรั่งเศส 4ลำที่ถูกสร้างบราซิล โดยเรือลำแรก S40 Riachuelo ถูกปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2018 และกำลังอยู่ระหว่างการทดลองเรือในทะเล(https://aagth1.blogspot.com/2018/12/scorpene-s40-riachuelo_22.html)
ขณะที่เรือเรืออู่ระบายพล Pisco LSD เปรูมีพื้นฐานจากแบบเรืออู่ยกพลขึ้นบก (LPD: Landing Platform Dock) ชั้น Makassar ของบริษัท Daesun Shipbuilding & Engineering สาธารณรัฐเกาหลีครับ(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/lpd-mottama.html)