วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568

กองทัพบกไทยและสิงคโปร์เสร็จสิ้นการฝึกผสม Flash Thunder 2025












Soldiers from our Army’s 1st Commando Battalion (1 Cdo Bn) and the Royal Thai Army (RTA) Rangers recently completed Exercise Flash Thunder (XFT) 2025 which was held from 21 to 29 June in Singapore. (Singapore Army, SMART Soldiers Strong Army)
The bilateral exercise featured components such as bilateral friendship jumps, professional exchanges in small unit tactics and weapons, field training exercise, and Muay Thai lessons conducted by the Royal Thai Army. 
The exercise concluded with a closing ceremony, where both armed forces exchanged airborne badges as a symbol of mutual respect and camaraderie.
XFT 2025 underscores the close and long-standing bilateral defence relations between both armies. 
Writer : LCP Adyson Tan (Army News)
Photos : CFC Sean Chew (Army News) , LCP Tu Yang (Army News) , LCP Vincent Bui (Army News) , 1 Cdo Bn Media Team

Flash Thunder 2025 สานต่อมิตรภาพกับกองทัพมิตรประเทศ ระหว่าง ทบ.ไทย และ ทบ.สิงคโปร์ 
ภาพบรรยากาศการฝึกแลกเปลี่ยนทักษะระหว่างกำลังพลจากกองพลรบพิเศษที่ 1 ทบ.ไทย และกองพันคอมมานโดที่ 1 ทบ.สิงคโปร์ ในการฝึกผสมรหัส Flash Thunder 2025 ในห้วงตั้งแต่ 21-29 มิ.ย.68 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์
หากย้อนกลับไปในอดีต การฝึกผสมระหว่าง ทบ.ไทยและ ทบ.สิงคโปร์ในรหัสนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2540 ภายใต้ชื่อรหัส Blue Thunder โดย ทบ.ไทยในขณะนั้นได้จัดกำลังจากกองพันรบพิเศษที่ 1 กรมรบพิเศษที่ 3 (รพศ.3 พัน.1) เข้าร่วมการฝึก 
ต่อมาในปี 2541 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อรหัสเป็น Flash Thunder และทำการฝึกที่ค่าย Hendon ประเทศสิงคโปร์ โดย ทบ.ไทยจัดกำลังจากกองพันจู่โจมเข้าร่วมการฝึก และผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพมาจนถึงปัจจุบัน
และสำหรับการฝึกผสม Flash Thunder 25 ในปีนี้ กำลังพลจากทั้งสองชาติจะทำการฝึกแลกเปลี่ยนกันในเรื่องต่างๆ ได้แก่ อาวุธศึกษาของหน่วยคอมมานโด การใช้ยุทโธปกรณ์พิเศษ การใช้อุปกรณ์ในการระเบิดทำลาย การรบในพื้นที่สิ่งปลูกสร้าง การยิงปืนด้วยกระสุนจริง การฝึกลงทางดิ่ง และจบการฝึกในปีนี้ด้วยการกระโดดร่มมิตรภาพทั้งแบบสายดึงประจำที่และแบบกระตุกเอง
โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 4 ของการฝึกแล้ว แอดเลยจะขอนำประมวลภาพการฝึกในเรื่องต่างๆ มาลงให้ดูกัน โดยหลังจากนี้ก็จะมาทยอยอัพเดทข่าวคราวการฝึกเป็นระยะๆ ครับ ทั้งการฝึก Flash Thunder 25 และการผสมรหัส Balance Torch 25-3 ระหว่าง รพศ.1 และ ร.31 รอ. กับชุด ODA ของ ทบ.สหรัฐฯ ด้วย 

อัพเดทการฝึกผสมรหัส Flash Thunder 2025 ระหว่างกำลังพลจากกองพันจู่โจม ทบ.ไทย และกองพันคอมมานโดที่ 1 ทบ.สิงคโปร์ วันที่ 25 มิ.ย.68
โดยวันนี้จะเป็นวันแรกของการฝึกทบทวนการกระโดดร่มทั้งแบบสายดึงประจำที่และการแทรกซึมทางอากาศเบื้องสูง โดยทำการฝึกทบทวนเรื่องต่างๆ ได้แก่ การบังคับร่มด้วยระบบ PFS ( Parachute Flight Simlator ) , ฝึกทบทวนการกระโดดร่มแทรกซึมทางอากาศเบื้องสูง MFF ในอุโมงค์ลม และการใช้เครื่องจำลองฝึกการกระโดดร่ม (simulator) ในการฝึกลงพื้น

