วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566

ความคืบหน้าโครงการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยในปี ๒๕๖๖-๓












































Royal Thai Army (RTA), Royal Thai Navy (RTN), Royal Thai Air Force (RTAF); US Army, US Navy (USN), US Air Force (USAF) ,US Marine Corps (USMC); Indonesia; Malaysia; Singapore; Japan Self-Defense Forces (JSDF); and Republic of Korea Armed Forces (RoKARF) have concluded participation for Exercise Cobra Gold 2023 in Thailand during 28 February to 10 March 2023. (Royal Thai Armed Forces/US Department of Defense)





เครื่องบินขับไล่ F-16AM/BM และเครื่องบินลำเลียง C-130H กองทัพอากาศไทยฝึกร่วมกับกองทัพอากาศสหรัฐฯในการฝึก Cobra Gold 2023 
การยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก AMPHIBEX ในการฝึก Cobra Gold 2023
กองทัพบกไทยและสหรัฐฯฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ Strategic Airborne ในการฝึก Cobra Gold 2023 
เครื่องบินขับไล่ Gripen และ F-16AM/BM กองทัพอากาศไทยประกอบกำลังกับกองทัพอากาศสหรัฐฯในการฝึก Cobra Gold 2023 
ยานเกราะล้อยาง BTR-3E1 กองทัพบกไทยและ Stryker สหรัฐฯยิงปืนด้วยกระสุนจริงในการฝึก Cobra Gold 2023
การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง CALFEX และพิธีปิดการฝึก Cobra Gold 2023
ปืนใหญ่ M777 155mm กองทัพบกสหรัฐฯฝึกร่วมกับปืนใหญ่ M198 กองทัพบกไทย
ยานเกราะล้อยาง Stryker กองพลทหารราบที่๑๑ กองทัพบกไทยฝึกประจำปี ๒๕๖๖
เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache กองทัพบกสหรัฐฯร่วมการฝึก Cobra Gold 2023
DTI ไทยมีความคืบหน้าการวิจัยพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ DP20 UAS สำหรับกองทัพบกไทย 
DTI และกองทัพบกไทยลงนามความร่วมมือการพัฒนาปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง CS/AH2 105mm

Thailand starts development of light guns
The 105 mm CS/AH2 howitzer, pictured above, is similar in all aspects to the BAE systems L118/L119 (105 mm) light howitzer. The gun is produced by Poly Technologies, with likely involvement from Norinco. (Poly Technologies Inc)




Royal Thai Air Force (RTAF), Republic of Singapore Air Force (RSAF) and US Air Force (USAF) held Multi-Lateral Exercise Cope Tiger 2023 during 13-31 March 2023 at Wing 1 Korat, Wing 2 Lopburi and Chandy Range Lopburi. (Royal Thai Air Force)




OPV-552 HTMS Prachuap Khiri Khan, Royal Thai Navy (RTN) conducted live firing for Harpoon Block 1C missile at Andaman sea during Naval Exercise FY2023 on 28 March 2023.



อาวุธปล่อยพ้นท่อ !!!
ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์ ฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี Harpoon Block 1 ในทะเลอันดามัน
“ด่านหน้า กล้าหาญ”
“Frontier,Fearless”
แอดมิน ในฐานะที่เคยร่วมเป็นชุดรับเรือ กับเรือหลวงลำนี้มา ตื้นตันใจกับความสำเร็จในครั้งนี้มากๆ ครับ
Do it the best, destroy the rest

แถมคลิปอีกมุม จากสะพานเดินเรือ
จังหวะอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ Harpoon Block 1C จากท่อยิงกราบซ้ายพุ่งออกจากท่อยิง 
“Frontier,Fearless”
“ด่านหน้า กล้าหาญ”

