วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

แคนาดาลงนามจัดหาเครื่องบินฝึกใบพัด PC-21 สวิตเซอร์แลนด์ 19เครื่อง

Canada signs for PC-21 training aircraft





The PC-21 will be used to train Canadian military pilots from 2026 under a contract for 19 aircraft signed on 28 November. (Pilatus)

แคนาดาได้ลงนามสำหรับการจัดหาเครื่องบินฝึกใบพัด Pilatus PC-21 จำนวน 19เครื่อง บริษัท Pilatus สวิตเซอร์แลนด์ผู้ผลิตประกาศเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2024  เครื่องบินฝึกเครื่องยนต์ใบพัดเดี่ยว tuborprop แบบ PC-21 จะถูกส่งมอบให้แก่
บริษัท SkyAlyne แคนาดา(เป็นหุ้นส่วนระหว่างบริษัท CAE แคนาดา และบริษัท KF Aerospace แคนาดา) ในฐานะโครงการการฝึกนักบินอนาคต(FAcT: Future Aircrew Training) ที่กำลังจะมาถึงที่จะมอบให้แก่กองทัพอากาศแคนาดา(RCAF: Royal Canadian Air Force)

ในปี 2023 บริษัท SkyAlyne ได้ถูกเสนอชื่อโดยรัฐบาลแคนาดาในฐานะผู้เข้าแข่งขันที่พึ่งประสงค์ และในปี 2024 บริษัท SkyAlyne ได้รับการประกาศสัญญาอย่างเป็นทางการที่จะส่งมอบเครื่องบินฝึกใหม่ในโครงการ FAcT
ตั้งแต่ปี 2026 เครื่องบินฝึกใบพัด PC-21 ใหม่เหล่านี้จะประจำการปฏิบัติการจากฐานทัพอากาศ RCAF Base Moose Jaw ในตอนกลางของรัฐ Saskatchewan แคนาดา ที่ซึ่งเครื่องบินจะถูกใช้เป็นหลักเพื่อมอบการฝึกนักบินขั้นก้าวหน้าภายใต้โครงการ FAcT ระยะเวลา 25ปี

นอกเหนือจากแคนาดา เครื่องบินฝึกใบพัด PC-21 ได้ถูกนำเข้าประจำการในกองทัพอากาศออสเตรเลีย(RAAF: Royal Australian Air Force), กองทัพอากาศและอวกาศฝรั่งเศส(French Air and Space Force, AAE: Armée de l'Air et de l'Espace),
กองทัพอากาศจอร์แดน(RJAF: Royal Jordanian Air Force), กองทัพอากาศกาตาร์(QEAF: Qatar Emiri Air Force), กองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย(RSAF: Royal Saudi Air Force), กองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force),

กองทัพอากาศสเปน(Spanish Air Force, EdAE: Ejército del Aire Español), กองทัพอากาศสวิตเซอร์แลนด์(Swiss Air Force) และกองทัพอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAEAF&D: United Arab Emirates Air Force and Defence) ในภารกิจการฝึกนักบินทางทหาร
บริษัท QinetiQ สหราชอาณาจักรยังมีเครื่องบินฝึกใบพัด PC-21 ใช้งานสำหรับโรงเรียนนักบินทดสอบจักรวรรดิสหราชอาณาจักร UK Empire Test Pilots จนถึงตอนนี้มีเครื่องบินฝึก PC-21 มากกว่า 230เครื่องที่ประจำการในกองทัพทั่วโลก

"เครื่องบินฝึก PC-21 มอบคุณประโยชน์จำนวนมากเหนือกว่าเครื่องบินฝึกตามแบบและได้รับการติดตั้งด้วยระบบ avionic ล้ำยุคเพื่อให้มั่นใจการเปลี่ยนผ่านที่ไร้ร้อยต่อไปสู่เครื่องบินขับไล่ไอพ่นชั้นแนวหน้า
นอกจากนี้ การออกแบบที่เป็นนวัตกรรมของเครื่องบินฝึก PC-21 มอบการลดค่าใช้จ่ายการปฏิบัติการอย่างมีนัยสำคัญและประสิทธิภาพอย่างมหาศาลในการปฏิบัติการฝึก คุณภาพต่างๆเหล่านี้ทำ PC-21 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับแคนาดา" Kevin Lemke ผู้บริหารอาวุโสของ SkyAlyne แคนาดาอธิบาย

ในเดือนมีนาคม 2024 กองทัพอากาศแคนาดาได้ปลดประจำการเครื่องบินฝึกไอพ่น BAE Systems CT-155 Hawk จำนวน 17เครื่องของหน่วยฝึกบิน NATO แคนาดา(NFTC: NATO Flying Training in Canada) ในฐานทัพอากาศ RCAF Base Moose Jaw ที่ได้รับมอบเครื่องแรกในปี 2000
กองทัพอากาศแคนาดาได้ส่งศิษย์การบินส่วนหนึ่งของตนเข้าร่วมโครงการการฝึกนักบินไอพ่นร่วมยุโรป-NATO(ENJJPT: Euro-NATO Joint Jet Pilot Training) ที่ฐานทัพอากาศ Sheppard Air Force Base(AFB) มลรัฐ Texas และโรงเรียนการบินนานาชาติ(International Flying Training School) ที่ Decimomannu อิตาลี ซึ่งจะดำเนินไปจนถึงไม่เกินปี 2028 หลังการรับมอบ PC-21 ครับ

