Combined Arms Live Fire Exercise and Cobra Gold 2024 Closing Ceremony
On March 8, 2027, at 10.30 a.m., Air Chief Marshal Chanon Muangthanya, deputy
chief of Defense Forces, and Major General Michelle Schmidt, commanding
general of the 7th Infantry Division, U.S. Army,
presided over the Cobra Gold 2024 closing ceremony at the Naval Training Field
no. 16, Ban Chanthakhlem, Chanthaburi province, and observed the Combined Arms
Live Fire Exercise (CALFEX).
Chiefs of Defense Forces and commanders-in-chief of allied nations were also
in attendance.
The CALFEX featured weaponry and 137 participants from the Thai, American, and
South Korean armed forces. Activities included high-altitude,
high-opening (HAHO) operations, sniper training, air interdiction, artillery
preparation and supporting fire,
engineer corps’ breaching operations, shooting on the move, air
assaults, close air support, air assault operations, medical evacuation, and
efforts to secure a target area.
Key hardware included Thai Armed Forces’ BTR wheeled armored vehicles and F-16
fighters; U.S. Air Force’ F-16 fighters; U.S. Marine Corps’ PUMA
unmanned air vehicles (UAVs), Light Armored Vehicles (LAV), and Joint Light
Tactical Vehicles (JLTVs);
and Korea Marine Corps’ TOW-2ARF missles and KAAV.
The Cobra Gold exercise is the largest military exercise in Southeast Asia,
co-hosted annually in Thailand by the Royal Thai Armed Forces (RTARF) and the
U.S. Indo-Pacific Command.
Past iterations have been highly successful in increasing capacity of
participating troops. The exercise allows for the exchange of military
know-how, doctrine, and technology,
and has broadened the experience of Thai and allied forces in joint and
multilateral operations. This reflects our commitment to elevating
cooperation and our relationships with participating nations to safeguard the
stability and mutual interests of the region. Additionally, the
exercises also provide an economic benefit for local communities, while also
building a good image of Thailand in the eyes of participating nations.
Public Relations Office, Cobra Gold 2024 Command Center
March 8, 2024
” Cobra Gold 24 “
การฝึกดำเนินกลุยทธ์ด้วยกระสุนจริงและพิธีปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ ๒๐๒๔
เมื่อวันที่ ๘ มี.ค.๖๗ พลอากาศเอก ชานนท์ มุ่งธัญญา
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และพลตรีหญิง มิเชล ชมิดต์ (Michelle Schmidt)
ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๗ กองทัพบกสหรัฐอเมริกา
เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ ๒๐๒๔
โดยมี ผู้แทน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มิตรประเทศ ผู้แทน ผู้บัญชาการเหล่าทัพ
ร่วมชมการสาธิต การฝึกดําเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX) ณ
สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข ๑๖ บ้านจันทเขลม จว.จันทบุรี
ในการนี้ พลเรือตรี วีระชัย หลีค้า
รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ผู้แทน
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พร้อมด้วย นาวาเอก โยธิน ธนะมูล
รองผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน ผู้แทน ผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน ในฐานะ
ผู้บัญชาการกองกำลังนาวิกโยธินผสม
การฝึกร่วม/ผสม คอบร้าโกลด์ ๒๐๒๔ (Cobra Gold 24) เข้าร่วมในพิธีฯ
การฝึกดําเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ประกอบด้วย การโดดร่มแทรกซึมเบื้องสูง
การชุ่มยิง การบินขัดขวางทางอากาศ การยิงเตรียมและการยิงสนับสนุนของปืนใหญ่
การเจาะช่องเปิดเส้นทางของทหารช่าง
การเคลื่อนที่ประกอบการยิง การโจมตีทางอากาศ การสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด
การยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ การส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ และการเข้ายึดที่หมาย
โดยมียุทโธปกรณ์สำคัญ ที่เข้าร่วมการฝึกฯ ประกอบด้วยรถเกราะล้อยาง BTR
และเครื่องบินขับไล่ F-16 จากกองทัพไทย
และเครื่องบินขับไล่ F-16 อากาศยานไร้คนขับ UAV รุ่น PUMA และ ยานเกราะล้อยาง
LVT จากนาวิกโยนสหรัฐอเมริกา อาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังขนาดหนักโทว์
(TOW-2ARF) รถสะเทินน้ำสะเทินบก KAAV จากนาวิกโยธินสาธารณรัฐเกาหลี
ปัจจุบันการฝึกคอบร้าโกลด์
ถือเป็นการฝึกทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งกองทัพไทยและกองกําลังสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นอินโด - แปซิฟิก
ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจําทุกปี
การฝึกคอบร้าโกลด์ที่ผ่านมา
นับว่าประสบผลสําเร็จเป็นอย่างสูงในการพัฒนาขีดความสามารถกําลังพลของประเทศที่เข้าร่วมการฝึกฯ
และเป็นศูนย์รวมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ หลักนิยม
และเทคโนโลยีทางทหาร
รวมทั้งเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับกําลังพลของกองทัพไทยและกองทัพมิตรประเทศในปฏิบัติการร่วม/ผสม
สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการที่จะเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน
เพื่อรักษาเสถียรภาพและผลประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาคโดยรวม
นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น
รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาของกําลังพลมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกอีกด้วย
การฝึกผสมนานาชาติ Cobra Gold 2024 ที่จัดขึ้นในประเทศไทยระหว่างวันที่ ๒๖
กุมภาพันธ์-๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) ได้มีพิธีปิดการฝึกเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม
พ.ศ.๒๕๖๗ ด้วยการฝึกดำเนินกลุยทธ์ด้วยกระสุนจริง(CALFEX: Combined Arms Live Fire
Exercise)
ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข๑๖ บ้านจันทเขลม จังหวัดจันทบุรี
โดยมีกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy)
เป็นเจ้าภาพสถานที่การฝึกต่อเนื่องจากการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก(AMPHIBEX:
Amphibious Exercise) เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/amphibex-cobra-gold-2024.html)
การฝึกจะได้เห็นการประกอบกำลังภาคพื้นดินจากนาวิกโยธินไทย(RTMC: Royal Thai
Marine Corps) ด้วยรถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-3E1 8x8
ยูเครนที่ยังคงใช้งานได้แม้ประเทศผู้ผลิตจะอยู่ในภาวะสงครามมาหลายปี
และรถยนต์บรรทุก HMMWV ติดอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง TOW 2A RF
นาวิกโยธินสาธารณรัฐเกาหลี(ROKMC: Republic of Korea Marine Corps)
นำรถสะเทินน้ำสะเทินบก KAAV
ของตนฝึกยิงด้วยกระสุนจริงพร้อมกำลังทหารราบและหน่วยปฏิบัติการพิเศษควบคู่ไปกับทหารราบนาวิกโยธินไทยและชุดปฏิบัติการพิเศษหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ
RTN SEALs
นาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) วางกำลังรถเกราะล้อยางสะเทินน้ำสะเทินบก
LAV-25 และรถยนต์บรรทุกหุ้มเกราะ JLTV(Light Armored Vehicle) ในหลายรุ่น
รวมถึงระบบอากาศยานไร้คนขับ RQ-20 Puma UAS(Unmanned Aircraft System)
สนับสนุนการฝึก
และยังได้รับการสนับสนุนกำลังทางอากาศจากเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป UH-60M
Blackhawk จากกองพลน้อยบินที่16(16th CAB: 16th Combat Aviation Brigade)
กองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) และและเครื่องบินขับไล่ F-16C Block 40
ฝูงบินขับไล่ที่80(80th Fighter Squadron) กองบินขับไล่ที่8(8th Fighter Wing)
กองทัพอากาศแปซิฟิก(PACAF: Pacific Air Forces) กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air
Force) ด้วยครับ