การกระโดดร่มระหว่างกำลังพลจาก พัน.จจ. ทบ.ไทย และพัน.คอมมานโดที่ 1  ทบ.สิงคโปร์ ทั้งแบบสายดึงประจำที่และการแทรกซึมทางอากาศเบื้องสูง ในการฝึกผสมรหัส Flash Thunder 25 และการแลกเปลี่ยนเครื่องหมายนักกระโดดร่มระหว่างกันในพิธีปิดการฝึกฯ ในปีนี้
โดยกองทัพบกไทยและกองทัพบกสิงคโปร์ ถือเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีทางทหารร่วมกันมาอย่างยาวนาน ตลอดจนมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการฝึกในระดับต่างๆ ด้วยกันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพทั้งสองประเทศให้มีความพร้อมในการรับมือต่อภัยคุกคามด้านความมั่นคงรูปแบบต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ทั้งในปัจจุบันและอนาคต 

กองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army) และกองทัพบกสิงคโปร์(Singapore Army) ได้เสร็จสิ้นการฝึกผสมรหัส Flash Thunder 2025 ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยการฝึกผสม Flash Thunder ได้ถูกจัดขึ้นตั้งแต่ในชื่อการฝึกผสม Blue Thunder ในปี พ.ศ.๒๕๔๐(1997) และเปลี่ยนชื่อเป็น Flash Thunder ในปี พ.ศ.๒๕๔๑(1998) 
การฝึกผสม Flash Thunder ที่จัดขึ้นทุกปีโดยสลับกันเป็นเจ้าภาพระหว่างไทยและสิงคโปร์ในการฝึก Flash Thunder 2025 ปีนี้กองทัพบกไทยจัดกำลังจาก กองพันจู่โจมรักษาพระองค์ พัน.จจ.รอ(Ranger Battalion King's Guard) กรมรบพิเศษที่๓ รักษาพระองค์ รพศ.๓(3rd Special Forces Regiment King's Guard) กองพลรบพิเศษที่๑ พล.รพศ.๑(1st Special Forces Division) ไปฝึกที่สิงคโปร์
ขณะที่กองทัพบกสิงคโปร์จัดกำลังจากกองพันคอมมานโดที่๑(1 CDO BN: 1st Commando Battalion) ณ ค่าย Hendon Camp การฝึกได้ครอบคลุมยุทธวิธีหน่วยทหารขนาดเล็กและอาวุธ การกระโดดร่มแบบสายดึงประจำที่(static line) และการแทรกซึมทางอากาศเบื้องสูง(HALO: High Altitude Low Opening) ร่วม ซึ่งได้เห็นอุปกรณ์การฝึกที่ทันสมัยของกองทัพสิงคโปร์ การแลกเปลี่ยนเครื่องหมายนักกระโดดร่ม และด้านวัฒนธรรมศิลปะการป้องกันตัวมวยไทยครับ

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568

KAI และ Hanwha เกาหลีใต้ได้รับสัญญาสร้างเครื่องบินขับไล่ KF-21 และเครื่องยนต์ไอพ่น F414 เพิ่ม

KAI, Hanwha win deals to build more KF-21 fighters and engines







An initial batch of KF-21 fighter aircraft is scheduled to be delivered to the RoKAF by late 2026. (Korea Aerospace Industries)





บริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลี และบริษัท Hanwha Aerospace สาธารณรัฐเกาหลีได้ชนะสัญญามูลค่าวงเงินมากกว่า 3 trillion Korean Won($2.2 billion)
เพื่อที่จะผลิตเครื่องบินขับไล่ KF-21 Boramae และเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ General Electric F414 ของเครื่องบินสำหรับกองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลี(RoKAF: Republic of Korea Air Force)

บริษัท KAI กล่าวในการยื่นเอกสารต่อตลาดหลักทรัพย์(stock exchange filing) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2025 ว่าข้อตกลงใหม่ของตนที่ได้รับการประกาศโดยสำนักงานโครงการจัดหากลาโหม(DAPA: Defense Acquisition Program Administration) สาธารณรัฐเกาหลี
มีมูลค่าที่วงเงิน 2.39 trillion Korean Won และดำเนินไปจนถึงเดือนธันวาคม 2028(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/kai-kf-21.html, https://aagth1.blogspot.com/2025/04/kf-21.html)