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เกาหลีใต้ทำพิธีขึ้นระวางประจำการเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น KDX-III Batch 2 ลำแรก DDG-995 ROKS Jeongjo The Great

South Korea commissions first KDX-III Batch 2 destroyer




ROKS Jeongjo , lead ship in the RoKN's KDX-III Batch 2 programme. (HD Hyundai Heavy Industries/Naval News)



กองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี(RoKN: Republic of Korea Navy) ได้ทำพิธีขึ้นระวางประจำการเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Sejong The Great(Daewang) ลำที่4 ในชุดเรือพิฆาตแบบ KDX-III Batch 2 ลำแรกจาก 3ลำ
เรือพิฆาต DDG-995 ROKS Jeongjo The Great ถูกทำพิธีขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2024 ณ อู่เรือบริษัท Hyundai Heavy Industries(HD HHI) สาธารณรัฐเกาหลีใน Ulsan ตามหลังการทดลองเรือเป็นระยะเวลามากกว่า 2ปี

เรือพิฆาตชั้น Sejong The Great เรือพิฆาต DDG-995 ROKS Jeongjo The Great มีความยาวเรือรวม 170m, ความกว้างเรือรวม 21m และมีระวางขับน้ำเต็มที่ที่ 11,000tonnes(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/hhi-kdx-iii-batch-ii.html)
เรือพิฆาต DDG-995 ROKS Jeongjo The Great ติดตั้งระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ gas turbine จำนวน 4เครื่อง และระบบช่วยขับเคลื่อน auxiliary propulsion system จำนวน 2เครื่องที่ผสมผสานกัน สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ประมาณ 30knots

SangBong Lee หัวหน้าฝ่ายออกแบบและวิศวกรรมของหน่วยธุรกิจเรือกองทัพเรือและเรือพิเศษ(Naval and Special Ship Business Unit) ของบริษัท HD HHI สาธารณรัฐเกาหลี กล่าวกับ Janes ว่า
เรือพิฆาต KDX-III Batch 2 ใหม่จะมีคุณลักษณะขีดความสามารถการตรวจการณ์, การโจมตี และสงครามปราบเรือดำน้ำ(ASW: Anti-Submarine Warfare) ที่ได้รับการเพิ่มขยายมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเรือพิฆาต KDX-III Batch 1 จำนวน 3ลำแรกที่เข้าประจำการระหว่างปี 2008-2012

เรือพิฆาต DDG-995 ROKS Jeongjo The Great จะยังสามารถวางกำลังเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเลพหุภารกิจ Lockheed Martin/Sikorsky MH-60R Seahawk บนดาดฟ้าบินเฮลิคอปเตอร์ของตนสำหรับการปฏิบัติการสงครามปราบเรือดำน้ำ ASW ด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2020/12/mh-60r.html)
Hyunki Cho รองรัฐมนตรีขีดความสามารถปัจจุบันของสำนักงานโครงการจัดหากลาโหม(DAPA: Defense Acquisition Program Administration) สาธารณรัฐเกาหลี ยังกล่าวกับ Janes ว่า

ขีดความสามารถของเรือพิฆาต KDX-III Batch 2 จะยังได้รับการส่งเสริมโดยการบูรณาการและได้รับการเพิ่มขยายของระบบอำนวยการรบแบบ Lockheed Martin Aegis สหรัฐฯ "ขีดความสามารถต่างๆที่ได้รับการเพิ่มขยายของเรือพิฆาต ROKS Jeongjo 
จะได้รับการสนับสนุนโดยระบบอำนวยการรบ Aegis Baseline 9 ที่ทรงพลังมากกว่า ซึ่งมีขีดความสามารถการคำนวณต่างๆที่ก้าวหน้ามากว่าเมื่อเปรียบเทียบกับระบบอำนวยการรบ Aegis Baseline 7 ที่ถูกบูรณาการในเรือพิฆาต KDX-III Batch 1" Cho กล่าว

เรือพิฆาต DDG-995 ROKS Jeongjo The Great ยังจะได้รับการติดตั้งด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ RTX Raytheon SM-6 Block I ที่ทำการยิงจากแท่นยิงแนวดิ่ง Lockheed Martin Mk 41 VLS(Vertical Launch System)
ซึ่งเรือพิฆาต KDX-III Batch 2 มีความตั้งใจหลักที่จะนำมาวางกำลังสำหรับการปฏิบัติการป้องกันภัยทางอากาศ ที่เป็นลำดับความสำคัญของรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีในนครหลวง Seoul ตามที่ขีดความสามารถด้านขีปนาวุธของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้เพิ่มสูงขึ้นครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/hwaseong-19.html)

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ปากีสถานเปิดตัวการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ JF-17 PFX ยุคอนาคต

Pakistan unveils JF-17 PFX fighter







This latest production model of the JF-17 was displayed by the PAF at the IDEAS 2024 in Karachi. (Suff Shikan)



