วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Lockheed Martin สหรัฐฯเตรียมนำประเทศที่ไม่เปิดเผยเข้าโครงการเครื่องบินขับไล่ F-35

Lockheed prepares to bring undisclosed country into F-35 programme



Lockheed completes final assembly of F-35s in Fort Worth, Texas. The company has delivered some 920 airframes to date. Source: Lockheed Martin



บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯผู้ผลิตเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 แบบ F-35 Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) กำลังเตรียมการที่จะบูรณาการประเทศ "ที่ไม่เปิดเผย" เข้าสู่โครงการเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 Stealth นานาชาติ
บริษัท Lockheed Martin ได้รับสัญญามูลค่าวงเงินมากกว่า $25 million ผ่านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2023 สำหรับ "การสนับสนุนการบูรณาการประเทศที่ไม่เปิดเผยในฐานะลูกค้ารูปแบบการขาย Foreign Military Sales(FMS) เข้าสู่โครงการเครื่องบินขับไล่ F-35 JSF

มีรายละเอียดต่างๆเพียงเล็กน้อย แต่สัญญาดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับงานการเตรียมการแก่ประเทศที่เป็นลูกค้าที่จะได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35 เครื่องแรกของตนอยู่แล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/f-35-1000.html)
วงเงินมาจาก "ลูกค้า FMS" ตามข้อมูลกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หมายความว่ารัฐบาลต่างประเทศมองที่จะจัดซื้อระบบอาวุธของสหรัฐฯผ่านโครงการความช่วยเหลือรูปแบบการขาย FMS ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

ภายใต้ข้อตกลงรูปแบบการขาย FMS กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อต่างประเทศและบริษัทผู้ผลิตของสหรัฐฯ เป็นผู้ถือการชำระเงินของลูกค้าในบัญชีคนกลาง(escrow) และการเจรจาเงื่อนไขของสัญญาและการส่งมอบบางส่วนในนามของพวกตน
Lockheed Martin สหรัฐฯปฏิเสธที่จะระบุชื่อประเทศที่ไม่เปิดเผยที่เกี่ยวข้องในสัญญาวันที่ 3 พฤษภาคม 2023 อ้างอิงการสอบถามต่อสำนักงานโครงการร่วม(JPO: Joint Program Office) ของ F-35 กล่าวว่าตนไม่สามารถจะให้ชื่อลูกค้าได้แต่ยืนยันว่าประเทศนี้เป็นลูกค้า F-35 รูปแบบ FMS อยู่แล้ว 

นั่นทำให้รายชื่อประเทศที่เป็นไปได้แคบลง ปัจจุบันมี 17ประเทศที่มีส่วนร่วมในโครงการ F-35 ซึ่ง 8ประเทศคือ สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย(https://aagth1.blogspot.com/2018/04/f-35a.html), อิตาลี(https://aagth1.blogspot.com/2018/01/f-35b.html), 

แปดชาติเหล่านี้เป็นหุ้นส่วนก่อตั้งโครงการ F-35 JSF ได้แบ่งปันค่าใช้จ่ายในการออกแบบและการผลิตเครื่องบินขับไล่ขั้นก้าวหน้าร่วมกัน ตุรกีเดิมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย แต่ถูกขับออกจากโครงการ F-35 โดยรัฐบาลสหรัฐฯในปี 2019
หลังจากรัฐบาลตุรกีใน Ankara เดินหน้าที่จะจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 รัสเซีย ตุรกียังคงมีความพยายามที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35 จำนวนไม่มากจากเดิมที่สั่งจัดหา 100เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/f-35.html)

จากหุ้นส่วนโครงการ F-35 JSF ดั้งเดิมเหล่านี้ มีเพียงแคนานที่ยังคงรอการได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35A รัฐบาลแคนาดาใน Ottawa ไม่ได้เข้าสู่สัญญาการจัดซื้อจัดจ้างกับ Lockheed Martin สหรัฐฯอย่างเป็นทางการจนถึงต้นปี 2023 ที่ผ่านมาที่มีการลงนามสัญญาแล้ว
รัฐบาลเดนมาร์กได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35A เครื่องแรกของตนในปี 2021 อย่างไรก็ตามเครื่องทำการบินจากฐานทัพอากาศ Luke Air Force Base(AFB) ในมลรัฐ Arizona ซึ่งนักบินและช่างอากาศเดนมาร์กได้รับการฝึกที่นั้น คาดว่าเครื่องจะเดินทางมาถึงเดนมาร์กในเดือนธันวาคม 2023