บริษัท Hanwha Aerospace กล่าวว่าสัญญาของตนมีมูลค่าที่วงเงิน 623.2 billion Korean Won และครอบคลุมสิทธิบัตรการผลิตของเครื่องยนต์ไอพ่น F414 สหรัฐฯเพิ่มเติมจำนวน 40เครื่องและชิ้นส่วนอะไหล่ที่เกี่ยวข้อง
บริษัท KAI ไม่ได้เปิดเผยว่ามีเครื่องบินขับไล่ KF-21 กี่เครื่องที่จะถูกสร้างภายใต้สัญญาใหม่ แต่น่าจะเป็นที่จำนวน 20เครื่อง ตามที่เครื่องบินขับไล่ KF-21 แต่ละเครื่องติดตั้งระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ไอพ่น F414 สองเครื่อง

ทั้งสองสัญญาแสดงถึงข้อตกลงที่มีต่อเนื่องตามมา ในเดือนมิถุนายน 2024 บริษัท KAI ได้รับการประกาศสัญญาวงเงิน 1.96 trillion Korean Won เพื่อผลิตเครื่องบินขับไล่ KF-21 จำนวน 20เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/kf-21-20.html)
และบริษัท Hanwha Aerospace ขณะข้อตกลงวงเงิน 556 billion Korean Won เพื่อสร้างเครื่องยนต์ไอพ่น F414 ชุดแรกจำนวน 40เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/hanwha-f414.html)

การผลิตเครื่องบินขับไล่ KF-21 ในสายการผลิตเครื่องแรกสำหรับกองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลีได้เริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2024 ณ โรงงานอากาศยาน Sacheon ของบริษัท KAI ใน Gyeongsangnam-do(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/kf-21.html
เครื่องบินขับไล่ KF-21 เครื่องแรกได้เข้าสู่ขั้นระยะการประกอบขั้นสุดท้ายของตน ซึ่งเครื่องได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่น F414 และระบบไฟฟ้าต่างๆของตนในเดือนพฤษภาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/kf-21-40.html)

Active Electronically Scanned Array(AESA) radar ของเครื่องบินขับไล่ KF-21 ยังได้รับการพัฒนาและสร้างภายในประเทศโดยบริษัท Hanwha Systems สาธารณรัฐเกาหลีด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/kf-21.html
ตามหลังการประกอบขั้นสุดท้ายเครื่องบินขับไล่ KF-21 เครื่องแรกจะได้รับการทดสอบภาคพื้นดินและการบินทดสอบต่างๆ เครื่องบินขับไล่ KF-21 ระยะที่1 รวมจำนวน 40เครื่องมีกำหนดที่จะส่งมอบเครื่องแรกแก่กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลีภายในปลายปี 2026 ครับ

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เกาหลีใต้ทดสอบการปล่อยอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นพิสัยไกล Sky Dragon จากเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา FA-50

South Korea ‘Sky Dragon' air-to-surface missile completes separation flight test







A prototype of South Korea's Sky Dragon (Cheonryong) long-range air-to-surface missile mounted on a Korea Aerospace Industries FA-50 light combat aircraft. (DAPA)



อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นพิสัยไกลที่รู้จักภายในสาธารณรัฐเกาหลีว่า 'Sky Dragon'(Cheonryong, 천룡 "มังกรฟ้า") ได้ทำการ "ทดสอบการบินแยกตัวอย่างปลอดภัยครั้งแรก" ของตน
สำนักงานโครงการจัดหากลาโหม(DAPA: Defense Acquisition Program Administration) สาธารณรัฐเกาหลีกล่าวเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2025(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/taurus-lig-nex1-kepd-350k-2-fa-50.html)

การดำเนินการทดสอบเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2025 โดยเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา Korea Aerospace Industries(KAI) FA-50 ของกองบินการฝึกบินที่3(3rd Flying Training Wing) กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลี(RoKAF: Republic of Korea Air Force)
การทดสอบการบินแยกตัวได้ประเมินขีดความสามารถของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Sky Dragon ที่ปลดออกจากเครื่องบินโดยปราศจากผลกระทบต่อความปลอดภัยและการทำงานต่างๆของเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา FA-50 DAPA กล่าว

ตามการปล่อยจากเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา FA-50 กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลี อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Sky Dragon ทำการบินเป็นระยะทางที่ 9km ในเวลาประมาณ 37วินาที โดยการใช้อุปกรณ์ระบบการนำร่อง inertial และดาวเทียม 
DAPA สาธารณรัฐเกาหลีเสริม อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Sky Dragon ได้ตกกระทบผิวน้ำ ณ สถานที่ทดสอบต่อเนื่องตามมา ตามข้อมูลจากสำนักงานโครงการจัดหากลาโหมสาธารณรัฐเกาหลี DAPA