กองทัพอากาศปากีสถาน(PAF: Pakistan Air Force) ได้เปิดตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกสำหรับแบบจำลองของเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตของเครื่องบินขับไล่ Pakistan Aeronautical Complex(PAC)/Chengdu Aircraft Corporation(CAC) JF-17 Thunder ของตน
รู้จักในชื่อเครื่องบินขับไล่ทดลองปากีสถาน JF-17 PFX(Pakistan Fighter Experimental) แบบจำลองได้ถูกแสดง ณ งานสัมมนาและแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์นานาชาติ International Defence Exhibition and Seminar(IDEAS) 2024 ในมหานคร Karachi ปากีสถานเมื่อวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2024 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป

เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศปากีสถาน ณ งานแสดง IDEAS 2024 อธิบายเครื่องบินขับไล่ JF-17 PFX ในฐานะเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5-plus พวกเขายังกล่าวว่าการพัฒนาของเครื่องบินขับไล่ JF-17 PFX คาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนสิ้นทศวรรษปี 2020s
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลปากีสถานกล่าวกับ Janes ว่าเครื่องบินขับไล่ JF-17 PFX จะติดตั้งด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ(AAM: Air-to-Air Missile) ที่มีระยะยิงไกลกว่าที่ติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ JF-17 รุ่นก่อนหน้า

และปากีสถานมีความตั้งใจที่จะผลิตระบบ radar ของเครื่องบินขับไล่ JF-17 PFX ภายในประเทศ อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยไกลที่ได้รับการคาดว่าจะได้รับการจัดหาโดยปากีสถาน
สำหรับการบูรณาการเข้ากับเครื่องบินขับไล่ JF-17 PFX รวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยไกล PL-15 ของจีน(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/j-10c.html, https://aagth1.blogspot.com/2022/01/j-10.html)

ในปี 2022 ปากีสถานได้เริ่มต้นการรับมอบอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ PL-15 สำหรับการติดตั้งเข้ากับเครื่องบินขับไล่ JF-17C Block III รุ่นในสายการผลิตล่าสุดของเครื่องบินขับไล่ตระกูล JF-17 Thunder(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/jf-17b-14.html)
ซึ่งได้ถูกเปิดตัวโดย Pakistan Aeronautical Complex(PAC) รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมอากาศยานปากีสถาน ณ โรงงานอากาศยานของตนใน Kamra ทางตอนเหนือของนครหลวง Islamabad ในปี 2023(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/jf-17b-12.html)

กองทัพอากาศปากีสถานได้กล่าวว่าเครื่องบินขับไล่ JF-17C Block III ได้มอบขีดความสามารถต่างๆที่ได้รับการปรับปรุงหลายอย่าง สิ่งเหล่านี้รวมถึงความคล่องแคล่วการดำเนินกลยุทธที่เหนือชั้น, พิสัยทำการที่เพิ่มขยายขึ้น และขีดความสามารถการรบต่างๆที่ได้รับการเพิ่มขยาย
ตามข้อมูลจากกองทัพอากาศปากีสถาน การเพิ่มขยายของเครื่องบินขับไล่ JF-17C Block III รวมถึงการลดภาคตัดขวาง radar(RCS: Radar Cross-Section) ของอากาศยาน ที่เป็นผลของการนำวัสดุผสมมาใช้เป็นจำนวนมาก และระบบ avionic ที่ได้รับการปรับปรุง

เครื่องบินขับไล่ JF-17 ปากีสถาน-จีนยังประสบความสำเร็จในการส่งออกแก่กองทัพอากาศพม่า(Myanmar Air Force, Tatmadaw Lei หรือ Tatmadaw Lay) 16เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2019/11/yak-130-jf-17.html),
ไนจีเรีย 3เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2021/05/jf-17-29-super-tucano.html) และล่าสุดอาเซอร์ไบจานซึ่งไม่เปิดเผยจำนวนครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/jf-17c-block-iii.html)

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เวียดนามรับมอบเครื่องบินฝึกใบพัด T-6C สหรัฐฯ 5เครื่องแรกจาก 12เครื่อง

Update: Vietnam receives five T-6C trainer aircraft





Beechcraft T-6C aircraft destined for the Vietnam People's Air Force are parked on a flight line in Canada before they are scheduled to make the flight to the southeast Asian country. (Beechcraft/US Department of Defense)



รัฐบาลสหรัฐฯได้ส่งมอบเครื่องบินฝึกและโจมตีเบาเครื่องยนต์ใบพัด Textron Beechcraft T-6C Texan II ชุดแรกจำนวน 5เครื่องจากที่ได้รับสัญญาสั่งจัดหาจำนวน 12เครื่องแก่กองทัพอากาศประชาชนเวียดนาม(VPAF: Vietnam People's Air Force)
เครื่องบินฝึกและโจมตีเบาใบพัด T-6C Texan II จำนวน 5เครื่องได้ทำการบินเดินทางจากสหรัฐฯผ่านหลายๆประเทศจนมาถึงฐานทัพอากาศ Phan Thiet ในตะวันออกเฉียงใต้ของเวียดนามเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2024

การจัดซื้อจัดจ้างของเวียดนามของเครื่องบินฝึกใบพัด T-6C เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงร่วมโดยกระทรวงกลาโหมเวียดนามและกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ในเดือนมิถุนายน 2021(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/t-6.html)
กองทัพอากาศสหรัฐฯเห็นชอบที่จะไม่เพียงแต่จัดส่งเครื่องบินฝึกใบพัด T-6C จำนวน 12เครื่องแก่รัฐบาลเวียดนามในนครหลวง Hanoi แต่จะยังสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างด้วยโครงการการฝึกนักบินขั้นต้น, วิศวกรรม, การส่งกำลังบำรุง และชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ

"เครื่องบินฝึก T-6C (จะ)ปฏิบัติการและเพิ่มพูนโครงการการฝึกนักบิน(ของกองทัพอากาศประชาชนเวียดนาม)" สถานทูตและสถานกงสุลสหรัฐฯประจำเวียดนามกล่าวในแถลงการณ์ประชาสัมพันธ์เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2024
กองทัพอากาศแปซิฟิก(PACAF: Pacific Air Forces) กองทัพอากาศสหรัฐฯ อธิบายเครื่องบินฝึก T-6C ในฐานะ "เครื่องบินฝึกทางทหารยุคอนาคตที่ถูกออกแบบเพื่อจะเตรียมตัวเหล่านักบินสำหรับภารกิจต่างๆที่หลากหลาย

ตามข้อมูลจากกองทัพอากาศแปซิฟิกสหรัฐฯ PACAF กองทัพอากาศประชาชนเวียดนามจะรวมเครื่องบินฝึกใบพัด T-6C Texan II เข้าสู่โครงการการฝึกนักบินของตน ณ ฐานทัพอากาศ Phan Thiet ในตะวันออกเฉียงใต้ของเวียดนาม
ผู้บัญชาการกองทัพอากาศประชาชนเวียดนาม พลอากาศโท Nguyen Van Hien กล่าวว่าเครื่องบินฝึก T-6C Texan II จะเป็นส่วนประกอบที่เติมเต็มขีดความสามารถการฝึกต่างๆและการทำงานร่วมกันของกองทัพอากาศประชาชนเวียดนาม

ขณะที่ "ตรงตามความต้องการต่างๆของการฝึกนักบินทางทหาร, ความพร้อมปฏิบัติภารกิจ, (และ)การปกป้องมาตุภูมิ" ตามข้อมูลจาก พลอากาศโท Nguyen เวียดนามจะมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับสหรัฐฯ
ใน "การสำรวจและนำมาใช้ประโยชน์ของเครื่องบินฝึก T-6C Texan II ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด" สำหรับการฝึกและการมอบหมายหน้าที่อื่นๆในกองทัพอากาศประชาชนเวียดนาม

กองทัพอากาศประชาชนเวียดนามมีความพยายามที่จะปรับปรุงความทันสมัยการฝึกนักบินของตน(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/l-39ng-l-39-skyfox.html) ตามที่ล่าสุดเครื่องบินฝึกไอพ่นและโจมตีเบา Aero Vodochody L-39NG เข้าประจำการแล้ว 6เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/l-39ng-6-12.html)
เวียดนามได้สั่งจัดหาเครื่องบินฝึกไอพ่นและโจมตีเบา L-39NG จำนวน 12เครื่องในเดือนกุมภาพันธ์ 2021(https://aagth1.blogspot.com/2021/02/l-39ng-12.html) และคาดว่าจะได้รับมอบครบภายในสิ้นปี 2024 นี้ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/l-39ng.html)

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

อากาศยานรบไร้คนขับ Bayraktar TB3 UCAV ตุรกีบินขึ้นและลงจอดบนเรือยกพลขึ้นพลบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอย TCG Anadolu ครั้งแรก

Update: Türkiye flies TB3 UCAV from Anadolu aircraft carrier




The Photos from a Baykar showing the first launch and recovery of the TB3 Bayraktar UCAV from Türkiye's Anadolu aircraft carrier on 19 November. (Baykar)





ตุรกีได้ทำการบินอากาศยานรบไร้คนขับ Baykar Bayraktar TB3 (UCAV: Unmanned Combat Aerial Vehicle) เป็นครั้งแรกจากดาดฟ้าบินของเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอย L-400 TCG Anadolu LHD(Landing Helicopter Dock)
เหตุการณ์สำคัญเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2024 มีขึ้นตามมา 13เดือนหลังจากอากาศยานรบไร้คนขับ Bayraktar TB3 UCAV ทำการบินครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/11/bayraktar-tb3-ucav.html)

โดยตัวอากาศยานรบไร้คนขับ TB3 UCAV เองซึ่งเป็นรุ่นมีขนาดใหญ่กว่าของอากาศยานรบไร้คนขับ Bayraktar TB2 UCAV ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการหกเดือนก่อนหน้าการทำการบินครั้งแรกของตนในเดือนเมษายน 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/bayraktar-tb3-ucav.html)
"Bayraktar TB3 ได้สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะอากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle) แบบแรกที่ประสบความสำเร็จการบินขึ้นและลงจอดบนทางวิ่งระยะสั้นของเรือบรรทุกเครื่องบิน TCG Anadolu" บริษัท Baykar ตุรกีกล่าวบนบัญชี X(Twitter เดิม) ทางการของตน

อากาศยานรบไร้คนขับ Bayraktar TB3 UCAV ระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ใบพัด turboprop ได้รับการออกแบบให้สามารถพับปีกได้สำหรับการประจำการบนเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Anadolu LHD ของกองทัพเรือตุรกี(Turkish Navy)(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/istanbul.html)
ซึ่ง TB3 UCAV จะปฏิบัติการควบคู่ไปกับอากาศยานรบไร้คนขับ Baykar Bayraktar Kızılelma UCAV เครื่องยนต์ไอพ่น(https://aagth1.blogspot.com/2022/11/baykar-kizilelma.html) ในฐานะส่วนหนึ่งของกองบินปีกตรึงไร้คนขับประจำเรือโดยเฉพาะ(เป็นกองบินรูปแบบนี้หน่วยแรกของโลก)

