Navy Deactivates VFA-101 Grim Reapers, Consolidates F-35Cs at NAS Lemoore
Strike Fighter Squadron VFA-101 had just two F-35C Joint Strike Fighter jets remaining on May 23, 2019, when the squadron deactivated.
The two jets flew off the Eglin Air Force Base flight line for the last time and headed for Naval Air Station Lemoore, Calif., where all F-35C activities will be consolidated. USNI News photo.
A U.S. Navy Sailor marshals the last F-35C Lightning II to leave Eglin Air Force Base, Florida, May 23, 2019. Consolidation of F-35C resources to Naval Air Station Lemoore, California,
enables the U.S. Navy to support Fleet Replacement Squadron (FRS) production, operational fleet transitions for both Navy and Marine Corps squadrons, testing and other requirements. US Air Force photo.
An F-35C Lighting II Joint Strike Fighter prepares to launch from USS Abraham Lincoln (CVN-72) on Monday during operations in the Atlantic. USNI News Photo
https://news.usni.org/2019/05/23/navy-deactivates-vfa-101-grim-reapers-consolidates-f-35cs-at-nas-lemoore
กองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ยุบหนึ่งในสองฝูงบินฝึกเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35C Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) ของตนเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2019
และจะรวบการปฏิบัติการของเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 ของตนทั้งหมดไว้ที่สถานีอากาศนาวี(NAS: Naval Air Station) Lemoore ในมลรัฐ California
ฝูงบินขับไล่โจมตี VFA-101 "Grim Reapers" ได้ถูกจัดตั้งขึ้นในฤดูใบไม้ผลิปี 2012 ในฐานะฝูงบินเครื่องบินขับไล่ F-35C ฝูงแรกที่มีที่ตั้ง ณ ฐานทัพอากาศ Eglin รวมกับกลุ่มฝูงเครื่องบินขับไล่ F-35A ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force)
ซึ่งไกลออกไปจากการพัฒนาและมีประสบการณ์บางส่วนพร้อมกับเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 F-22 Raptor กองทัพเรือสหรัฐฯตัดสินใจในปี 2018 ว่าฝูงบิน Grim Reapers ซึ่มมีประวัติสืบทอดย้อนไปถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จะถูกยุบฝูงเป็นครั้งที่สาม
ฝูงบิน VFA-101 จะส่งกำลังพลและเครื่องบินของตนไปยังฝูงบินขับไล่โจมตี VFA-125 "Rough Raiders" ฝูงบินฝึกเปลี่ยนแบบอากาศยาน(FRS: Fleet Replacement Squadron) อีกฝูงที่ถูกจัดตั้ง ณ NAS Lemoore พร้อมแล้วกับกลุ่มฝูงเครื่องบินขับไล่โจมตีที่เหลือ
ระหว่างฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวสองฝูงบินได้ทำงานร่วมกันหลายครั้งเป็นทีมบูรณาการ FRS และนาวาโท Adan Covarrubias ผู้บังคับฝูงบิน VFA-101 ที่จะรับตำแหน่ง ผบ.ฝูงบิน VFA-125 ในเดือนมิถุนายน 2019 กล่าวกับ USNI News หลังพิธียุบฝูงบินว่า
"มันอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราเคยทำมา เราบูรณาการการฝึกบำรุงรักษา VFA-125 เข้ากับสิ่งที่เราเคยทำ และในทางกลับกันจากฝูงบิน VFA-101 เข้ากับ VFA-125 เราทำทุกอย่างได้ดีที่สุด คิดให้ออกว่าสิ่งได้ทีทำงานได้กับทุกคนและจากนั้นมาพร้อมกับขั้นตอนที่ดีที่สุด" นาวาโท Covarrubias กล่าว
