วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568

สเปนสั่งจัดหาเครื่องบินลำเลียง C295 เพิ่มเติม 18เครื่อง

Spain orders 18 additional C295 transport aircraft





With a further 18 aircraft now on order, Spain will operate a fleet of 46 C295s in transport, maritime patrol, and surveillance configurations by the time deliveries are complete in 2032. (Airbus)

สเปนได้สั่งจัดหาเครื่องบินลำเลียง Airbus Defence and Space(DS) C295 จำนวน 18เครื่องภายใต้โครงการวิทยาการการฝึการเคลื่อนที่ทางอากาศ(Air Mobility Training Technologies, ITS-T) ของตน
บริษัท Airbus DS ยุโรปผู้ผลิตประกาศการจัดซื้อจัดจ้างเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2025 เน้นว่าเครื่องบินลำเลียง C295 ใหม่จะทดแทนฝูงเครื่องบินลำเลียง CN235 และเครื่องบินลำเลียง C212

ซึ่งถูกใช้ทำหน้าที่โดยตรงเพื่อการฝึกนักบินและพลร่ม(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/c295.html) ของกองทัพอากาศและอวกาศสเปน(Spanish Air and Space Force, EdAE: Ejército del Aire y del Espacio)
"คำสั่งซื้อนี้ยืนยันความมุ่งมั่นของสเปนอีกครั้งต่อเครื่องบินลำเลียง C295 เสริมความแข็งแกร่งยุทธศาสตร์เอกราชและอธิปไตยแห่งชาติขณะที่เสริมสร้างการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการบินและระบบนิเวศด้านอุตสาหกรรมทั้งหมดของสเปน"

"ด้วยสัญญานี้กองทัพอากาศและอวกาศสเปนจะปฏิบัติการด้วยฝูงบินของเครื่องบินลำเลียง C295 จำนวน 46เครื่องในรูปแบบเครื่องบินลำเลียง, เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล, และเครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล"
Jean-Brice Dumont หัวหน้าฝ่านกำลังทางอากาศของบริษัท Airbus DS กล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/c295-mpa-c295-msa-16.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/01/airbus-c295-mpa-2023.html)

ตามที่เน้นในการประกาศเพื่อให้ตรงกับความต้องการเฉพาะต่างๆของกองทัพอากาศและอวกาศสเปนข้อตกลงได้ถูกแบ่งเป็นสองระยะ(https://aagth1.blogspot.com/2025/10/c295-3.html)
เครื่องบินลำเลียง C295 ชุดแรกจะถูกมอบหมายหน้าที่เพื่อการฝึกและการลำเลียง ของผู้โดยสาร, พลร่ม, และสัมภาระของโรงเรียงการลำเลียงทางอากาศทหาร(Military Air Transport School) ณ ฐานทัพอากาศ Matacán ใน Salamanca

ภารกิจการฝึกและการลำเลียงของโรงเรียงการลำเลียงทางอากาศทหารกองทัพอากาศและอวกาศสเปนเหล่านี้ปัจจุบันได้รับการดำเนินการปฏิบัติโดยเครื่องบินลำเลียง CN235(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/ptdi-cn235-220-mpa.html)
เครื่องบินลำเลียง C295 เครื่องแรกของเครื่องบินชุดแรกเหล่านี้จะถูกส่งมอบในปี 2026 และเครื่องสุดท้ายในปี 2028(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/c295mw.html)

เครื่องบินลำเลียง C295 ชุดที่สองจะถูกใช้สำหรับการส่งอากาศพลร่มแบบโดดร่มกระตุกเอง(free fall) และโดดร่มสายตรึงประจำที่(static line) เช่นเดียวกับการทิ้งร่มสัมภาระทางอากาศ โดยการส่งมอบมีกำหนดระหว่างปี 2030-2032
ปัจจุบันภารกิจการส่งทางอากาศเหล่านี้ได้รับการดำเนินการปฏิบัติโดยโรงเรียนโดดร่มทหาร(Military Parachuting School) ณ ฐานทัพอากาศ Alcantarilla ใน Murcia โดยใช้งานเครื่องบินลำเลียง C212 ครับ

วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ฝรั่งเศสอนุมัติการเดินหน้าสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ยุคอนาคต PA-Ng

France gives go-ahead for PA-Ng aircraft carrier build







PA-Ng is planned to enter service in 2038 as a replacement for the CVN Charles de Gaulle . (Naval Group/Gilbert Gyssels)