UAV Behide the Scenes
เบื้องหลังความสำเร็จการยิงอาวุธปล่อยฮาร์พูน การฝึกกองทัพเรือ 2566 (NAVY EXERCISE 2023)
กองทัพเรือ โชว์ศักยภาพ ใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) ร่วมกับเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ เรือรบที่ประเทศไทยต่อเองยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นแบบ Harpoon เข้าเป้าอย่างแม่นยำกลางทะเลอันดามัน
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 นับเป็นประวัติศาสตร์ หน้าสำคัญของกองทัพเรือไทย ในการนำอากาศยานไร้คนขับ (S-100 Camcopter) เข้ามามีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติการร่วมระหว่างเรือกับอากาศยาน 
โดย UAV S-100 Camcopter ที่กองทัพเรือมีประจำการอยู่นั้น สามารถขึ้นลงแนวดิ่ง (Vertical Takeoff Landing) ทำให้มีความเหมาะสมในการปฏิบัติงานร่วมกับเรือที่มีดาดฟ้าเฮลิคอปเตอร์ อีกทั้งยังมีรัศมีปฏิบัติการไกลถึง 100 กิโลเมตร 
การยิงอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น - สู่ - พื้น แบบ Harpoon จากเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ เรือประเภทเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง หรือ OPV ซึ่งกองทัพเรือต่อเองตามแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกประจำปีของกองทัพเรือ 
ทำการยิงในพื้นที่ทะเลอันดามันห่างบริเวณทางทิศตะวันตกของหมู่เกาะสิมิลัน ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 100 กิโลเมตร เป้าอยู่ห่าง 55 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 100 กิโลเมตรจากเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ 
โดยมีอากาศยานไร้คนขับ S-100 Camcopter ทำการตรวจการณ์และชี้เป้าให้กับเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์
สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น - สู่ - พื้น แบบ Harpoon นอกจากเป็นอาวุธสำคัญที่มีมาตรฐานใช้ในกลุ่มประเทศนาโตแล้ว กองทัพเรือที่มีศักยภาพเพียงพอได้นำเข้าประจำการอยู่หลายประเทศ ด้วยเป็นอาวุธทางเรือที่มีผลการยิงที่แม่นยำมาก 
ที่ผ่านมากองทัพเรือไทยได้ทำการฝึกยิงประสบความสำเร็จมาแล้วกับเรือประเภทอื่นที่ไม่ใช้เรือแบบตรวจการณ์ไกลฝั่งในครั้งนี้  ซึ่งเป็นเรือที่ขนาดเล็กกว่าเรือประเภทเรือฟริเกต ซึ่งมีสมมรถนะในมิติการรบที่มากกว่า 
แต่กองทัพเรือไทยก็ประสบผลสำเร็จด้วยการติดตั้งระบบอาวุธที่ทันสมัยเองกับเรือที่ต่อขึ้นเอง อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกในการนำอากาศยานไร้คนขับ (UAV) S-100 Camcopter มาโชว์ขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมในทะเล 
นับได้ว่าเป็นก้าวสำคัญในการพัมนากองทัพและเสริมสร้างกำลังกองทัพให้มีความทันสมัย เหมาะสมกับภารกิจ และตอบสนองยุทธศาสตร์ป้องปรามอย่างคุ้มค่าต่อประเทศ

การฝึกร่วมผสม Cobra Gold 2023 ระหว่างกองทัพไทย, สหรัฐฯ, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นครั้งที่๔๒ แล้ว และเป็นการกลับมาจัดการฝึกอย่างเต็มรูปแบบได้อีกครั้งหลังสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลาย แสดงถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างมิตรประเทศ
แม้ว่าวงรอบในการฝึกปีนี้จะเป็นรูปแบบ Light Year ที่ไม่ได้มีการนำอาวุธยุทโธปกรณ์หนักอย่างรถถังหลักเข้าร่วม แต่ก็มีการฝึกที่สำคัญครอบคลุมหลายๆอย่าง เช่นการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก AMPHIBEX กับกองทัพเรือไทย, การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง CALFEX กับกองทัพบกไทย
และการฝึกบินประกอบกำลังขนาดใหญ่ Large Force Employment กับกองทัพอากาศไทย หรือการฝึกอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่ขัดแย้ง NEO(Noncombatant Evacuation Operations) ซึ่งได้ทำให้เห็นว่ากองทัพสหรัฐฯและมิตรประเทศมองการพัฒฯาความร่วมมือด้านความมั่นคงกับไทยอย่างไร