ตัวเขาเองจะเป็นผู้นำฝูงบินฝึกเปลี่ยนแบบฝูงเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และช่างอากาศยานและนักบินจากฝูง VFA-101 เดิมจะมายัง Lemoore กับเขาในจุดประสงค์เพื่อคงองค์ความรู้ของ F-35C ให้กลุ่มฝูงบินให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ขอบคุณงานบูรณากาก่อนหน้านี้ "มันเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ เมื่อเราโอนย้ายสู่ VFA-125 ที่นี่ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทุกคนรู้จักกันและกัน ทุกคนเคยทำงานด้วยกันมาก่อนแล้ว เราทำงานกันมาได้ประมาณหนึ่งปีแล้วและเราทำงานร่วมกันได้ดีจริงๆ" นาวาโท Covarrubias กล่าวต่อ
ฝูงบิน VFA-101 ได้ฝึกนักบินคนสุดท้ายในเดือนมีนาคม-เมษายน และได้ส่งเครื่องบินและอุปกรณ์ไปยัง Lemoore อย่างช้าๆ F-35C สองเครื่องที่เหลือในฝูงบินบินออกจาก Eglin AFB เป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2019 เพื่อมุ่งหน้าไป California
นาวาเอก Max McCoy ฝูงบังคับการกองบิน JSF(Joint Strike Fighter Wing) กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2019 ก่อนหน้าพิธียุบฝูงบินว่า การจัดตั้งฝูงบิน F-35C ร่วมกับกองทัพอากาศสหรัฐฯที่ Eglin ก่อนหน้าได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดมาก
กองทัพเรือสหรัฐฯได้เรียนรู้หลายอย่างเกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องบินขับไล่ยุคที่5ใหม่ และได้จัดตั้งความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญของบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯที่ฐานทัพอากาศ Eglin
แต่นาวาเอก McCoy กล่าวว่าตามที่กองทัพเรือสหรัฐฯได้มุ่งความสนใจไปยังการมีฝูงบินปฏิบัติการฝูงแรก(https://aagth1.blogspot.com/2019/03/f-35c.html) ฝูงบินขับไล่โจมตี VFA-147 "Argonauts" เป็นฝูงบินแรกที่วางกำลังในกองบินเรือบรรทุกเครื่องบิน(CAW: Carrier Air Wing)
จึงได้กลายเป็นที่ชัดเจนว่าในปีที่แล้วว่าการรวบรวมฝูงบินมายัง Lemoore เป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง "มันให้โช้คอัพที่เราจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่า VFA-147 มีทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อก้าวผ่านการเตรียมการและไปสู่การวางกำลัง การเดินหน้าดังกล่าวเป็นความสำคัญลำดับหนึ่งของผม" น.อ.McCoy กล่าว
นาวาเอก McCoy กล่าวว่า VFA-147 ควรจะเดินหน้าตรงตามแผนปี 2021 ที่จะวางกำลังกับกองบินเรือบรรทุกเครื่องบินที่2 บนเรือบรรทุกเครื่องบิน CVN-70 USS Carl Vinson กำลังพลช่างอากาศยานกำลังสร้างความพร้อมของตน แต่ในขั้นนี้ฝูงบินได้รับเพียงนักบินใหม่ 2นายที่ออกจากโรงเรียนการบิน
และกำลังรอนักบินอาวุโสกว่าที่เปลี่ยนแบบจากอากาศยานแบบอื่นมายัง F-35C ดังนั้นการผลิตนักบินที่มีประสิทธิภาพคือสิ่งสำคัญที่จะคงให้ VFA-147 เป็นไปตามกำหนดการ และการยุบ VFA-101 และรวมฝูงบินฝึกเปลี่ยนแบบมาที่ VFA-125 ใน Lemoore จะช่วยให้กองทัพเรือสหรัฐฯทำเช่นนั้นได้
"เมื่อคุณได้รับช่างอากาศยานมากขึ้นและได้รับเครื่องบินมากขึ้น มันจะทำให้คุณมีขีดความสามารถที่จะบินได้หลายเที่ยวบินมากขึ้นในวันที่ทำการบินตามกำหนด ตอนนี้คุณมีเครื่องบินที่สามารถมอบให้นักบินถ้าคุณต้องการ เพราะคุณมีช่างมากคุณสามารถทำงานบำรุงระยะยาวได้เป็นกะหรือหลายวัน