รัฐบาลฝรั่งเศสได้ให้การอนุมัติความเห็นชอบสำหรับการสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์(CVN) ใหม่เพื่อทดแทนเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ R91 FS Charles de Gaulle ของกองทัพเรือฝรั่งเศส(French Navy, Marine nationale) ในปัจจุบัน
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron ประกาศการอนุมัติการเดินหน้าสำหรับโครงการเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ยุคอนาคต PA-Ng(Porte-Avions Nouvelle Génération) เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2025 ระหว่างการเดินทางเยือนฐานทัพฝรั่งเศสใน Abu Dhabi

"สอดคล้องกับกฎหมายโครงการทางทหาร(Military Programming Law) สองฉบับล่าสุด และหลังจากผ่านการพิจารณาทบทวนอย่างครอบคลุม ผมได้ตัดสินใจที่จะให้ฝรั่งเศสมีประจำการด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินใหม่ 
การตัดสินใจอนุมัติการเดินหน้าขั้นสุดท้ายได้มีขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว" ประธานาธิบดีฝรั่งเศส Macron กล่าว รัฐมนตรีกระทรวงกองทัพและทหารผ่านศึกฝรั่งเศส Catherine Vautrin ได้ยืนยันการตัดสินใจใน post ที่เผยแพร่ผ่านสื่อสังคม online ภายหลังในวันนั้น

การประเมินในปัจจุบันค่าใช้จ่ายของโครงการเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ยุคอนาคต PA-Ng อยู่ที่วงเงินราว 11 billion Euros($12.9 billion) โดยมีจุดประสงค์ที่จะทดแทนเรือบรรทุกเครื่องบิน Charles de Gaulle ในปี 2038 
โครงการเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ยุคอนาคต PA-Ng ได้เริ่มต้นขั้นระยะการออกแบบย้อนกลับไปได้ในเดือนธันวาคม 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/12/pang.html

สำนักงานจัดหากลาโหมฝรั่งเศส(DGA: Direction générale de l'armement) และผู้รับสัญญาหลักภาคอุตสาหกรรม MO Porte-Avions(กิจการค้าร่วมของบริษัท Naval Group ฝรั่งเศส และบริษัท Chantiers de l'Atlantique ฝรั่งเศส)
ได้ดำเนินกิจกรรมการออกแบบขั้นต้นและการออกแบบระบบตามมาเพื่อให้การออกแบบเรือและระบบมีความสมบูรณ์ก่อนหน้าการอนุมัติสำหรับการสร้างเรือ(https://aagth1.blogspot.com/2022/11/pa-ng.html)

บริษัท TechnicAtome ฝรั่งเศสได้รับผิดชอบแยกต่างหาก ภายใต้สัญญาต่อคณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณูฝรั่งเศส(CEA: Commissariat à l'énergie atomique) สำหรับการออกแบบและส่งมอบระบบขับเคลื่อนพลังงานนิวเคลียร์
ที่มีพื้นฐานจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แรงดันน้ำ(pressurised water reactor) แบบ K-22 จำนวน 2เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/pa-ng.html) เรือบรรทุกเครื่องบินยุคอนาคต PA-Ng คาดว่าจะมีความยาวเรือที่ 310m และระวางขับน้ำราว 78,000tonnes

เช่นเดียวกับเรือบรรทุกเครื่องบิน Charles de Gaulle เรือบรรทุกเครื่องบินยุคอนาคต PA-Ng คาดว่าจะวางกำลังด้วยเครื่องบินขับไล่ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน Dassault Rafale M(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/rafale-m-26.html),
เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล NHI NH90 Caïman, และเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน Northrop Grumman E-2D Advanced Hawkeye ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2022/01/e-2d-advanced-hawkeye.html)

วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568

สหรัฐฯประกาศการปล่อยเรือลงน้ำเรือฟริเกต MMSC ลำแรกของซาอุดีอาระเบีย HMS Saud

Launch of first Saudi MMSC announced





HMS Saud on the ship lift at Fincantieri Marinette Marine shipyard in Wisconsin. (Saudi Ministry of Defence, Skip Heckel)