ข้อสังเกตส่วนตัวของผู้เขียนเช่นในการฝึก CALFEX ก่อนพิธีปิดการฝึก Cobra Gold 2023 เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ณ สนามยิงปืนใหญ่บ้านดีลัง จังหวัดลพบุรี จะเห็นว่าพิธีกรได้บรรยายรายละเอียดต่างๆของเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache ๒เครื่องที่สาธิตการใช้อาวุธเป็นพิเศษ
โดยกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) ได้นำเฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64E Apache จากกองพันทหารม้าที่2, กรมทหารม้าที่6(2nd Squadron, 6th Cavalry Regiment) กองพลน้อยบินรบที่25(25th CAB: 25th Combat Aviation Brigade) กองพลทหารราบที่25(25th Infantry Division)
มาวางกำลังที่ศูนย์การบินทหารบก ศบบ.(AAC: Army Aviation Center) โดยเน้นฝึกร่วมกับกองพันบินที่๙(9th Aviation Battalion) ที่มีเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ฮ.ท.๖๐ UH-60M และเป็นหน่วยที่จะได้รับเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบใหม่ที่จัดหาด้วยวิธี Foreign Military Sales(FMS) จากสหรัฐฯด้วย

อีกส่วนคือการวางกำลังกองเรือยกพลขึ้นบกพร้อมรบ(ARG: Amphibious Ready Group) ที่ประกอบไปด้วยเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Wasp ๑ลำ LHD-8 USS Makin Island, เรืออู่ยกพลขึ้นบกชั้น San Antonio ๒ลำ LPD-23 USS Anchorage และ LPD-26 USS John P. Murtha
วางกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) หน่วยนาวิกโยธินโพ้นทะเลที่13(13th MEU: Marine Expeditionary Unit) ฝูงบินอากาศยานขนาดกลางนาวิกโยธินที่362 (VMM-362 (Rein.)) อากาศยานใบพัดกระดก MV-22B Osprey และเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก CH-53E Sea Stallion
และเครื่องบินขับไล่ F-35B ฝูงบินขับไล่โจมตีนาวิกโยธินที่122 VMFA-122 ซึ่งการวางกำลังการฝึก Cobra Gold 2023 มีข้อมูลว่าได้มีการวางกำลังในพื้นที่บนแผ่นดินไทยและมีการฝึกหลายๆอย่าง แม้จะไม่มีการเผยแพร่ภาพเนื่องจากเป็นความลับ แต่ก็เห็นได้ว่า F-35 สามารถปฏิบัติงานในไทยได้

หลังการฝึกร่วมผสม Cobra Gold 2023 ก็ยังมีการฝึกอื่นๆตามมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการฝึกผสมทางอากาศ Cope Tiger 2023 ไตรภาคีระหว่างกองทัพอากาศไทย กองทัพอากาศสิงคโปร์ และกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งมีพิธีเปิดในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๖ และพิธีปิดการฝึกวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖
กองทัพอากาศสหรัฐฯได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 40 ฝูงบินขับไล่ที่36(36th Fighter Squadron) จากฐานทัพอากาศ Osan สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งวางกำลังที่ กองบิน๑ โคราชตั้งแต่การฝึก Cobra Gold 2023 ส่วนกองทัพอากาศสิงคโปร์ได้นำอากาศยานหลายแบบของตนเข้าร่วมรวมถึง
เครื่องบินขับไล่ F-15SG, เครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 52 และ F-16D Block 52+, เครื่องบินแจ้งเตือนทางอากาศ G550 AEW, เครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Airbus A330 MRTT, และเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง CH-47SD/CH-47F Chinook เป็นต้น

การฝึกภายในเหล่าทัพยังคงมีคู่ขนานกับการฝึกร่วมผสมกับมิตรประเทศ เช่นในการฝึกและตรวจสอบเป็นหน่วยกองพันของ กองพลทหารราบที่๑๑ ซึ่งได้นำยานเกราะล้อยาง Stryker RTA ICV 8x8 และครื่องยิงลูกระเบิดอัตตาจรล้อยาง M361 ATMM 120mm ที่สนามฝึกบ้านดีลัง ลพบุรี
การฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๖ ของกองทัพเรือไทยยังคงดำเนินต่อเนื่อง เช่นการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น Harpoon Block 1C ในทะเลอันดามันโดยเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงกระบี่ เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับเรือรบที่สร้างในไทย
จะเห็นได้ว่ากองทัพไทยทั้งสามเหล่าทัพมีความพร้อมในการฝึกภายในหน่วยและกับมิตรประเทศ ซึ่งในพิธีปิดการฝึก Cobra Gold 2023 สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สปท. DTI ยังแสดงผลงานของตนให้ผู้บัญชาการแต่ละเหล่าทัพของกองทัพไทย นายทหารมิตรประเทศ และสื่อมวลชนชมด้วย 