อากาศยานรบไร้คนขับ Bayraktar TB3 UCAV มีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด(MTOW: Maximum Take-Off Weight) ที่สูงกว่า ที่ทำให้ทำให้เครื่องมีภารกรรมบรรทุกได้ขนาดใหญ่กว่าและหนักกว่าอากาศยานรบไร้คนขับ Bayraktar TB2 รุ่นก่อน
มีความยาว 8.35m, สูง 2.6m, มีปีกกว้าง 14m, น้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 1,450kg และสามารถบรรทุกได้ถึง 280kg มีความเร็วสูงสุดที่ 150knots และความเร็วเดินทางที่ 125knots มีเพดานบินสูงสุดที่ 30,000ft ขณะที่มีรัศมีการปฏิบัติภารกิจไกลสุดที่ 2,200km ที่ความสูง 20,000ft 

ก่อนหน้าเหตุการณ์สำคัญล่าสุดนี้ บริษัท Baykar กล่าวว่าตนได้ทำการจำลองการลงจอด 'กว่าพันครั้ง' ของอากาศยานรบไร้คนขับ Bayraktar TB3 UCAV บนเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอย TCG Anadolu
รวมถึงการทดสอบการบินขึ้นจากจากทางวิ่ง ski-jump บนบกครั้งแรกซึ่งได้ถูกดำเนินการในเดือนมิถุนายน 2024 ณ ศูนย์การฝึกและทดสอบการบิน Baykar ใน Keşan, Edirne ตุรกี(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/bayraktar-tb3-ucav-ski-jump.html

TB3 UCAV ได้ประสบความสำเร็จในการเสร็จสิ้นการบินขึ้นจากทางวิ่ง ski-jump ของตนในความพยายามทั้งหมดสี่ครั้ง ทางวิ่ง ski-jump ที่ศูนย์การฝึกและทดสอบการบิน Baykar ได้ถูกสร้างให้มีคุณลักษณะเช่นเดียวกับที่เรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Anadolu และมีมุมยกทางลาดขึ้นที่ 12องศา
อากาศยานรบไร้คนขับ Bayraktar TB3 UCAV ติดตั้งได้ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล turbodiesel กำลัง 170hp หรือเครื่องยนต์ลูกสูบสี่จังหวะกำลัง 141hp ในการบินครั้งแรกr TB3 UCAV ได้ติดตั้งเครื่องยนต์ PD-170 กำลัง 170hp ที่พัฒนาโดยบริษัท Tusas Engine Industries(TEI) ตุรกี ซึ่งมีความเข้ากันได้กับการใช้งานในทะเลครับ

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

Chaiseri ไทยเปิดตัวยานเกราะล้อยาง HISAAR 4x4 สำหรับปากีสถาน








Thai defence industry Co., Ltd (TDI), a joint venture between DTI and Chaiseri Company Limited, led by Mr. Karn Kulhiran, Managing Director, and HIT (Heavy industry taxila), a government agency under the Pakistani Ministry of Defence, the largest armoured vehicle manufacturer in Pakistan, 
signed a joint venture agreement  to produce 100 HISAAR 4x4 MRAP (Mine-Proof Armored Vehicle) at HIT's factory in Taxila, Rawalpindi Province. 
The event was honored by Admiral Worawut Prueksarungruang, Chairman of the Advisory Board of the Royal Thai Navy, representative of the Commander-in-Chief of the Royal Thai Navy attending IDEAS2024, Colonel Thanai Phuemphun, Assistant Defence Attache in Islamabad, and Mr. Panutat Yodkaew, Acting Thai Consul in Karachi. 
In the signing of the cooperation, HISAAR 4x4 MRAP (Mine-Proof Armored Vehicle) is an armored vehicle developed from the D-Tiger vehicle jointly developed by TDI and Chaiseri Co., Ltd.
From this cooperation, TDI will transfer armored vehicle technology (Technology Transfer) as a Technical partner in the production line in HIT's factory. Both organizations also look for opportunities to seek cooperation in exporting armored vehicles to Pakistan and Thailand's allies in the Middle East, West Asia and Africa.