เรือฟริเกตลำแรกจากจำนวน 4ลำที่ได้รับการสร้างสำหรับกองทัพเรือซาอุดีอาระเบีย(RSNF: Royal Saudi Naval Forces) ภายใต้โครงการ Tuwaiq ได้ถูกปล่อยเรือลงน้ำแล้ว กระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียประกาศเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025
กระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียได้เผยแพร่วีดิทัศน์แสดงถึงเรือฟริเกตลำแรก HMS Saud หมายเลขเรือ 820 ได้ถูกเปิดตัวออกจากโรงประกอบสร้าง ณ อู่เรือบริษัท Fincantieri Marinette Marine(FMM) สหรัฐฯ-อิตาลีในมลรัฐ Wisconsin

และเรือฟริเกต HMS Saud (820) ได้ถูกบรรทุกขึ้นวางบน lift ยกเรือโดยปราศจากการติดตั้งเสากระโดงเรือ แต่ไม่ได้ถูกนำเข้าสู่ผิวน้ำ วีดิทัศน์ได้แสดงถึงเรือฟริเกต Saud ได้รับการติดตั้งด้วยเสากระโดงเรือของตน
ในเวลาที่ผู้บัญชาการกองทัพเรือซาอุดีอาระเบีย พลเรือโท Mohammed Abdulrahman al-Gharibi ได้ถูกเชิญเข้าร่วมพิธีตั้งชื่อเรือและอำนวยพรของเรือ ณ อู่เรือ FMM เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2025

บริษัท Fincantieri Marine Group(FMG) สหรัฐฯ-อิตาลีได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2025 ว่าเรือฟริเกตในโครงการ Tuwaiq ที่ตนเรียกว่าแบบเรือรบผิวน้ำพหุภารกิจ(MMSC: Multi-Mission Surface Combatant)
เรือลำแรกรหัส MMSC-1 ได้ถูกนำออกจากโรงประกอบสร้างสองวันก่อนหน้า สำนักงานโครงการนานาชาติกองทัพเรือ(NIPO: Navy International Programs Office) กองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) เผยแพร่ชุดภาพถ่ายเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2025

แสดงถึงเรือฟริเกต HMS Saud MMSC-1 อยู่บน lift ยกเรือโดยได้รับการติดตั้งเสากระโดงเรือแล้ว สำนักงานโครงการนานาชาติกองทัพเรือสหรัฐฯ NIPO ได้ประกาศตามมาเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2025 ว่า
พิธีปล่อยเรือลงน้ำได้ถูกจัดขึ้นสำหรับเรือฟริเกต Saud MMSC-1 ชุดภาพถ่ายที่บันทึกได้จากช่างภาพเรือในพื้นที่ภายหลังได้แสดงให้เห็นว่าเรือฟริเกต Saud ถูก lift ยกเรือนำเรือลงสู่ผิวน้ำจริงเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2025

เหตุการณ์เหล่านี้มีขึ้นเกือบ 6ปีให้หลังจากที่พิธีตัดเหล็กสำหรับเรือฟริเกตลำแรก MMSC-1 ได้ถูกประกาศในเดือนพฤศจิกายน 2019 แบบเรือรบผิวน้ำพหุภารกิจ MMSC ของบริษัท FMM และบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ
มีพื้นฐานจากเรือโจมตีชายฝั่ง(LCS: Littoral Combat Ship) ชั้น Freedom ของกองทัพเรือสหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/lcs-freedom-lcs-1-uss-freedom.html) ซึ่งซาอุดีอาระเบียได้ลงนามจัดหาในเดือนพฤษภาคม 2017

โดยเรือฟริเกตชั้น Saud จำนวน 4ลำสำหรับซาอุดีอาระเบียได้รับการเพิ่มขยายระยะปฏิบัติการที่ 5,000nmi และได้รับการติดตั้งเพิ่มเติมด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ Boeing RGM-84L Harpoon Block II สี่ท่อยิงสองแท่นยิง 8นัด
และแท่นยิงแนวดิ่ง Lockheed Martin Mk 41 VLS(Vertical Launch System) 16-cell สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ Raytheon RIM-162 ESSM(Evolved SeaSparrow Missile) ในชุดบรรจุสี่นัดต่อหนึ่งท่อยิงได้ถึง 64นัด

