DDH-183 JS Izumo. JMSDF
DDH-184 JS Kaga. JMSDF
An F-35B Lightning II conducts the first ever shipborne rolling vertical landing (SRVL) on board HMS Queen Elizabeth. (U.S. Navy photo courtesy of the Royal Navy/Released)
http://www.navyrecognition.com/index.php/news/defence-news/2018/november-2018-navy-naval-defense-news/6689-japan-set-to-procure-f-35b-stovl-aircraft-for-jmsdf-izumo-class-helicopter-destroyer.html
https://aagth1.blogspot.com/2016/07/aircraft-carrier-ibukikuubo-ibuki-kaiji.html, https://aagth1.blogspot.com/2017/03/aircraft-carrier-ibuki-1st-sortie.html
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35B Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) รุ่นบินขึ้นระยะสั้นลงจอดทางดิ่ง STOVL(Short Take-Off Vertical Landing) สหรัฐฯ ในฐานะส่วนหนึ่งของแผนกลาโหมใหม่ที่จะร่างเค้าโครงในเดือนหน้า
ตามที่สื่อญี่ปุ่น Nippon News Network (NNN) รายงาน F-35B จะเป็นอากาศยานประจำเรือบรรทุกเครื่องบินที่จะถูกจัดหาและวางกำลังบนเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Izumo(https://aagth1.blogspot.com/2017/12/f-35b.html)
กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น(JMSDF: Japan Maritime Self-Defense Force) มีเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Izumo ประจำการสองลำคือ DDH-183 JS Izumo และ DDH-184 JS Kaga
เรือชั้น Izumo ทั้งสองลำเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น ด้วยระวางขับน้ำเต็มที่ 27,000tons และความยาวเรือ 248 ที่สามารถจะดัดแปลงให้รองรับปฏิบัติการของอากาศยานปีกตรึงเครื่องยนต์ไอพ่นได้เมื่อได้รับการสั่งดำเนินการ
เรือลำแรกของชั้นคือเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ DDH-183 Izumo ถูกปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2013 และเข้าประจำการเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2015
เรือลำที่สองของชั้นคือเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ DDH-184 Kaga ถูกปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2015(https://aagth1.blogspot.com/2015/08/ddh-184-kaga.html) และเข้าประจำการเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2017(https://aagth1.blogspot.com/2017/03/izumo-ddh-184-kaga.html)
เครื่องบินขับไล่ F-35B STOVL เป็นหนึ่งในสามรุ่นรวมกับเครื่องบินขับไล่ F-35A Lightning II สหรัฐฯรุ่นขึ้นลงตามแบบ CTOL(Conventional Take-Off and Landing) ที่ประจำการในกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น(JASDF: Japan Air Self Defense Force)
โดยบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯได้ให้ความช่วยเหลือแก่โรงงานอากาศยานของบริษัท Mitsubishi Heavy Industries(MHI) ญี่ปุ่นสำหรับการเปิดสายการผลิต F-35A ระดับ FACO(Final Assembly and Check Out) ในญี่ปุ่น(https://aagth1.blogspot.com/2017/06/f-35a.html)
ตามรายงานจาก NNN การที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะนำเครื่องบินขับไล่ F-35B มาประจำการมีผลเกี่ยวเนื่องมาจากการเสริมสร้างแสนยานุภาพของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน(PLA: People's Liberation Army) ที่ขยายอาณาเขตเข้าสู่มหาสมุทรมากขึ้น
ญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งในด้านขีดความสามารถการป้องกันตนเองในน่านน้ำทางตะวันตกเฉียงใต้ที่เป็นพื้นที่พิพาทกับจีน เช่น หมู่เกาะ Senkaku ในภาษาญี่ปุ่น หรือหมู่เกาะ Diaoyu ในภาษาจีน