บริษัท Thai defence industry Co., Ltd (TDI) บริษัท ร่วมทุน ระหว่าง สทป. กับ บริษัท ชัยเสรี โดย นาย กานต์ กุลหิรัญ กรรมการผู้จัดการ และ HIT (Heavy industry taxila) หน่วยภาครัฐภายใต้กระทรวงกลาโหมปากีสถานผู้ผลิตยานเกราะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศปากีสถาน โดย Brig. Nadeem Ahsan, Director General 
ได้ร่วมลงนาม สัญญาความร่วมมือ(JV agreement) ที่จะร่วมผลิต HISAAR 4x4 MRAP (ยานเกราะป้องกันระเบิด) ณ โรงงาน ของ HIT เมือง Taxila แคว้น Rawalpindi จำนวน 100 คัน 
โดยได้รับเกียติจาก พลเรือเอก วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ ร่วมงาน IDEAS2024 พันเอก ทนาย เพิ่มพูล ผู้ช่วยฑูตทหารประจำกรุงอิสลามาบัด และ นายภาณุทัต ยอดแก้ว รักษาการ กงสุล ไทย ประจำเมือง การาจี ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการลงนามความร่วมมือดังกล่าว 
HISAAR 4x4 MRAP (ยานเกราะป้องกันระเบิด) เป็น ยานเกราะ ที่พัฒนานามาจากยานเราะ D-Tiger ที่ร่วมพัฒนานาโดย สทป. และ บ. ชัยเสรี
จากความร่วมมือนี้ TDI จะทำการถ่ายเทคโนโลยียานเกราะ (Technology Transfer) เป็น Technical partner ในตั้งproduction line ใน โรงงาน ของ HIT และทั้งสององค์กรยังมองถึงโอกาสแสวงผลความร่วมมือในการส่งออกยานเกราะไปยังประเทศพันธมิตรของปากีสถานและไทยในพื้นที่ เอเชียตะวันออกกลาง เอเชียตะวันตก และอัฟริกา

เปิดตัว HISAAR รถเกราะFirst Winเวอร์ชั่นสำหรับกองทัพปากีสถาน
บริษัท ชัยเสรี เมนทัลแอนด์รับเบอร์ ได้นำเสนอรถหุ้มเกราะMRAP HISAAR (ปราการ) ที่ได้นำเสนอต่อกองทัพบกปากีสถาน ในนิทรรศการด้านความมั่นคงIDEAS 2024 ที่จัดขึ้นในนครการาจีของปากีสถานระหว่างวันที่ 19 ถึง 22 พฤศจิกายน 67
โดยรถหุ้มเกราะคันต้นแบบจากประเทศไทย ได้ร่วมจัดแสดงในพื้นที่ของHeavy Industry Taxila บริษัทอุตสาหกรรมหนักทางการทหารของรัฐบาลปากีสถาน
การมาร่วมงานในครั้งนี้เป็นการดำเนินการที่ต่อเนื่องหลังจากบริษัทชัยเสรีได้ลงนามความร่วมมือ บริษัท Margalla Heavy Industries Limited ของกองทัพปากีสถาน โดยมีบริษัท Paradigm Technologies International ร่วมเป็นหุ้นส่วนฝ่ายปากีสถาน ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อให้ปากีสถานสามารถผลิตยานเกราะ First Win 4x4 ให้กับกองทัพปากีสถานได้ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา
HISAAR เป็นรถหุ้มเกราะFirst Win ALV (Armored  light Vehicle)ที่ปรับแต่งรูปแบบตามความต้องการของกองทัพปากีสถาน เพื่อบรรทุกกำลังพลได้10+1นาย ภายใต้เกราะป้องกันในระดับSTANAG Lv4 สามารถทำการลำเลียงขนส่งด้วยเครื่องบินลำเลียงแบบC-130 โดยก่อนหน้านี้ First Win ALV ได้มีการบรรจุเข้าประจำการใช้งานในกองทัพไทยแล้ว 

ยานเกราะล้อยางป้องกันทุ่นระเบิดและซุ่มโจมตี(MRAP: Mine-Resistant Ambush Protected) แบบ HISAAR 4x4 มีพื้นฐานจากยานเกราะล้อยาง First Win ALV(Armored Light Vehicle) 4x4 ที่พัฒนาโดยบริษัท ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด(Chaiseri metal & rubber Co. Ltd.) ไทย ที่จะผลิตภายใต้ข้อตกลงร่วมกับ Heavy Industries Taxila(HIT) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตรถถังยานเกราะของปากีสถาน
ซึ่งส่งออกในนาม บริษัท Thai Defense Industry จำกัด(TDI) ไทย ที่เป็นกิจการร่วมทุน(joint venture) ระหว่างสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สปท. DTI(Defence Technology Institute) หน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมไทย และบริษัท Chaiseri ไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ของเอกชนแก่ต่างประเทศในรูปแบบข้อตกลงแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล

บริษัท TDI ไทยได้เปิดตัวยานเกราะล้อยาง DTI D-Tiger 4x4 ซึ่งมีพื้นฐานจากยานเกราะล้อยางตระกูล First Win 4x4 ครั้งแรกในงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ Defense & Security 2022 ในไทยในปี พ.ศ.๒๕๖๕(https://aagth1.blogspot.com/2022/08/defense-security-2022-chaiseri-dti-d.html) ที่ยานเกราะล้อยาง HISAAR 4x4 มีพื้นฐานมาจากยานเกราะล้อยางของ Chaiseri ไทยนี้
บริษัท TDI ไทย และ HIT ปากีสถานและบริษัท Paradigm Technologies International ปากีสถานได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU: Memorandum of Understanding) ในการบรรลุข้อตกลงการขายยานเกราะล้อยาง First Win 4x4 จำนวน ๑๐๐คัน พร้อมการถ่ายทอดสิทธิบัตรการผลิต เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๗(2024)(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/first-win-4x4-100.html)

