สิงคโปร์มุ่งจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35 จำนวนน้อยทดแทน F-16

Singapore commits to “small” F-35 procurement

Singapore has confirmed that it will replace its Lockheed Martin F-16s with the F-35, but will assess a “small number” before deciding on its long-term fleet.
https://www.flightglobal.com/news/articles/singapore-commits-to-small-f-35-procurement-455116/

สิงคโปร์ได้ยืนยันว่าตนจะทดแทนเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16C/D Block 52+ ของตนด้วยเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35 Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) แต่จะเป็นใน "จำนวนน้อย" ก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับกำลังฝูงบินในระยะยาว
กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ได้ประกาศการตัดสินใจที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35 สหรัฐฯ ในแถลงการณ์บรรยายสรุปใน Website ของตน

"เครื่องบินขับไล่ F-16 ของเราจะปลดประจำการในไม่นานหลังปี 2030 ผมดีใจที่รายงานว่าสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหมสิงคโปร์(DSTA: Defence Science and Technology Agency) และกองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force)
ได้เสร็จสิ้นการประเมินค่าทางเทคนิคสำหรับการทดแทนแล้ว และได้ตัดสินใจว่า F-35 จะเป็นที่เหมาะสมที่สุดในการเป็นเครื่องบินขับไล่ทดแทน" Ng Eng Hen รัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์กล่าวใน Twitter ของตน

นี่แสดงให้เห็นว่าสิงคโปร์จะกลายเป็นผู้ใช้งานเครื่องบินขับไล่ F-35 รายแรกของกลุ่มชาติ ASEAN ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นรายที่สี่ในกลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิกต่อจาก ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี
กองทัพอากาศสิงคโปร์ยังจะกลายเป็นชาติแรกในกลุ่มกองทัพอากาศชาติ ASEAN ที่ประจำการด้วยเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 ที่มีคุณสมบัติตรวจจับได้ยาก Stealth ด้วย

"การประเมินค่าทางเทคนิคยังรวมถึงว่า กองทัพอากาศสิงคโปร์ควรจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35 JSF ชุดแรกในจำนวนน้อยสำหรับการประเมินค่าขีดความสามารถและความเหมาะสมอย่างเต็มรูปแบบของพวกมันก่อนตัดสินใจที่จะจัดหาเต็มฝูงบิน
ในระยะต่อไป (กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์)จะหารือรายละเอียดกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องในสหรัฐฯก่อนยืนยันการตัดสินใจที่จะจัดหา F-35" กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์กล่าวในการแถลง

แม้ว่าทั้งกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์และรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์จะไม่ได้แถลงว่าสิงคโปร์จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35 จำนวนกี่เครื่อง หรือเป็นรุ่นใดบ้าง
โดยใน Twitter ของรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Ng Eng Hen ได้ลงสองภาพถ่ายที่แสดงถึงการเยี่ยมชมเครื่องบินขับไล่ F-35 สองรุ่นของเขาที่ฐานทัพอากาศ Luke กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ในปี 2015

ในภาพแรกรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Ng Eng Hen ได้กำลังพูดคุยกับ นาวาอากาศโท Michael Gette ด้านหน้าเครื่องบินขับไล่ F-35A หมายเลข 11-5039 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ
ในภาพที่สองรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Ng Eng Hen ได้ขึ้นไปนั่งดูห้องนักบินของเครื่องบินขับไล่ F-35B รุ่นบินขึ้นระยะสั้นลงจอดทางดิ่ง STOVL(Short Take-Off Vertical Landing) ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps)

สิงคโปร์ได้ไม่ได้มีความลับว่าตนสนใจเครื่องบินขับไล่ F-35 โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพสิงคโปร์(SAF: Singapore Armed Forces) ได้แสดงมุมมองเชิงบวกในโครงการ F-35 มาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้
เป็นที่เชื่อว่าสิงคโปร์มีความสนใจเป็นพิเศษในเครื่องบินขับไล่ F-35B STOVL เนื่องจากความที่ภูมิประเทศเป็นมหานครบนเกาะขนาดใหญ่ที่ขาดแคลนพื้นที่ว่างสูง ซึ่งทำให้เกิดความท้าทายในฐานทัพอากาศที่จะเป็นพื้นที่ที่ลงจอดได้ที่มีจำกัด

เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯได้นำแบบจำลองขนาดเท่าของจริง Mock-Up ของเครื่องบินขับไล่ F-35 ที่ทำเครื่องหมายของกองทัพอากาศสิงคโปร์มาแสดงในงานการแสดงการบินนานาชาติ Singapore Air Show
สิงคโปร์ได้เข้าร่วมโครงการ JSF ในระดับ Security Cooperative Participants เช่นเดียวกับอิสราเอล ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลของโครงการและทำให้ทำสิงคโปร์ออกเอกสารการร้องขอการศึกษาเป็นพิเศษ(Request Special Studies)ได้

ในการให้สัมภาษณ์กับ Flight Daily News ก่อนหน้านี้ พลอากาศตรี Mervyn Tan ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสิงคโปร์แถลงว่า การขาดแคลนยุทธศาสตร์เชิงลึกของสิงคโปร์หมายถึงว่าสิงคโปร์จำเป็นที่จะต้องจัดลำดับความสำคัญให้กับนภานุภาพ
"หลังการศึกษาอย่างระมัดระวัง เราได้สรุปว่าการเข้าถึงประสิทธิภาพต่อราคาที่ดีที่สุดจะเป็นการปรับปรุง F-16 เพื่อยืดอายุการใช้งานของพวกมัน" พลอากาศตรี Mervyn Tan กล่าว

"ขณะที่การประเมินค่า F-35 ในฐานะตัวแทนเข้าแข่งขันที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กองกำลังฝูงเครื่องบินขับไล่เรา และคงรักษาขอบการรบของเราเข้าสู่อนาคต (กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์) ยังคงประเมินค่า F-35 JSF
การตัดสินใจจะจัดหาขีดความสามารถที่ใหม่และก้าวหน้ามีความสำคัญ และจะมีขึ้นหลังผ่านการประเมินค่าที่ระมัดระวัง เราต้องมั่นใจว่าการลงทุนของเราจะไม่ตรงตามเฉพาะความต้องการด้านกลาโหม แต่ยังรวมถึงประสิทธิภาพต่อราคาด้วย" พล.อ.ต. Tan เสริม

Flight Fleets Analyzer แสดงข้อมูลว่ากองทัพอากาศสิงคโปร์มีเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 52+ ประจำการ 60เครื่องซึ่งมีอายุเฉลี่ยที่ 17.8ปี โดยกำลังจะได้รับการปรับปรุงความทันสมัยตามมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ F-16V Viper Block 72
โดยจะได้รับการติดตั้ง AESA(Active Electronically Scanned Array) radar แบบ Northrop Grumman AN/APG-83 SABR(Scalable Agile Beam Radar), ระบบ Avionic ใหม่ และห้องนักบินใหม่ สิงคโปร์ยังประจำการเครื่องบินขับไล่ Boeing F-15SG จำนวน 40เครื่อง ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 6.9ปีด้วยครับ