Lockheed prepares to bring undisclosed country into F-35 programme
Lockheed completes final assembly of F-35s in Fort Worth, Texas. The company
has delivered some 920 airframes to date. Source: Lockheed Martin
บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯผู้ผลิตเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 แบบ F-35 Lightning
II Joint Strike Fighter(JSF) กำลังเตรียมการที่จะบูรณาการประเทศ "ที่ไม่เปิดเผย"
เข้าสู่โครงการเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 Stealth นานาชาติ
บริษัท Lockheed Martin ได้รับสัญญามูลค่าวงเงินมากกว่า $25 million
ผ่านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2023 สำหรับ
"การสนับสนุนการบูรณาการประเทศที่ไม่เปิดเผยในฐานะลูกค้ารูปแบบการขาย Foreign
Military Sales(FMS) เข้าสู่โครงการเครื่องบินขับไล่ F-35 JSF
มีรายละเอียดต่างๆเพียงเล็กน้อย
แต่สัญญาดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับงานการเตรียมการแก่ประเทศที่เป็นลูกค้าที่จะได้รับมอบเครื่องบินขับไล่
F-35 เครื่องแรกของตนอยู่แล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/f-35-1000.html)
วงเงินมาจาก "ลูกค้า FMS" ตามข้อมูลกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
หมายความว่ารัฐบาลต่างประเทศมองที่จะจัดซื้อระบบอาวุธของสหรัฐฯผ่านโครงการความช่วยเหลือรูปแบบการขาย
FMS ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
ภายใต้ข้อตกลงรูปแบบการขาย FMS
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อต่างประเทศและบริษัทผู้ผลิตของสหรัฐฯ
เป็นผู้ถือการชำระเงินของลูกค้าในบัญชีคนกลาง(escrow)
และการเจรจาเงื่อนไขของสัญญาและการส่งมอบบางส่วนในนามของพวกตน
Lockheed Martin
สหรัฐฯปฏิเสธที่จะระบุชื่อประเทศที่ไม่เปิดเผยที่เกี่ยวข้องในสัญญาวันที่ 3
พฤษภาคม 2023 อ้างอิงการสอบถามต่อสำนักงานโครงการร่วม(JPO: Joint Program Office)
ของ F-35 กล่าวว่าตนไม่สามารถจะให้ชื่อลูกค้าได้แต่ยืนยันว่าประเทศนี้เป็นลูกค้า
F-35 รูปแบบ FMS อยู่แล้ว
นั่นทำให้รายชื่อประเทศที่เป็นไปได้แคบลง ปัจจุบันมี
17ประเทศที่มีส่วนร่วมในโครงการ F-35 ซึ่ง 8ประเทศคือ สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร,
ออสเตรเลีย(https://aagth1.blogspot.com/2018/04/f-35a.html), อิตาลี(https://aagth1.blogspot.com/2018/01/f-35b.html),
เนเธอร์แลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2022/01/f-35a-f-16ambm.html), แคนาดา(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/f-35a.html), เดนมาร์ก(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/f-35a.html) และนอร์เวย์(https://aagth1.blogspot.com/2022/01/f-16ambm-f-35a.html)
แปดชาติเหล่านี้เป็นหุ้นส่วนก่อตั้งโครงการ F-35 JSF
ได้แบ่งปันค่าใช้จ่ายในการออกแบบและการผลิตเครื่องบินขับไล่ขั้นก้าวหน้าร่วมกัน
ตุรกีเดิมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย แต่ถูกขับออกจากโครงการ F-35 โดยรัฐบาลสหรัฐฯในปี
2019
หลังจากรัฐบาลตุรกีใน Ankara เดินหน้าที่จะจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400
รัสเซีย ตุรกียังคงมีความพยายามที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35
จำนวนไม่มากจากเดิมที่สั่งจัดหา 100เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/f-35.html)
จากหุ้นส่วนโครงการ F-35 JSF ดั้งเดิมเหล่านี้
มีเพียงแคนานที่ยังคงรอการได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35A รัฐบาลแคนาดาใน Ottawa
ไม่ได้เข้าสู่สัญญาการจัดซื้อจัดจ้างกับ Lockheed Martin
สหรัฐฯอย่างเป็นทางการจนถึงต้นปี 2023 ที่ผ่านมาที่มีการลงนามสัญญาแล้ว
รัฐบาลเดนมาร์กได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35A เครื่องแรกของตนในปี 2021
อย่างไรก็ตามเครื่องทำการบินจากฐานทัพอากาศ Luke Air Force Base(AFB) ในมลรัฐ