หนังสือพิมพ์ Nikkei ญี่ปุ่นได้รายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35 Lightning II ทั้งสองรุ่น(F-35A และ F-35B) รวม 100เครื่อง ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นได้สั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A แล้ว 42เครื่องในส่วนกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น
F-35A จะถูกนำมาทดแทนเครื่องบินขับไล่ McDonnell Douglas/Mitsubishi Heavy Industries F-4EJ Phantom II ภายในปี 2024 และมีแผนจัดหาเพิ่มเติมเพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ McDonnell Douglas//Mitsubishi Heavy Industries F-15J Eagle ที่ต่างมีอายุการใช้งานมานาน
ปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านของญี่ปุ่นที่เป็นมหาอำนาจคือสาธารณรัฐประชาชนจีนคาดว่าทำการผลิตและวางกำลังเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 จำนวนมากว่า 250เครื่อง เช่น เครื่องบินขับไล่ J-20 กองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชน(PLAAF: People's Liberation Army Air Force) ภายในปี 2030
เช่นเดียวกับกองทัพอากาศรัสเซีย(Russian Air Force) ที่เครื่องบินขับไล่ยุคที่5 Sukhoi Su-57 คาดว่าจะเข้าประจำการได้อย่างเร็วในปี 2019 เครื่องบินขับไล่ยุค F-35 จึงเป็นความจำเป็นของญี่ปุ่นในการปกป้องความมั่นคงของตนเองจากภัยคุกคามที่กำลังพัฒนาขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้านมหาอำนาจ
รัฐบาลญี่ปุ่นจะรวมการตัดสินใจของตนในโครงร่างแผนกลาโหมที่จะประกาศในเดือนธันวาคม 2018 หลังจากที่มีการแสดงถึงนโยบายเหล่านี้โดยทั้งพรรครัฐบาล Liberal Democratic Party(LDP) และพรรคฝ่ายค้าน Komei
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 หนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun ได้รายงานว่าญี่ปุ่นมีแผนที่จัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35B STOVL จำนวน 40เครื่องซึ่งสามารถปฏิบัติการจากเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Izumo ได้โดยได้รับการปรับเปลี่ยนบางส่วน
Takeshi Iwaya รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นให้ข้อแนะนำในการประชุมร่วมกับสื่อปกติเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน2018 ว่ากระทรวงกลางโหมญี่ปุ่นจะมีการกำหนดความชัดเจนทั้งหมดในแนวทางโครงการกลาโหมแห่งชาติ(NDPG: National Defense Program Guidelines) ที่จะร่างในสิ้นปีนี้
"ตั้งแต่เราประจำการด้วยเรือชั้นดังกล่าว มันเป็นที่พึงปรารถนาที่เราจะใช้พวกเธอเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เราต้องการจะเดินหน้าการวิจัยและศึกษาของเราในเรื่องนี้ (F-35B) เป็นเครื่องบินที่สามารถบินขึ้นและลงจอดจากทางวิ่งสั้น ดังนั้นเรากำลังศึกษาพวกมันในฐานะส่วนหนึ่งว่าเราจะจัดตั้งระบบอากาศยานทั้งหมดอย่างไร" เขาเสริม
ในเดือนมีนาคม 2018 กลุ่มสมาชิกพรรค LPD ที่เป็นพรรครัฐบาลได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นพัฒนาเรือบรรทุกเครื่องบินของตนเองและปฏิบัติการด้วย F-35B ซึ่งถูกรวมอยู่ในแผนการปรับปรุงเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Izumo
ซึ่งรวมการดัดแปลงอย่างทั้งภายในและภายนอกตัวเรือ เช่น การเคลือบสารป้องกันความร้อนที่พื้นผิวของดาดฟ้าบินของเรือให้ทนทานต่อความร้อนจากไอพ่นของ F-35B ขณะทำการลงจอด และปรับเปลี่ยนรูปแบบดาดฟ้าบินเพื่อช่วยในการวิ่งขึ้นและลงจอดของอากาศยานให้ดีขึ้นครับ