ซึ่งตามมาด้วยการลงนามสัญญาความร่วมมือ(joint venture agreement) สำหรับการผลิตร่วมของยานเกราะล้อยาง HISAAR 4x4 ที่โรงงาน Margalla Heavy Industries Limited ของ HIT ใน Taxila, Punjab ระหว่างนิทรรศการแสดงอาวุธนานาชาติ International Defence Exhibition & Seminar(IDEAS 2024) ที่ Karachi Expo Centre(KEC) ใน Karachi ปากีสถานเมื่อวันที่ ๑๙-๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๗
แม้จะไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของสัญญา เป็นที่เข้าใจว่ายานเกราะล้อยาง HISAAR 4x4 สำหรับปากีสถานชุดแรกจำนวนหนึ่งจะถูกผลิตที่โรงงานของ Chaiseri ในไทย โดยรถชุดหลังจากนั้นจะผลิตในโรงงาน HIT ปากีสถาน เป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ที่สุดของภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยในการส่งออกยานเกราะตระกูล First Win 4x4 ต่อจากมาเลเซีย, อินโดนีเซีย และภูฎานครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/first-win-4x4-atv-mi-47-mi-9.html)

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

สวีเดนส่งมอบอะไหล่สำหรับเครื่องบินขับไล่ Gripen 14เครื่องแก่ยูเครนล่วงหน้า

Ukraine conflict: Swedish spares package covers 14 Gripens, defence minister says







Seen in Swedish service, the Gripen is being earmarked for Ukraine, also with spares for 14 aircraft being transferred. (Saab/Jörgen Nilsson)

สวีเดนได้รวมอะไหล่ต่างๆสำหรับเครื่องบินขับไล่ Saab JAS 39 Gripen จำนวน 14เครื่องที่ตนตั้งใจจะส่งมอบแก่ยูเครนในภายหลัง(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/gripen-nato.html)
รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดน Pål Jonson ได้ทำการเปิดเผยระหว่างการประชุมสัมมนาสื่อร่วมกับคู่หุ้นส่วนของเขารัฐมนตรีกลาโหมยูเครน Rustem Umerov ในกรุง Stockholm สวีเดนเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา

"มันมีชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆสำหรับระบบ(เครื่องบินขับไล่ Gripen) ถึง 14เครื่องในชุดความช่วยเหลือล่าสุด" รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดน Jonson กล่าวถึงชุดความช่วยเหลือทางทหารของสวีเดนวงเงิน 4.6 billion Swedish Krona($415 million) ที่ประกาศเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2024
ครึ่งหนึ่งของมูลค่าในวงเงินของชุดความช่วยเหลือทางทหารนี้ประกอบด้วยชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ อย่างไรก็ตามที่เคยกล่าวเมื่อชุดความช่วยเหลืออะไหล่ระยะแรกได้รับการประกาศ รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดน Jonson เน้นย้ำซ้ำอีกครั้งว่า

ลำดับความสำคัญปัจจุบันของแนวร่วมเครื่องบินขับไล่นานาชาติ(international fighter collation) ที่รวมถึง เบลเยียม(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/nato-f-16ambm.html), เดนมาร์ก(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/f-35a.html),
เนเธอร์แลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/f-16ambm-f-35a.html), สหราชอาณาจักร, และสหรัฐฯ คือการส่งมอบและสนับสนุนที่กำลังดำเนินอยู่ของเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16 Fighting Falcon แก่กองทัพอากาศยูเครน(Ukrainian Air Force)

เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยวและเครื่องยนต์เดี่ยว JAS 39C Gripen C (และ/หรือเครื่องบินขับไล่สองที่นั่งและเครื่องยนต์เดี่ยว JAS 39D Gripen D ที่เป็นรุ่นเครื่องบินฝึกการปฏิบัติการ) จะมีคุณค่าในการเพิ่มเติมต่อรายการยุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศยูเครน
ในแง่ที่เครื่องบินขับไล่ Gripen เป็นเครื่องบินขับไล่พหุภารกิจที่มีขีดความสามารถสูง(โดยเน้นไปที่การป้องกันภัยทางอากาศเฉพาะจุด point air defence) ที่ถูกออกแบบที่จะทั้งง่ายต่อการดำรงสภาพและมีค่าใช้จ่ายการปฏิบัติการที่ถูก

(อาจกล่าวได้ว่านั่นเป็นข้อกำหนดความต้องการหลักสามข้อของยูเครนในเครื่องบินรบไอพ่นตอนนี้) "เครื่องบินขับไล่ Gripen เป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาของเราวันนี้" รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดน Jonson กล่าวในการเข้าพบกับรัฐมนตรีกลาโหมยูเครน Umerov
"มันไม่ได้อยู่ในมือของเราเอง แต่เกี่ยวกับสิทธิบัตรการส่งออกต่างๆและหุ้นส่วนอื่นๆในแนวร่วมเครื่องบินขับไล่ผู้ซึ่งกำลังรอที่จะบริจาคเครื่องบินขับไล่ Gripen จนกว่าที่พวกเขาได้ไปไกลกว่านี้แล้วกับเครื่องบินขับไล่ F-16" Jonson เสริม

