Minister of Defence of Thailand Sutin Klungsang was presided over the handover
ceremony for Defence Technology Institute (DTI)'s prototype of D11A
Multi-Purpose Rocket and Missile Launcher to 711th Artillery Battalion, 71st
Artillery Regiment, Artillery Division, Royal Thai Army (RTA) at Artillery
Center, Fort Bhumibhol, Lopburi Province, Thailand on 9 August 2024.
The DTI D11A Multi-Purpose Rocket and Missile Launcher is based on Israeli
Elbit Systems' PULS system, intended to launch guided and unguided rocket
systems of different calibres, included Thai domestic DTI-2 and Chinese SHE-30
and SHE-40 122mm rocket which compatibility with SR4 self-propelled multiple
rocket launcher (SPMRL). (Defence Technology Institute/Royal Thai Army)
วันที่ 9 สิงหาคม 2567 สทป. ส่งมอบต้นแบบรถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์
(Multi-Purpose Launcher) ให้กับ กองทัพบก โดย กองพลทหารปืนใหญ่
(กรมทหารปืนใหญ่ที่ 71 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 711)
เป็นหน่วยทดสอบทดลองใช้งาน
ด้วย สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) และ กองทัพบก
ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในโครงการวิจัยและพัฒนาร่วมต้นแบบรถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์
(Multi-Purpose Launcher)
โดยการนำนวัตกรรมแบบเปิด (Open Innovation)
มาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการวิจัยและพัฒนาต้นแบบรถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ที่สามารถรองรับจรวดขนาด
122 มิลลิเมตร ระยะยิง 40 กิโลเมตร จรวดขนาด 306 มิลลิเมตร ระยะยิง 150
กิโลเมตร และจรวดขนาด 370 มิลลิเมตร ระยะยิง 300 กิโลเมตร
ซึ่งการวิจัยและพัฒนามุ่งเน้นการออกแบบ สร้างชิ้นส่วน
การประกอบรวมรถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์
ให้เป็นไปตามความต้องการของกองทัพบก
ที่สามารถนำมาใช้เป็นอาวุธระยะยิงไกลได้ทั้งระดับยุทธวิธี ระดับยุทธการ
และระดับยุทธศาสตร์ได้
ปัจจุบัน กองทัพบก ได้อนุมัติรับมอบต้นแบบรถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ฯ
โดยให้กองพลทหารปืนใหญ่ (กรมทหารปืนใหญ่ที่ 71 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 711)
เป็นหน่วยทดสอบทดลองใช้งาน
สทป. ส่งมอบต้นแบบรถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ (Multi-Purpose
Launcher) ให้กับ กองทัพบก โดย กองพลทหารปืนใหญ่ (กรมทหารปืนใหญ่ที่ 71
กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 711) เป็นหน่วยทดสอบทดลองใช้งาน โดยได้รับเกียรติจาก
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เป็นประธานในพิธีส่งมอบ
และ พลเอก พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
เป็นสักขีพยานกิตติมศักดิ์ พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาจากกองทัพบก โดยมี พลเอก
ดร.ชรัติ อุ่มสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
เป็นผู้ส่งมอบต้นแบบรถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ฯ ให้กับ พลตรี วรการ
ฮุ่นตระกูล ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ เป็นผู้แทนกองทัพบกในการรับมอบ
เพื่อนำต้นแบบรถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ฯ
ไปทดสอบทดลองใช้งานในกองพลทหารปืนใหญ่ (กรมทหารปืนใหญ่ที่ 71
กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 711) ต่อไป ณ ศาลาอเนกประสงค์สนามกีฬากองพลทหารปืนใหญ่
จังหวัดลพบุรี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ได้กล่าวถึงการส่งมอบต้นแบบรถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ (Multi-Purpose