DTI ไทยและกองทัพบกไทยได้ลงนามความร่วมมือโครงการวิจัยพัฒนาปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง CS/AH2 105mm ซึ่งแม้ว่าพึ่งจะมีการรับมอบ ปบค.LG1 Mk III ๑๒กระบอกไป แต่กองทัพบกไทยก็ยังมีความต้องการปืนใหญ่ลากจูง 105mm ใหม่ที่ทันสมัยทดแทนของเก่าที่ใช้มานานเป็นจำนวนมาก
ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ศป.เช่นกันก็มีความต้องการอากาศยานไร้คนขับขึ้นลงทางดิ่ง VTOL UAV ซึ่งน่าจะเป็นการแข่งขันระหว่าง RV Connex PATHUM 4 ไทย ที่มีพื้นฐานจาก Aeronautics Orbiter 4 อิสราเอล และ ATIL DP6 ไทย-จีนเช่นเดียวกับ DP20 ที่ศูนย์การบินทหารบก ศบบ.ทดสอบอยู่
นาวิกโยธินไทย กองทัพเรือไทย ยังมีการเปิดเผยถึงการแข่งขันจัดหารถเกราะล้อยาง 8x8 แบบลำเลียงพลใหม่ ๗คันวงเงินราว ๔๔๘,๐๐๐,๐๐๐บาท(13,119,559) ระหว่าง Chaiseri ไทยที่เสนอรถเกราะ 8x8 ที่ออกแบบใหม่ Panus ไทยสำหรับ R600 และอีกบริษัทของไทยที่ยังไม่ทราบแบบด้วยครับ 
(แต่ผู้ไม่หวังดีต่อชาติและสื่อไร้จรรยาบรรณก็ยังพยายามยกกรณีผิดพลาดและใช้ทหารที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่มาเป็นเครื่องมือโจมตีทำลายกองทัพไทยว่า "ทหารไม่ต้องมีก็ได้" ทั้งการยกเลิกกองทัพประจำการ ตัดงบประมาณกลาโหม ย้าย/ยุบหน่วยปลดกำลังพลตามใจชอบโดยไม่มีแผนรองรับ)




Sattahip Naval Base, Royal Thai Navy (RTN), held a farewell ceremony for HMS SPEY, Royal Navy at Chuk Samet Port, Sattahip, Chonburi.
On March 8, 2023, CAPT Makapong Darapan, Chief of Chuk Samet port, on behalf of VADM Sutin LayCharoen, Commandant of Sattahip Naval Base,  held a farewell ceremony to Royal Navy ships HMS SPEY. 
The ships visit and PASSEX are scheduled between February 20 - March 8, 2023 at Chuk Samet Port, Sattahip, Chonburi.

กองทัพเรือ โดย ฐานทัพเรือสัตหีบจัดพิธีส่งเรือ HMS SPEY กองทัพเรือสหราชอาณาจักร ณ ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๖ พลเรือโท สุทิน  หลายเจริญ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ มอบหมาย นาวาเอก มาฆะพงศ์  ดาราพันธุ์ หัวหน้าท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ ส่งเรือ HMS SPEY กองทัพเรือสหราชอาณาจักร 
เนื่องในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยและทำการฝึก PASSEX กับกองทัพเรือไทย ระหว่างวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ - ๘ มีนาคม ๒๕๖๖ ณ ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P234 HMS Spey กองทัพเรือสหราชอาณาจักร(RN: Royal Navy) ที่เดินทางมาถึง ฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือไทย ประเทศไทยตั้งแต่วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ที่ผ่านมา(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/p234-hms-spey.html)
ได้เดินทางออกจากท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ โดยก่อนหน้านั้นได้ทำการฝึก PASSEX(Passing Exercise) ในอ่าวไทยกับกองทัพเรือไทย และจัดกิจกรรรมต่างๆร่วมกับไทย เช่นให้นักเรียนเยาวชนไทยขึ้นชมเรือเป็นต้น
HMS Spey เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง(OPV: Offshore Patrol Vessel) ชั้น River Batch 2 ลำสุดท้ายจากทั้งหมด ๕ลำ กำลังอยู่ระหว่างการวางกำลังปฏิบัติการในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกระยะเวลา ๕-๑๐ปี เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงทางทะเลและเพิ่มความร่วมมือกับมิตรประเทศรวมถึงไทยครับ