ตามที่เน้นในการประกาศ ชิ้นส่วนอะไหล่โดยเฉพาะของเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D ที่ถูกบริจาคให้แก่ยูเครน เดิมมีกำหนดที่จะเป็นชิ้นส่วนที่นำกลับมาใช้ใหม่(reuse) สำหรับการสร้างเครื่องบินขับไล่ Gripen E รุ่นใหม่กว่าที่สวีเดนสั่งจัดหาแล้ว 60เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/fmv-gripen-e.html)
กองทัพอากาศยูเครนได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-16AM/BM Block 15 Mid-Life Update(MLU) ชุดแรกราว 10เครื่องจากทั้งหมด 79เครื่องในเดือนสิงหาคม 2024 แล้ว โดยมีการจัดตั้งศูนย์ฝึก F-16 ยุโรป(EFTC: European F-16 Training Center) ในโรมาเนียเมื่อเดือนกันยายน 2024 เพื่อสนับสนุนการฝึกนักบินยูเครนครับ

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โรมาเนียจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A สหรัฐฯ 32เครื่องอย่างเป็นทางการ

Romania formally joins international F-35 programme





Romania is to acquire 32 F-35As (pictured) to augment its F-16 combat aircraft, signing an LOA on 21 November. (Lockheed Martin)



โรมาเนียได้เข้าร่วมโครงการนานาชาติสำหรับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35 Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) สหรัฐฯอย่างเป็นทางการ โดยการลงนามจดหมายขอข้อเสนอและตอบรับ(LOA: Letter of Offer and Acceptance) สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-35A จำนวน 32เครื่อง
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2024 บริษัท Lockheed Martin สหรัฐผู้ผลิตประกาศการลงนาม LOA มีขึ้นหลายสัปดาห์หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯอนุมัติการขายเครื่องบินขับไล่โจมตี 'ยุคที่ห้า' แก่โรมาเนีย เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/f-35a-32.html)

ณ เวลานั้น สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหมสหรัฐฯ(DSCA: Defense Security Cooperation Agency) ระบุว่าการอนุมัติครอบคลุมเครื่องบินขับไล่ F-35A รุ่นบินขึ้นลงตามแบบ(CTOL: Conventional Take-Off and Landing) 32เครื่อง 
ควบคู่ไปกับอะไหล่ต่างๆ, สิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง, การฝึก และการสนับสนุนเป็นวงเงินประมาณ $7.2 billion ระบบอาวุธไม่ได้ถูกรวมในเอกสารแจ้งนี้และจะมีตามมาภายหลัง(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/f-35a-48.html)

โดยที่จดหมายขอข้อเสนอและตอบรับ LOA ได้ถูกลงนามแล้วตอนนี้ การเจรจารายละเอียดต่างๆขณะนี้จะเริ่มต้นก่อนหน้าที่สัญญาจะบรรลุผลเสร็จสิ้น ตามร่างเค้าโครงก่อนหน้าที่ออกโดยกระทรวงกลาโหมโรมาเนีย
จดหมายขอข้อเสนอและตอบรับ LOA นี้ครอบคลุมระยะที่1(Phase 1) ของแผนของโรมาเนียที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A สองฝูงบินในระยะใกล้ โดยระยะที่2(Phase 2) ที่จะตามมาในปีต่อๆไปภายหลัง เกี่ยวข้องกับการจัดหา F-35A อีกหนึ่งฝูงบินเพิ่มเติมจำนวน 16เครื่อง เพื่อทำให้จำนวนรวมทั้งหมดสามฝูงบินเป็น 48เครื่อง

กำหนดเวลา, เนื้อหา และมูลค่าวงเงินสุดท้ายของการจัดหาระยะที่2 จะถูกพิจารณาหลังจากกระบวนการการประกาศสัญญาจัดซื้อจัดจ้างได้รับการอนุมัติโดยรัฐบาลโรมาเนีย กระทรวงกลาโหมโรมาเนียได้กล่าวว่าความตั้งใจของตนคือจะวางกำลังฝูงบิน F-35A ฝูงแรกหลังปี 2030 
โรมาเนียจะได้รับเครื่องบิน F-35A ของตนจากสายการผลิตหลักที่โรงงานอากาศยาน Fort Worth ในมลรัฐ Texas สหรัฐฯ หรือจากโรงงานอากาศยาน Cameri ในอิตาลี(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/f-35a-fort-worth.html)

เครื่องบินขับไล่ F-35A จำนวน 32เครื่องจะเสริมต่อเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16AM/BM Fighting Falcon ของกองทัพอากาศโรมาเนีย(RoAF: Romanian Air Force) ที่ปัจจุบันมีประจำการจำนวน 17เครื่องได้รับมาจากโปรตุเกสเพิ่มเติมอีกจำนวน 32เครื่องจากนอร์เวย์
หลังการปลดประจำการเครื่องบินขับไล่ MiG-21 LanceR ยุค Warsaw Pact (แม้ว่าภายหลังจะได้รับการปรับปรุงอย่างมากโดยอิสราเอล) ไปก่อนหน้าในปี 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/mig-21-lancer.html)

โรมาเนียจะเข้าร่วมกลุ่มผู้ใช้งานเครื่องบินขับไล่ F-35 ในกลุ่มชาติ NATO และชาติพันธมิตรของยุโรปที่รวมถึง เบลเยียม(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/lockheed-martin-f-35a.html), สาธารณรัฐเช็ก(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/f-35a-24.html), เดนมาร์ก, ฟินแลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/f-35a-64.html), เยอรมนี(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/f-35a-8.html), 
กรีซ(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/f-35a-20.html), อิตาลี(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/f-35-eurofighter-typhoon.html), เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/lockheed-martin-f-35a-husarz.html), สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักรครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/f-35-lightning-ii.html)