วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561

กองทัพบกไทยเตรียมการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีใหม่ทดแทน AH-1F

Royal Thai Army prepares attack helicopter acquisition
The Royal Thai Army is looking to procure new attack helicopters, with several platforms under review including the Kamov Ka-52 from Russia. Source: Russian Helicopters
http://www.janes.com/article/81021/royal-thai-army-prepares-attack-helicopter-acquisition

กองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army) กำลังเตรียมการจัดตั้งโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบใหม่อย่างน้อย ๖เครื่อง เพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์โจมตี ฮ.จ.๑ Bell AH-1F Cobra ที่มีอายุการใช้งานมานาน
โดยงบประมาณสำหรับโครงการจัดหา ฮ.โจมตีใหม่ของกองทัพบกไทยได้ถูกบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณกลาโหมประจำปี พ.ศ.๒๕๖๒(2019)

แผนงานดังกล่าวได้รับการยืนยันในการประชุมร่วมกับสื่อเมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายนที่ผ่านมา พลตรี วีรยุทธ อินทร์วร ผู้บัญชาการศูนย์การบินทหารบก ศบบ. กล่าวว่า
กองทัพบกไทยได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกแบบโครงการจัดหา ซึ่งขณะนี้ได้มีการประเมินค่าข้อเสนอแบบเฮลิคอปเตอร์โจมตีจากหลายประเทศ

Jane's เข้าใจว่าแบบเฮลิคอปเตอร์โจมตีที่อยู่ในการพิจารณามีเช่น จากรัสเซียคือ Mil Mi-28 และ Kamov Ka-52, จากสหรัฐฯคือ Bell AH-1Z Viper และ Boeing AH-64E Apache, Airbus Helicopters Tiger ฝรั่งเศส-เยอรมนี,
Leonardo/AgustaWestland AW129 Mangusta อิตาลี(ซึ่งน่าสงสัยว่าที่จริงควรจะเป็น Turkish Aerospace Industries(TAI) T-129 ATAK ตุรกีที่เสนอให้ไทย http://aagth1.blogspot.com/2017/11/tai-t-129-atak.html และส่งออกให้ปากีสถานมากกว่า http://aagth1.blogspot.com/2018/05/t129-30.html)

และ Z-19E Black Whirlwind ที่พัฒนา Harbin Aircraft Industry Group(HAIG) สาธารณรัฐประชาชนจีน(ซึ่งน่าสงสัยว่าทำไมจึงไม่ใช่เฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10 จีนเช่นเดียวกับที่ปากีสถานทดลองใช้ http://aagth1.blogspot.com/2017/09/mi-35m-ah-1z.html
เพราะ เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ/โจมตี Z-19 ที่ประจำการในจีนและรุ่นส่งออก Z-19E นั้นไม่ติดปืนใหญ่อากาศ http://aagth1.blogspot.com/2017/05/z-19e.html และเป็น ฮ.คนละประเภทกับ ฮ.โจมตีแท้ ไม่น่าจะตรงตามความต้องการของกองทัพบกไทย)

ศูนย์การบินทหารบก ซึ่งมีที่ตั้ง ณ ค่ายสมเด็จพระศรีนครินทรา ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ปัจจุบันมีเฮลิคอปเตอร์ ฮ.จ.๑ AH-1F จำนวน ๗เครื่องประจำการใน กองพันบินที่๓(กองบินปีกหมุนที่๓ เดิมที่เปลี่ยนนามหน่วยตามโครงสร้างใหม่) กรมบิน ศูนย์การบินทหารบก
ฮ.จ.๑ AH-1F ชุดแรก ๔เครื่องเข้าประจำการในปี พ.ศ.๒๕๓๔(1991) โดยมี ๑เครื่องสูญเสียไปจากอุบัติเหตุในปี พ.ศ.๒๕๔๓(2000) ต่อมามีการจัดหา AH-1F EDA ที่เคยประจำการในกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) แล้วปรับปรุงสภาพใหม่อีก ๔เครื่องในปี พ.ศ.๒๕๕๕(2012)

แต่ทว่าเฮลิคอปเตอร์โจมตี ฮ.จ.๑ AH-1F ชุดแรกจำนวน ๓เครื่องซึ่งประจำการมาได้ ๒๗ปีนั้นมีกำหนดที่จะต้องปลดประจำการลงในอนาคตอันใกล้ ตามที่ พล.ต. วีรยุทธ อินทร์วร ผบ.ศบบ.กล่าวต่อสื่อ
ทั้งนี้โครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีใหม่เป็นความต้องการที่มีมานานของกองทัพบกไทย แต่ที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นไม่สามารถที่จะดำเนินการได้เนื่องจากถูกขัดขวางจากการขาดแคลนงบประมาณที่เพียงพอเป็นเวลาหลายปี

ตามที่เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลไทยผ่านทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สนช.ได้อนุมัติงบประมาณกลาโหมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๒(2019) เป็นวงเงิน ๒๒๗,๖๗๐ล้านบาท($7.1 billion) เพิ่มขึ้นจาก งป.กลาโหมปี ๒๕๖๑(2018) เพียง ๙,๑๖๐ล้านบาท หรือเพียงร้อยละ๔.๒
ซึ่ง งป.กห.ปี๒๕๖๒ นั้นคิดเป็นเพียงร้อยละ๗.๖ ของงบประมาณประจำปี๒๕๖๒ และคิดเป็นเพียงร้อยละ๑.๔ ต่อรายได้มวลรวมประชาชาติ(1.4% per GDP) เท่านั้น ทั้งนี้การเพิ่ม งป.กลาโหมของไทยในแต่ละปีที่ผ่านมานั้นเป็นไปอย่างเล็กน้อยเพื่อสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายต่างๆที่เพิ่มสูงขึ้นครับ