การมีฝูงบินฝึกเปลี่ยนแบบขนาดใหญ่ฝูงเดียวทำให้เรายืดหยุ่นที่จะทำมากขึ้นและเพื่อช่วงเวลาเหล่านั้นที่จะมีความต้องการที่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อคุณแบ่งคนและเครื่องบินให้บางลงมันจะสร้างความท้าทายมากขึ้นและ และมันจะมีไม่มีช่องว่างปิดบังการดำเนินตารางการบิน" น.อ.McCoy อธิบาย
นอกจากนี้สำหรับความสมบูรณ์ของกำลัง F-35C ในระยะยาว "เมื่อเรามีกำลังพลและเครื่องของเราทั้งหมดในที่เดียว มันทำให้เราจะหมุนเวียนสมดุลการทำงานในทะเล-บนฝั่งกับกลาสีและนายทหารและนักบิน
เพราะว่าตอนนี้มันง่ายขึ้นที่หมุนเวียนกำลังพลในการวางกำลังปฏิบัติการในทะเลและการปฏิบัติงานบนฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานกับฝูงบินฝึกเปลี่ยนแบบหรือกองบินเรือบรรทุกเครื่องบิน" น.อ.McCoy เสริม
นอกเหนือจากประโยชน์ต่อกลุ่มฝูงบิน F-35C เหล่านี้ การรวมทรัพยากรของ F-35C ทั้งหมดมายังฐานบินหลักใน Lemoore เป็นสัญญาณว่า F-35 ได้ถูกบูรณาการเข้าสู่หัวใจของกลุ่มกำลังเครื่องบินขับไล่โจมตีทางเรือ McCoy กล่าาว่าการบูรณาการ F-35 เต็มอัตรากับ
เครื่องบินขับไล่ F/A-18E/F Super Hornet และเครื่องบินโจมตี Electronic EA-18G Glowler พวกมันจะบินออกจากดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบิน เช่นเดียวกับเครื่องบินแจ้งเตือนทางอากาศ E-2D Advanced Hawkeye และเฮลิคอเตอร์ MH-60 ในกองบิน เป็น "สิ่งสำคัญยิ่ง" ก่อนการวางกำลังครั้งแรก
ด้วยกองบินเรือบรรทุกเครื่องบินที่2 ที่จัดตั้งที่ Lemoore แล้ว ฝูงบิน F/A-18E/F จะสามารถมที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับ VFA-147 ในการปฏิบัติประจำวันที่เริ่มต้นในปีนี้เดินหน้าสู่การวางกำลังในปี 2021 นาวาเอก McCoy กล่าวถึง F/A-18 และ F-35 ว่า
"การบูรณาการระหว่างสองระบบเป็นการสร้างชิ้นส่วนเพื่อการบูรณาการของกองบินเรือบรรทุกเครื่องบินและกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี(CSG: Carrier Strike Group) การแบ่งปันเส้นทางบินเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จะเป็นการสมบูรณ์และการเร่งขัดความสามารถของกลุ่มเครื่องบินขับไล่โจมตี"
น.อ.McCoy หวังว่าการเติบโตการแสดงตนของ F-35C ใน Lemoore จะทำให้เครื่องบินใหม่ที่อกแบบเป็นเครื่องบินตรวจับได้ยาก Stealth และมีสีเทาเข้มที่แตกต่างชัดเจนจากเครื่องบินขับไล่อื่นที่จอดบนดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบินเป็นสิ่งปกติ
"ไม่แต่เฉพาะดูมันใกล้ๆบนพื้นแต่บินคู่ไปกับมันในอากาศในเหตุการณ์ร่วมกันจะทำให้กำลังพลและผู้คนเห็ฯถึงขีดความสามารถที่แท้จริงของเครื่อง" McCoy กล่าว
ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำให้เสร็จเกี่ยวกับแนวคิดการปฏิบัติการ McCoy กล่าว แต่ "ผมมีมุมมองในแง่ดีมากในประเด็นนี้ว่าผมคิดว่าเรากำลังจะขอบคุณจริงๆที่ F-35 ถูกนำเข้าสู่กองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี
และผมคิดว่าไม่เพียงแต่นักบินแต่ผู้บัญชาการสงครามอื่นๆจะขอบคุณอย่างเต็มที่เมื่อขีดความสามารถเช่นเดียวกันเหล่านี้"
พลเรือตรี Roy Kelley ผู้บัญชาการกองกำลังอากาศนาวี Atlantic(Naval Air Force Atlantic) กล่าวในพิธียุบฝูงบินในฐานะทั้ง ผบ.กำลังอากาศนาวีและอดีตนักบินฝูงบิน Grim Reapers กลับไปในสมัยที่ฝูงบินทำการบินด้วยเครื่องบินขับไล่ F-14 Tomcat(VF-101)
ก่อนหน้านี้ พล.ร.ต.Kelley มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการของสำนักงานบูรณาการฝูงบิน JSF(Joint Strike Fighter Fleet Integration Office) และกล่าวว่าเขายินดีที่ได้เห็นวันนี้มาถึงหลังจากที่ล่าช้ามาบ้างในการวางกำลังประจำการ F-35C