การทดสอบการบินแยกตัวเป็นจุดสูงสุดที่สำคัญของการทดสอบการบินอากาศยานที่เชื่อมโยงกัน 31เครื่องที่ดำเนินการเป็นเวลาประมาณสามเดือนตั้งเดือนเมษายน 2025 ที่เป็นการศึกษาคุณลักษณะต่างที่หลากหลายของอาวุธปล่อยนำวิถี DAPA กล่าว
การทดสอบเหล่านี้รวมถึงการกระพือ(flutter), เสถียรภาพ(stability), ผลกระทบการบรรทุก, และการป้อนค่ารูปแบบการปฏิบัติงานและข้อมูลเป้าหมายแก่อาวุธปล่อยนำวิถีผ่านระบบนำร่องของเครื่องบินเพื่อรับรองว่าอาวุธมีขีดความสามารถที่จะทำงานไปตามแผนภารกิจ

เครื่องบินขับไล่โจมตีเบา FA-50 และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Sky Dragon ยังได้ทำการทดสอบทางสภาพแวดล้อมต่างๆด้วย การทดสอบเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการวัดค่าสภาพแสดล้อมเครื่องวัดประกอบการบิน(in-flight instrumentation) อย่างเช่นการสั่น(vibration), อุณหภูมิ แลความเร่ง(acceleration) 
ตามข้อมูลจาก DAPA สาธารณรัฐเกาหลี อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Sky Dragon จะมีสมรรถนะที่เทียบหรือเหนือกว่าอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นร่อนโจมตีความแม่นยำสูง Taurus Systems GmbH KEPD 350K เยอรมนี

ซึ่งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นร่อนพิสัยไกล KEPD 350K ได้ถูกนำมาติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ Boeing F-15K Slam Eagle ของกองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2020/12/mh-60r.html)
ในปี 2023 บริษัท Taurus Systems เยอรมนี-สวีเดนได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัท LIG Nex1 สาธารณรัฐเกาหลีเพื่อจะร่วมพัฒนาอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นร่อน KEPD 350K-2 รุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กกว่าสำหรับเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา FA-50 ครับ

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ออสเตรเลียทดสอบอากาศยานไร้คนขับ MQ-28A Ghost Bat เพื่อปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย

Australia tests MQ-28A's ability to operate in unfamiliar environment







A Boeing MQ-28A Ghost Bat on the tarmac as an F-35A Lightning II taxis during Exercise ‘Carlsbad' at RAAF Base Tindal in April 2025. (LAC Ryan Howell/Commonwealth of Australia )



กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียกล่าวว่าตนได้วางกำลังและปฏิบัติการอากาศยานไร้คนขับ 'คู่บินภักดี'(loyal wingman) แบบ Boeing MQ-28A Ghost Bat ของตนจากฐานทัพอากาศในตอนเหนือของออสเตรเลีย
เพื่อที่จะทดสอบขีดความสามารถของอากาศยานรบทำงานร่วมกัน(CCA: Collaborative Combat Aircraft) ที่จะปฏิบัติการนอกสนามฝึก Woomera Training Area ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย

การวางกำลังได้ถูกดำเนินการภายใต้การฝึก Carlsbad 2025 ซึ่งเป็น "หลายชุดของการทดสอบต่างๆตลอดทั้งปี 2025 ที่จะสมบูรณ์เต็มที่และแสดงขีดความสามารถต่างๆของอากาศยานไร้คนขับ MQ-28A Ghost Bat
การประสบความสำเร็จการเสร็จสิ้นการฝึกนี้ได้แสดงให้เห็นว่า MQ-28A สามารถดำเนินการปฏิบัติการจากที่ตั้งนอกจากสนามฝึก Woomera...ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งการปฏิบัติการโดยเฉพาะสำหรับ MQ-28A" กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียกล่าวเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2025

ตามข้อมูลจากนาวาอากาศโท Phillip Parsons ผู้บัญชาการการฝึก Carlsbad 2025 การฝึก "ได้ทดสอบว่าอากาศยานไร้คนขับ MQ-28A จะวางกำลังและวางกำลังใหม่ได้อย่างไร และประสบความสำเร็จการปฏิบัติงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย
จุดประสงค์หลักของการฝึก Carlsbad 2025 คือเพื่อที่จะทำความเข้าใจหลักพื้นฐานทั้งหมดที่จะเป็นข้อมูลนำเข้าไปสู่ขีดความสามารถที่สัมพันธ์ต่ออากาศยานไร้คนขับ MQ-28A" นาวาอากาศโท Parsons กล่าว