Arizona ซึ่งนักบินและช่างอากาศเดนมาร์กได้รับการฝึกที่นั้น
คาดว่าเครื่องจะเดินทางมาถึงเดนมาร์กในเดือนธันวาคม 2023
ลูกค้าที่ไม่เปิดเผยน่าจะอยู่ในกลุ่มลูกค้าที่จัดซื้อรูปแบบ FMS เพิ่มเติม 9ชาติ
ซึ่งไม่ได้เป็นหุ้นส่วนดั้งเดิมแต่ลงนามที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35
เนื่องจากการประกาศสัญญาของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯอ้างถึง "การบูรณาการ"
ซึ่งปกติจะเกิดขึ้นก่อนช่วงการส่งมอบเครื่อง
ลูกค้าจึงน่าจะอยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ได้รับมอบเครื่อง โดยประเทศลูกค้า FMS
ที่ได้รับมอบแล้วคือ อิสราเอล(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/f-35i.html), ญี่ปุ่น(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/f-15j-f-35b.html) และสาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2022/11/f-35a-gbu-12.html)
เบลเยียม(https://aagth1.blogspot.com/2022/11/f-35a.html), โปแลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/f-35a.html), สิงคโปร์(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/f-35b-8.html), ฟินแลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/f-35a-hx.html)
เยอรมนี(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/rheinmetall-f-35.html) และสวิตเซอร์แลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2022/09/f-35a-36.html) เป็นลูกค้า FMS ที่ยังไม่ได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35
ในเดือนเมษายน 2023 Lockheed Martin
กล่าวว่าตนได้เริ่มต้นการผลิตเครื่องบินขับไล่ F-35A ของโปแลนด์แล้ว
ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเริ่มต้นการส่งมอบได้ภายในปี 2024
Lockheed Martin และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ Pentagon
ได้เสร็จสิ้นการบรรลุผลสัญญาสายการผลิตเครื่องบินขับไล่ F-35 Lot 15, Lot 16 และ
Lot 17 ซึ่งครอบคลุมเครื่องของโปแลนด์, ฟินแลนด์ และเบลเยียม
เพิ่มเติมต่อผู้ใช้งานที่มีอยู่
โปแลนด์ดูเหมือนไม่น่าจะผู้ที่ร้องขอไม่ให้เปิดเผยชื่อของตนตามที่ได้เปิดเผยเกี่ยวกับการมองที่จะบูรณาการเครื่องบินขับไล่
F-35A เข้ากับกองทัพอากาศโปแลนด์
ซึ่งปัจจุบันใช้งานเครื่องบินรบยุคโซเวียตรัสเซียสมัย Warsaw pact
ทั้งเครื่องบินขับไล่ MiG-29(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/ah-1z-mig-29.html,
https://aagth1.blogspot.com/2022/03/mig-29.html), เครื่องบินโจมตี Su-22(https://aagth1.blogspot.com/2021/05/leonardo-m-346fa-su-22.html) และเครื่องบินขับไล่ F-16C/D สหรัฐฯ
นั่นทำให้เหลือเบลเยียมและฟินแลนด์ที่น่าจะเป็นประเทศดั้งเดิมที่ไม่เปิดเผยชื่อในสัญญาการบูรณาการ
อีกประเทศที่เป็นไปได้คือสวิตเซอร์แลนด์ที่ดำรงความเป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์มายาวนาน
อย่างไรก็ตามรัฐบาลสมาพันธรัฐสวิสเพิ่งจะมีความมุ่งมั่นที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่
F-35A จำนวน 36เครื่องในปี 2022
หมายความว่าการส่งมอบเครื่องเหล่านี้ยังคงจะใช้เวลาอีกหลายปีข้างหน้าต่อจากนี้
ที่สัญญาครอบคลุมการส่งมอบระหว่างปี 2027-2030 ตามข้อมูล Lockheed Martin
สิงคโปร์ซึ่งมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของประเทศเป็นจุดยุทธศาสตร์และมีความใกล้ชิดกับจีนน่าจะเป็นสาเหตุสำหรับร้องขอการไม่เปิดเผยชื่อของตน
ยังไม่ได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35B ของตน Lockheed Martin
ระบุว่าเครื่องเหล่านี้ของสิงคโปร์ยังไม่มีกำหนดการส่งมอบจนกว่าจะถึงปี 2026
และไทยซึ่งมีภูมิศาสตร์เป็นจุดยุทธศาสตร์และใกล้ชิดกับจีนเช่นกันนั้น
กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ได้ร้องขอการจัดหาเครื่องบินขับไล่
F-35A จำนวน ๑๒เครื่องจากสหรัฐฯแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติการขายให้ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2022/12/f-35a-2034.html)