ลูกค้าที่ไม่เปิดเผยน่าจะอยู่ในกลุ่มลูกค้าที่จัดซื้อรูปแบบ FMS เพิ่มเติม 9ชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นหุ้นส่วนดั้งเดิมแต่ลงนามที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35 เนื่องจากการประกาศสัญญาของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯอ้างถึง "การบูรณาการ" ซึ่งปกติจะเกิดขึ้นก่อนช่วงการส่งมอบเครื่อง 
ลูกค้าจึงน่าจะอยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ได้รับมอบเครื่อง โดยประเทศลูกค้า FMS ที่ได้รับมอบแล้วคือ อิสราเอล(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/f-35i.html), ญี่ปุ่น(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/f-15j-f-35b.html) และสาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2022/11/f-35a-gbu-12.html)

เยอรมนี(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/rheinmetall-f-35.html) และสวิตเซอร์แลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2022/09/f-35a-36.html) เป็นลูกค้า FMS ที่ยังไม่ได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35

ในเดือนเมษายน 2023 Lockheed Martin กล่าวว่าตนได้เริ่มต้นการผลิตเครื่องบินขับไล่ F-35A ของโปแลนด์แล้ว ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเริ่มต้นการส่งมอบได้ภายในปี 2024
Lockheed Martin และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ Pentagon ได้เสร็จสิ้นการบรรลุผลสัญญาสายการผลิตเครื่องบินขับไล่ F-35 Lot 15, Lot 16 และ Lot 17 ซึ่งครอบคลุมเครื่องของโปแลนด์, ฟินแลนด์ และเบลเยียม เพิ่มเติมต่อผู้ใช้งานที่มีอยู่

โปแลนด์ดูเหมือนไม่น่าจะผู้ที่ร้องขอไม่ให้เปิดเผยชื่อของตนตามที่ได้เปิดเผยเกี่ยวกับการมองที่จะบูรณาการเครื่องบินขับไล่ F-35A เข้ากับกองทัพอากาศโปแลนด์ ซึ่งปัจจุบันใช้งานเครื่องบินรบยุคโซเวียตรัสเซียสมัย Warsaw pact
ทั้งเครื่องบินขับไล่ MiG-29(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/ah-1z-mig-29.html, https://aagth1.blogspot.com/2022/03/mig-29.html), เครื่องบินโจมตี Su-22(https://aagth1.blogspot.com/2021/05/leonardo-m-346fa-su-22.html) และเครื่องบินขับไล่ F-16C/D สหรัฐฯ

นั่นทำให้เหลือเบลเยียมและฟินแลนด์ที่น่าจะเป็นประเทศดั้งเดิมที่ไม่เปิดเผยชื่อในสัญญาการบูรณาการ อีกประเทศที่เป็นไปได้คือสวิตเซอร์แลนด์ที่ดำรงความเป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์มายาวนาน
อย่างไรก็ตามรัฐบาลสมาพันธรัฐสวิสเพิ่งจะมีความมุ่งมั่นที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A จำนวน 36เครื่องในปี 2022 หมายความว่าการส่งมอบเครื่องเหล่านี้ยังคงจะใช้เวลาอีกหลายปีข้างหน้าต่อจากนี้ ที่สัญญาครอบคลุมการส่งมอบระหว่างปี 2027-2030 ตามข้อมูล Lockheed Martin

สิงคโปร์ซึ่งมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของประเทศเป็นจุดยุทธศาสตร์และมีความใกล้ชิดกับจีนน่าจะเป็นสาเหตุสำหรับร้องขอการไม่เปิดเผยชื่อของตน ยังไม่ได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35B ของตน Lockheed Martin ระบุว่าเครื่องเหล่านี้ของสิงคโปร์ยังไม่มีกำหนดการส่งมอบจนกว่าจะถึงปี 2026
และไทยซึ่งมีภูมิศาสตร์เป็นจุดยุทธศาสตร์และใกล้ชิดกับจีนเช่นกันนั้น กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ได้ร้องขอการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A จำนวน ๑๒เครื่องจากสหรัฐฯแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติการขายให้ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2022/12/f-35a-2034.html)