กองทัพอากาศออสเตรเลีย(RAAF: Royal Australian Air Force) ทำการเคลื่อนย้ายอากาศยานไร้คนขับ MQ-28A Ghost Bat จากที่ตั้งขั้นต้น ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Australian International Air Show(Avalon 2025) ที่ Geelong(ใกล้ Melbourne) ในตอนใต้ออสเตรเลีย
ไปยังฐานทัพอากาศ RAAF Base Tindal ในรัฐ Northern Territory ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/f-35a-72.html) โดยการใช้เครื่องบินลำเลียง Boeing C-17 Globemaster ตามข้อมูลจากนาวาอากาศโท Parsons

"ภายใน 7วันของการมาถึงฐานทัพอากาศ RAAF Base Tindal เราได้เสร็จสิ้นหลายชุดของการปฏิบัติงานภาคพื้นดินเพื่อยืนยันว่าระบบของเราอยู่ในการทำงานตามคำสั่งที่ดีก่อนที่จะประสบความสำเร็จ
การบรรลุผลการทำการบินครั้งแรกของอากาศยานไร้คนขับ MQ-28A จากที่ตั้งนอกจากสนามฝึก Woomera Training Area" นาวาอากาศโท Parsons เสริม ตามข้อมูลจากบริษัท Boeing สหรัฐฯการวางกำลังครั้งแรกนี้มีขึ้นในเดือนเมษายน 2025

บริษัท Boeing Defence Australia ออสเตรเลีย-สหรัฐฯได้รับสัญญาเพื่อจะผลิตอากาศยานไร้คนขับ MQ-28A Block 1 CCA จำนวน 10ระบบสำหรับกองทัพอากาศออสเตรเลีย(https://aagth1.blogspot.com/2022/05/mq-28a-ghost-bat-10.html)
โดยเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2024 รัฐบาลออสเตรเลียได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมวงเงิน A$399 million($258.8 million) ที่รวมถึงการผลิตอากาศยานไร้คนขับ MQ-28A Block 2 จำนวน 3ระบบที่มีแผนจะเสร็จสิ้นในสิ้นปี 2025 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/loyal-wingman-uav-mq-28a-ghost-bat.html)

วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568

อังกฤษจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A สหรัฐฯอย่างน้อย 12เครื่องสำหรับภารกิจนิวเคลียร์

UK commits to F-35A for nuclear role





A file photo of an F-35A. The UK is to acquire the variant of the JSF for the shared NATO nuclear mission, but it will also afford a greatly increased conventional strike capability. (US Air Force)

กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(RAF: Royal Air Force) จะได้รับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/f-35-1.html)
ตามที่ตนจะกลับมามีภารกิจการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ที่สูญเสียไปตามการสิ้นสุดสงครามเย็นในปลายปี 1990s รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2025

การประกาศอย่างเป็นทางการโดยนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร Sir Keir Starmer ณ การประชุม NATO summit ในมหานคร The Hague เนเธอร์แลนด์ ความเคลื่อนไหวนี้จะได้เห็น
กระทรวงกลาโหมสหรราชอาณาจักรจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A รุ่นขีดความสามารถสองทาง DCA(Dual-Capable Aircraft) อย่างน้อยจำนวน 12เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/f-35a-b61-12.html)

โดยคำสั่งซื้อจะถูกรวมอยู่ในชุดระยะที่สอง(2nd tranche) ของเครื่องบินขับไล่ F-35 JSF ที่ขณะนี้กำลังได้รับการเจรจากับสำนักงานโครงการร่วม F-35(F-35 JPO: Joint Program Office)
"นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรจะประกาศในการประชุม NATO summit วันพรุ่งนี้(25 มิถุนายน 2025) ว่าสหราชอาณาจักรตั้งใจที่จะจัดซื้อเครื่องบินขับไล่สองขีดความสามารถที่อย่างน้อย 12เครื่องซึ่งสามารถติดตั้งได้ทั้งอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธตามแบบต่างๆ"

รัฐบาลสหราชอาณาจักรกล่าวโดยเสริมว่า "การจัดซื้อแสดงถึงการเสริมความแข็งแกร่งครั้งใหญ่ที่สุดของการวางกำลังทางนิวเคลียร์ของสหราชอาณาจักรในยุคสมัย 
มันยังเป็นการนำภารกิจนิวเคลียร์กลับมาสำหรับกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่สหราชอาณาจักรปลดประจำการอาวุธนิวเคลียร์ยิงจากทางอากาศที่เป็นอธิปไตยของตนตามการสิ้นสุดของสงครามเย็น"