"มันเป็นถนนหินขรุขระไม่เป็นเส้นทางตรงและง่าย เห็นได้ชัดว่าเรากำลังจะมีความท้าทายบางอย่าง กองทัพเรือสหรัฐฯมีความคิดหรือแนวคิดของสิ่งที่เราต้องการสำหรับขีดความสามารถ ดังนั้นชุดคำสั่งที่เราต้องการสำหรับขีดความสามารถเหล่านี้หมายความว่าเราต้องรอสักหน่อย"
พล.ร.ต.Kelley กล่าวหลังพิธีอ้างถึงชุดคำสั่งมาตรฐาน Block 3F ที่นาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) เดินหน้าไปก่อนโดยปราศจากชุดคำสั่งรุ่นนี้บนเครื่องบินขับไล่ F-35B ของตน แต่กองทัพเรือสหรัฐฯรอสำหรับ F-35C ของตน
"ความท้าทาย(ล่าช้า) นั้นตามที่เรามองที่คลังอากาศยานที่เรามีเครื่องบินขับไล่ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน ดังนั้นเราเดินหน้าจะซื้อ Super Hornet และผู้คนจำนวนมากถามถึงเว่าทำไมเราถึงทำเช่นนั้น เราว่าเราต้องการการผสมเราต้องการขีดความสามารถนั้นและเรามีกับ Super Hornet แล้ว
เราต้องการขีดความสามารถเครื่องบินขับไล่ยุคที่5ในอนาคต เราต้องการเห็นพวกมันทำงานร่วมกัน แนวคิดที่เรามีนั้น F-35 จะเป็น quarterback ที่แท้จริงสำหรับกองบินเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยระบบที่มันมีประจำเครื่อง" พล.ร.ต.Kelley กล่าวต่อ
"การหลอมรวมขีดความสามารถของการนำข้อมูลมาใช้ร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นพวกมันจะนำหูและตามและผู้อำนวยการตามที่เราเดินหน้ากองบินเรือบรรทุกเครื่องบินมุ่งตรงไปเป็ฯเรื่องสำคัญ" พล.ร.ต.Kelley เสริม
เมื่อถามถึงว่าขีดความสามารถจอง F-35C ที่ทำให้มีค่าที่กองทัพเรือสหรัฐฯจะรอ พล.ร.ต.Kelley ตอบว่า "ใช่! มันไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย"
ระหว่างพิธียุบฝูงบิน พล.ร.ต.Kelley ได้กล่าวถึงเครื่องบินขับไล่ยุคที่5ของคู่แข่งอย่างเครื่องบินขับไล่ Su-57E รัสเซียว่า "อาจจะไม่มีคุณภาพและขีดความสามารถของสิ่งที่คุณเห็นหลังคุณ(กับ F-35C) แต่มันยังคงเป็นภัยคุกคาม"
และมันจะมีความแพร่หลายมากขึ้นตามที่รัสเซียมองที่จะขาย Su-57E แก่นานาชาติ(https://aagth1.blogspot.com/2019/03/su-57.html) เช่นเดียวกับเครื่องบินขับไล่ J-20 จีนที่มีระบบตรวจจับทรงพลัง, อาวุธปล่อยนำวิถีระยะไกล และการออกแบบ Stealth
"กองทัพเรือสหรัฐฯและสหรัฐฯเราจำเป็นต้องมีเครื่องบินขับไล่นี้เดี๋ยวนี้ และความพยายามของคุณคือเครื่องมือที่จะนำเราไปสู่เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ ช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้ เพราะสำหรับเวลาแรกในทศวรรษเราจะเห็นการเปลี่ยนผ่านสมดุลอำนาจ
ตามที่จีนและรัสเซียปรากฏว่ามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก" พล.ร.ต.Kelley กล่าวต่อกำลังพลฝูงบิน VFA-101 ในพิธี โดยเสริมว่า "F-35 คือเครื่องบินที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมอย่างแท้จริง"
การทำความเข้าใจว่าอะไรที่กลุ่มฝูงบิน F-35C เดิมพันเดินหน้าเพื่อความสมบูรณ์และเตรียมการสำหรับการวางกำลังครั้งแรก "เราตื่นเต้นเกี่ยวกับการบูรณาการ และตามที่เราเดินหน้ามันมีความท้าทายบางอย่างอย่างไม่ต้องสงสัย
เราจะบูรณาการสิ่งนี้อย่างเหมาะสมอย่างไร? เราจะใช้ขีดความสามารถทั้งหมดที่ F-35 มี ดังที่เราสามารถเดินไปข้างหน้ากับกองบินเรือบรรทุกเครื่องบินแห่งอนาคตอย่างไร?" พล.ร.ต.Kelley กล่าวครับ