Launcher) ว่าจะเป็นกระบวนการสำคัญในการวิจัยและพัฒนายุทโธปกรณ์
เพื่อผลักดันผลงานวิจัยเข้าสู่ภาคการผลิตและขาย
ลดการนำเข้ายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ
พร้อมกันนี้
ยังกล่าวถึงความสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
โดยมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนาต่อยอด
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตยุทโธปกรณ์ของหน่วยงานภายในประเทศให้สามารถเข้าสู่สายการผลิตและจำหน่ายได้อย่างเป็นรูปธรรม
เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้เกิดการพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สปท. DTI(Defence Technology Institute)
ไทยได้ทำพิธีส่งมอบต้นแบบรถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ D11A
แก่กองพันทหารปืนใหญ่ที่๗๑๑ กรมทหารปืนใหญ่ที่๗๑ ป.๗๑ พัน.๗๑๑(711th Artillery
Battalion, 71st Artillery Regimen) กองพลทหารปืนใหญ่ พล.ป.(Artillery Division)
กองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army) เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024)
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย นาย สุทิน คลังแสงเป็นประธานในพิธี ณ
ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ศป.(Artillery Center) ค่ายภูมิพล(Fort Bhumibhol)
ในจังหวัดลพบุรี
นับเป็นเหตุการณ์สำคัญของโครงการที่จะเข้าสู่การพิจารณาโดยคณะกรรมการทดสอบประเมินค่าของกองทัพบกไทยเพื่อตัดสินใจการเปิดสายการผลิตต่อไป(https://aagth1.blogspot.com/2023/11/defense-security-2023-dti-d11a.html)
รถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ D11A
รุ่นที่พัฒนาในไทยของระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องหลายขนาดลำกล้องอัตตาจรแบบ
PULS(Precise and Universal Launching System) ของบริษัท Elbit Systems
อิสราเอล(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/dti-d11a.html) ที่นำแท่นยิงแบบ modular สองแท่นติดตั้งบนรถแคร่ฐานรถยนต์บรรทุก Tatra 6x6
ขนาด 10 tonne สาธารณรัฐเช็ก
รถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ D11A มีขีดความสามารถในการเปลี่ยน Pod
ลูกจรวดชนิดใหม่ได้ทันที(น้อยกว่า ๑๐นาที)
รองรับการยิงจรวดที่มีระยะยิงไกลสุดตั้งแต่ 40km จนถึง 300km
ตั้งแต่จรวดไม่นำวิถีขนาด 122mm(GRAD รัสเซีย)
ซึ่งรองรับจรวด DTI-2 ที่พัฒนาในไทย และจรวดแบบ SHE-30 และ SHE-40
จีนที่ใช้ร่วมกับจรวดหลายลำกล้องอัตตาจร SR4
จีนที่กองทัพบกไทยมีใช้งานอยู่แล้วได้
ขณะที่จรวดนำวิถี Accular ขนาด 122mm ระยะยิงหวังผล 40km ชุดยิง
๑๘นัด(ติดตั้งได้สูงสุดสอง pod รวม ๓๖นัด)
จะเป็นจรวดพื้นสู่พื้นแบบแรกที่จะมีการทดสอบการยิงจริง ณ
สนามยิงปืนใหญ่เขาพุโลน ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ศป. จังหวัดลพบุรี ในระยะยิง 19km
ภายในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๗ นี้
ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นหลังพิธีส่งมอบระบบต้นแบบล่าสุด(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/blog-post.html)
รวมถึงจรวดนำวิถี EXTRA ขนาด 306mm ระยะยิงหวังผล 150km ชุดยิงละ ๔นัด(สอง pod
รวม ๘นัด) และจรวดนำวิถี Predator Hawk ขนาด 370mm ระยะยิงหวังผล 300km ชุดยิง
๒นัด(สอง pod รวม ๔นัด) ทั้งนี้ Elbit Systems
อิสราเอลยังได้เสนอจรวดร่อนทางยุทธวิธีอัตโนมัติ(Autonomous Loitering Munition)
แบบ SkyStriker
ซึ่งสามารถทำการยิงจากฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ D11A ได้ด้วยครับ