"สหราชอาณาจักรจะวางกำลังเครื่องบินขับไล่ F-35A เหล่านี้ในฐานะส่วนหนึ่งของภารกิจอากาศยานขีดความสามารถสองทาง DCA ของ NATO เสริมความแข็งแกร่งการวางตัวการป้องปรางทางนิวเคลียร์ของ NATO" รัฐบาลสหราชอาณาจักรกล่าว
ปัจจุบันกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรกำลังอยู่ระหว่างการรับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35B Lightning II รุ่นบินขึ้นระยะสั้นและลงจอดทางดิ่ง(STOVL: Short Take-Off and Vertical Landing)(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/f-35b.html)

การส่งมอบของเครื่องบินขับไล่ F-35B จำนวน 48เครื่องตามสัญญาจนถึงขณะนี้มีกำหนดจะเสร็จสิ้นภายหลังในปี 2025 โดย F-35B ชุดที่สองจำนวน 27เครื่องคาดว่าจะมีตามมา รวมถึงการทดแทนสำหรับเครื่องที่เสียไป สหราชอาณาจักรจะมีฝูงบินเครื่องบินขับไล่ F-35B ทั้งหมด 75เครื่องภายในต้นปี 2030s
ในมาตรฐานเครื่อบินขับไล่ F-35 Block 4 ที่กำลังจะมาถึงยังรวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา(BVRAAM: Beyond-Visual-Range Air-to-Air Missile) แบบ MBDA Meteor(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/f-35b-meteor.html) และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น SPEAR 3(Selected Precision Effects At Range 3) ครับ

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เรือดำน้ำ SS-711 Hai Kun ไต้หวันเสร็จสิ้นการทดลองเรือในทะเลครั้งแรก

Taiwan indigenous submarine complete first sea trial



Hai Kun (SS-711) during sea trials on June 17. CSBC picture.



เรือดำน้ำลำแรกของไต้หวันที่สร้างเองในประเทศโครงการเรือดำน้ำกลาโหมภายในประเทศ(IDS: Indigenous Defence Submarine) เรือดำน้ำ SS-711 ROCS Hai Kun สำหรับกองทัพเรือไต้หวัน(RoCN: Republic of China Navy)
ได้เสร็จสิ้นการประสบความสำเร็จการทดลองเรือในทะเลครั้งแรกของตนเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 ตามข้อมูลจากบริษัท CSBC Corporation ไต้หวันผู้สร้างเรือ(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/ss-711-hai-kun.html)

เรือดำน้ำลำแรกในโครงการเรือดำน้ำ IDS เรือดำน้ำ SS-711 ROCS Hai Kun(海鯤) ที่ยังรู้จักในชื่อ Narwhal ได้ถูกพบเห็นกำลังปฏิบัติงานภายใต้กำลังขับเคลื่อนของตนเองในท่าเรือ Kaohsiung(高雄) ในสัปดาห์ที่สามของเดือนมิถุนายน 2025
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 เรือดำน้ำ Hai Kun ได้ถูกพบว่ากำลังออกเดินเรือจากอู่เรือบริษัท CSBC ผ่านใกล้กับเกาะ Cijin(旗津) ที่เจ้าหน้าที่ที่เป็นกำลังพลทางทหารหรือเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคมากกว่า 10คนยืนบนดาดฟ้าเรือนอกเหนือจากลูกเรือที่เห็นได้จากด้านบนของหอเรือ(sail)

แหล่งข่าวทางทหารนิรนามกล่าวกับสำนักข่าว CNA ของรัฐบาลไต้หวันว่า กองทัพเรือไต้หวันได้วางกำลังทรัพยากรหลายหลายแบบเพื่อควบคุมพื้นที่ระหว่างที่เรือดำน้ำ Hai Kun ทำการทดลองเรือในทะเล
ทรัพยากรต่างๆเหล่านี้รวมถึง เรือเร็วจู่โจม, เรือเร็วโจมตีติดอาวุธปล่อยนำวิถี, เรือฟริเกต และอากาศยานต่างๆเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและรักษาความลับของปฏิบัติการทดสอบต่างๆ

ตามข้อมูลจากผู้สร้างเรือบริษัท CSBC Corporation เรือดำน้ำ Hai Kun ได้เข้าสู่ชุดการทดสอบเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 ที่รวมถึงระบบขับเคลื่อน, การควบคุมทิศทางเดินเรือ, ระบบไฟฟ้า, การหมุนเวียนอากาศ(ventilation), การสื่อสาร และการนำร่อง
CSBC ไต้หวันระบุว่าการทดลองเรือในทะเลจะได้ถูกดำเนินการในสามระยะคือ การนำร่องที่ผิวน้ำ, การทดสอบดำลงใต้น้ำในระดับน้ำตื้น และการเพิ่มการดำที่ลึกขึ้น การปรับแต่งระบบจะมีขึ้นหลังจากผลการประเมินของแต่ละระยะการทดสอบก่อนเดินหน้าสู่ระยะต่อไป