Special Forces team from 3rd Special Forces Regiment King Guard (Airborne), 1st Special Forces Division, Special Warfare Command (SWC), Royal Thai Army get Silver Medal with 5th ranks 70% score from 18 teams of 19 countries for participation on 6th International Pakistan Army Team Spirits 2023 (PATS 2023) competition during 7-9 March 2023. (Royal Thai Army)

จบการแข่งขัน PATS 2023 
ทีมไทยบาดเจ็บจากการแข่งกลางคัน ทำให้สมาชิกในทีมเหลือเพียง 6 จาก 8 นาย
ทีมตัดสินใจไม่ใช้ตัวสำรอง เพื่อป้องกันการถูกตัด 300 คะแนน สมาชิกที่เหลือทั้ง 6 คน เฉลี่ยน้ำหนักรวม 288 กิโลกรัม มุ่งหน้าสู่เส้นชัย จนคว้าเหรียญเงิน จารึกประวัติศาสตร์ในการแข่งครั้งแรกของประเทศไทย
โดยปกติแล้ว ประเทศที่จะแข่งขันได้ ต้องสมัครเป็นผู้สังเกตุการณ์ก่อน อย่างน้อย 1 ปี แต่ทีมไทยขอลงแข่งขัน โดยไม่ส่งผู้สังเกตุการณ์
ทีมไทยใช้สิ่งอุปกรณ์ที่เบิกรับจากกองทัพปากีสถานทั้งหมด โดยไม่ได้พยายามใช้ของส่วนตัวหรือดัดแปลงอย่างทีมอื่นๆ ทำให้น้ำหนักที่แบก เกินมา 88 กิโลกรัม!
คะแนนทีมไทยอยู่อันดับที่ 5 จากผู้แข่งขันนานาชาติ รวม 18 ทีม คว้าเหรียญเงินไปครอง สำหรับการส่งทีมลงแข่งครั้งแรก แบบเตรียมการน้อยมาก แต่ด้วยจิตใจที่ห้าวหาญ ความแข็งแกร่ง พละกำลัง และทีมเวิร์ค ทำให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันอย่างสมศักดิ์ศรี ของกองทัพบกไทย

ทำความรู้จักกับตัวแทนประเทศไทยทั้ง 10 นายจากกรมรบพิเศษที่ 3 รักษาพระองค์
ผู้เป็นตัวแทน แข่งขัน PATS ครั้งแรกของไทย และคว้าเหรียญเงินมาครองได้
ร.ท.นิธิศ นริสร์กุล พัน.ปพ.รอ.
ร.ต.วิศรุต แสงทับทอง พัน.จจ.รอ.
จ.ส.ท. วราวุฒิ จัทรเสนา พัน.จจ.รอ.
ส.อ.คมกริช บุญจูง พัน.ปพ.รอ.
ส.อ.เอกชัย บรรจงอเนก พัน.ปพ.รอ.
ส.ต.สันติชัย ศรีสุข รพศ.3รอ.
ส.ต.อดิศักดิ์ กฤติกายิ่งสกุล รพศ.3รอ.
พลอาสาสมัคร อานนท์ คำเงิน พัน.จจ.รอ.
พลอาสาสมัคร องอาจ พูลลัด พัน.จจ.รอ.
พลอาสาสมัคร ธนกร พลอ่อนสา พัน.จจ.รอ.
โดยทีมจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ครับ

กลับถึงบ้านเรียบร้อย น้องพลอาสาสมัคกองพันจู่โจมรักษาพระองค์
กับการแข่งขัน Pakistan Army Team Spirits ครั้งที่ 6 ณ เมืองคาร์เรียน ประเทศปากีสถาน 
 มีประเทศร่วมการแข่งขันจำนวน 11 ประเทศ (18 ทีม) และประเทศร่วมสังเกตการณ์ 8 ประเทศ รวม 19 ประเทศ 
ทีมประเทศไทย โดย รพศ.3 รอ./ทบ.ไทย ได้จัดกำลังพลร่วมแข่งขัน 10 นาย เป็นตัวจริง 8 นาย ตัวสำรอง 2 นาย ในนั้นมีน้องน้องพลอาสาสมัคกองพันจู่โจมรักษาพระองค์ จำนวน3นาย ได้ทำการแข่งขันในปัญหา 60 ชั่วโมง ตั้งแต่ วันที่ 7-9 มีนาคมที่ผ่านมา 
โดยได้ผลการแข่งขันเป็นลำดับที่ 5 ได้รับเหรียญเงินในการแข่งขันจากคะแนนเฉลี่ย 70%