ในการตอบสนองต่อการคาดเดาในสื่อสังคม online เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ตัวเรือเกิดการผิดรูปที่ถูกพบระหว่างการทดลองเรือขั้นต้น บริษัท CSBC ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ส่วนที่ยืนออกมาทางกราบซ้ายของหัวเรือของเรือดำน้ำ Hai Kun 
ไม่ใช่ข้อบกพร่องทางโครงสร้างแต่เป็นส่วนสำหรับติดตั้งระบบ sonar วัดระยะเชิงรับของเรือดำน้ำ บริษัท CSBC ได้เชิญชวนให้สาธารณชนที่จะสนับสนุนและภาคภูมิใจในความคืบหน้าของโครงการเรือดำน้ำกลาโหมภายในประเทศ IDS ของไต้หวัน

แม้ว่าจะมีความคืบหน้า แต่งบประมาณสำหรับเรือดำน้ำในโครงการ IDS ที่จะตามมาอีก 7ลำจากทั้งหมด 8ลำยังคงถูกระงับไว้บางส่วนประมาณร้อยละ50 เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านต่างๆในสภาไต้หวันที่โน้มเอียงไปทางที่สนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่
การให้ผ่านงบประมาณขึ้นอยู่กับการประสบความสำเร็จในการเสร็จสิ้นการทดลองเรือในทะเล(SAT: Sea Acceptance Test) ของเรือดำน้ำ Hai Kun และรายงานพิเศษกำลังถูกยื่นไปยังสภานิติบัญญัติไต้หวันเพื่อการอนุมัติ

แม้ว่าการทดลองเรือในทะเลได้ถูกดำเนินขึ้นล่าช้าหลังจากกำหนดการขั้นต้น หัวหน้าคณะเสนาธิการกองทัพเรือไต้หวัน พลเรือโท Chiu Chun-jung(邱俊榮) กล่าวกับสำนักข่าว CNA ไต้หวันว่า
กำหนดระยะเวลาการส่งมอบของ เรือดำน้ำ SS-711 ROCS Hai Kun ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยเรือดำน้ำยังคงถูกกำหนดที่จะส่งมอบให้แก่กองเรือไต้หวันในเดือนพฤศจิกายน 2025 ตามสัญญาเดิม

เรือดำน้ำ SS-711 ROCS Hai Kun เรือดำน้ำลำแรกภายใต้โครงการ IDS ถูกเปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน 2023 และถูกปล่อยเรือลงน้ำในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 นอกเหนือจากเรือดำน้ำ Hai Kun ที่ยังไม่ได้มีการส่งมอบ ปัจจุบันกองทัพเรือไต้หวันมีประจำการด้วยเรือดำน้ำ 4ลำ
เรือดำน้ำที่มีอายุการใช้งานนานที่สุด 2ลำจาก 4ลำคือ เรือดำน้ำ SS-791 ROCS Hai Shih(Sea Lion 'สิงโตทะเล') และเรือดำน้ำ SS-792 ROCS Hai Pao(Seal 'แมวน้ำ') ที่เดิมเป็นเรือดำน้ำชั้น Tench ยุคสงครามโลกครั้งที่สองที่สหรัฐฯมอบให้ในปี 1970s

เรือดำน้ำ ROCS Hai Shih และเรือดำน้ำ ROCS Hai Pao ทั้งสองลำได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแบบภายใต้โครงการ GUPPY(Greater Underwater Propulsion Power Program) และถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่าเรือดำน้ำชั้น Guppy ในไต้หวัน พวกเธอยังคงประจำการอยู่และถูกกล่าวว่ามีขีดความสามารถในการรบ
เรือดำน้ำชั้น Hai Lung(หรือเรือดำน้ำชั้น Chien Lung) สองลำคือ เรือดำน้ำ SS-793 ROCS Hai Lung(Sea Dragon 'มังกรทะเล') และเรือดำน้ำ SS-794 ROCS Hai Hu(Sea Tiger 'เสือโคร่งทะเล') เป็นเรือที่ค่อนข้างใหม่และก้าวหน้ากว่า

เรือดำน้ำชั้น Hai Lung ทั้ง 2ลำเหล่านี้ถูกจัดซื้อจากเนเธอร์แลนด์ในปี 1980s และได้รับการติดตั้งด้วย Torpedo หนักแบบ AEG SUT 264 เยอรมนีที่จัดหาภายใต้สิทธิบัตรจากอินโดนีเซียในปี 1980s
อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำยิงจากเรือดำน้ำใต้น้ำ Boeing UGM-84 Harpoon ถูกจัดซื้อจากสหรัฐฯในปี 2008 และ Torpedo หนักแบบ MK 48 Mod6 Advanced Technology(AT) ถูกจัดหาจากสหรัฐฯในปี 2017 ครับ

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568

อังกฤษ อิตาลี ญี่ปุ่นร่วมจัดตั้งบริษัท Edgewing เพื่อพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคต GCAP

Edgewing joint venture company launched to develop GCAP





Edgewing brings together BAE Systems, Leonardo, and Japan Aircraft Industrial Enhancement Co Ltd to design and develop the Global Combat Air Programme (GCAP) next-generation combat aircraft. (BAE Systems)

หุ้นส่วนภาคอุตสาหกรรมโครงการการรบทางอากาศทั่วโลก(GCAP: Global Combat Air Programme) ได้เปิดตัวกิจการร่วมค้า(JV: Joint Venture) ใหม่ที่มีชื่อว่าบริษัท Edgewing
เพื่อที่จะพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตแบบมีนักบินบังคับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/loyal-wingman-uav-gcap.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/gcap.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/01/ai-loyal-wingman-uav.html)

บริษัท Edgewing จะนำ "บริษัท BAE Systems สหราชอาณาจักร, บริษัท Leonardo อิตาลี, และบริษัท Japan Aircraft Industrial Enhancement Co Ltd(JAIEC) ญี่ปุ่น" รวมเข้าด้วยกัน
เพื่อที่จะพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตโครงการ GCAP ทั้งสามบริษัทกล่าวในแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2025(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/gcap.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/01/gcap.html)

"กิจการที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่จะมีบทบาทสำคัญ" ในการบรรลุผลวัตถุประสงค์หลักต่างๆของโครงการ "นี่รวมถึงกำหนดการนำเข้าประจำการในปี 2035 สำหรับเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตแบบใหม่
ขณะที่ตั้งค่ามาตรฐานใหม่สำหรับความเป็นหุ้นส่วนด้านอุตสาหกรรมไตรภาคีตลอดทั่วทั้งยุโรปและเอเชีย" แถลงการณ์ของทั้งสามบริษัทเสริม(https://aagth1.blogspot.com/2022/12/gcap.html)

การเปิดตัวบริษัท Edgewing มีขึ้นตามมาหกเดือนให้หลังจากสามหุ้นส่วนภาคอุตสาหกรรม BAE Systems สหราชอาณาจักร, Leonardo อิตาลี, และ JAIEC ญี่ปุ่น
ได้บรรลุข้อตกลงในเดือนธันวาคม 2024 ที่จะจัดตั้งบริษัทใหม่ภายใต้รูปแบบธุรกิจกิจการร่วมค้า JV สำหรับโครงการ GCAP(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/gcap-jv.html)

ในแถลงการณ์ร่วมล่าสุด สามหุ้นส่วนกล่าวว่า บริษัท Edgewing "จะรับผิดชอบสำหรับการออกแบบและพัฒนา" ของโครงการ GCAP และ "จะยังคงเป็นตัวแทนผู้มีอำนาจการออกแบบสำหรับโครงการ GCAP เป็นเวลาตลอดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ 
ซึ่งคาดว่าจะดำเนินไปจนถึงเกินปี 2070" Marco Zoff จะเป็นผู้อำนวยการบริหารคนแรกของบริษัท Edgewing ซึ่งเดิมเขาเป็นผู้อำนวยการการจัดการของแผนกอากาศยาน Leonardo Aircraft Division อิตาลี

Zoff นำ "ประสบการณ์การเป็นผู้นำที่เข้มข้นในความร่วมมือการทำงานร่วมกันและนวัตกรรมการบินนานาชาติ" แถลงการณ์ร่วมกล่าว ตามข้อมูลจาก Zoff บริษัท Edgewing จะทำให้โครงการอากาศยานจะเป็นการรวมเอกภาพ "ที่แข็งแกร่ง"
ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องในโครงการทั่วทั้งสหราชอาณาจักร, อิตาลี และญี่ปุ่น "ร่วมไปด้วยกัน เราจะผลักดันการขยายขอบเขต, เปิดรับความคล่องแคล่ว, และเพิ่มขยายห่วงโซ่อุปทานของชาติเรา" เขากล่าวครับ