ยังรวมถึงระบบป้องกันระยะประชิด(CIWS: Close-In Weapon System) แท่นยิง SeaRAM สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ RIM-116 RAM(Rolling Airframe Missile) จำนวน 11นัด, ปืนเรือ Leonardo 76mm และปืนกล remote แบบ Nexter Narwhal 20 ขนาด 20mm สองแท่นยิง 
ในปี 2023 กองทัพเรือซาอุดีอาระเบียได้เลือกอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ MBDA CAMM(Common Anti-air Modular Missile) แทน ESSM สำหรับเรือฟริเกต MMSC ของตนครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/saab-visby-sea-ceptor.html)

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568

อินโดนีเซียรับมอบเรือฟริเกตชั้น Brawijaya ลำที่สอง KRI Prabu Siliwangi

Indonesia receives second Brawijaya-class vessel





Indonesiaʼs second Brawijaya-class frigate, Prabu Siliwangi , seen here at its sea trials. (Fincantieri)



บริษัท Fincantieri อิตาลีได้ส่งมอบเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งอเนกประสงค์ PPA(Pattugliatore Polivalente d'Altura)/MPCS(Multipurpose Combat Ship) ลำที่สองที่สร้างในอิตาลี
แก่กองทัพเรืออินโดนีเซีย(Indonesian Navy, TNI-AL: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Laut) เรือฟริเกตชั้น Brawijaya ลำที่สอง เรือฟริเกต KRI Prabu Siliwangi หมายเลขเรือ 321

เรือฟริเกต KRI Prabu Siliwangi (321) ได้ถูกส่งมอบระหว่างพิธีที่มีขึ้น ณ อู่เรือ Muggiano ใน La Spezia อิตาลีเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2025 บริษัท Fincantieri กล่าวในแถลงการณ์ในวันเดียวกัน
การส่งมอบเรือฟริเกต KRI Prabu Siliwangi มีขึ้นตามการส่งมอบเรือพี่สาว เรือฟริเกตชั้น Brawijaya ลำแรก เรือฟริเกต KRI Brawijaya หมายเลขเรือ 320 ซึ่งมีพิธีขึ้นระวางประจำการในเดือนกรกฎาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/07/ppa-kri-brawijaya.html)

และเรือฟริเกต KRI Brawijaya (320) ได้รับการต้อนรับอย่างเป็นทางการในการเดินทางมาถึงฐานทัพเรือ Tanjung Priok ของกองทัพเรืออินโดนีเซียใน North Jakarta ในเดือนกันยายน 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/09/brawijaya-kri-brawijaya.html)
KRI Prabu Siliwangi เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งอเนกประสงค์ PPA ลำที่สองจาก 2ลำที่ได้ถูกจัดหาภายใต้สัญญาวงเงิน 1.18 billion Euros($1.39 billion) ที่ได้รับการประกาศให้กับ Fincantieri อิตาลีในเดือนมีนาคม 2024

ที่เดิมถูกกำหนดสำหรับกองทัพเรืออิตาลี(Italian Navy, Marina Militare) ที่ควรจะเข้าประจำการในชื่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P435 ITS Ruggiero di Lauria(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/ppa.html)
เรือพี่สาว KRI Brawijaya ก่อนหน้าเดิมถูกกำหนดที่จะเข้าประจำการในกองทัพเรืออิตาลีในชื่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P433 ITS Marcantonio Colonna(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/ppa-2025.html

เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งอเนกประสงค์ PPA มีความยาวเรือที่ 143m และสามารถรองรับกำลังพลประจำเรือได้ 171นาย เรือแต่ละลำติดตั้งระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ดีเซลและเครื่องยนต์ gas turbine ในรูปแบบ CODAG(Combined Diesel and Gas Turbine) 
เสริมด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทำให้สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ราว 32knots ชุดภาพของเรือฟริเกต KRI Prabu Siliwangi ที่เผยแพร่โดย Fincantieri อิตาลียืนยันว่าเรือมีการติดตั้งอาวุธต่างๆเช่นเดียวกับเรือพี่สาวเรือฟริเกต KRI Brawijaya

โดยระบบอาวุธต่างๆของเรือฟริเกตชั้น Brawijaya รวมถึงปืนเรือหลักขนาด 127mm, ปืนเรือ 76 mm/62 Super Rapid Strales/Sovraponte และปืนกลขนาด 25mm สองแท่นยิง
เรือฟริเกต KRI Prabu Siliwangi คาดว่าจะได้รับการทำพิธีขึ้นระวางประจำการอย่างเป็นทางการในอินโดนีเซียในปี 2026 และจะเป็นเรือรบผิวน้ำหนึ่งในสองลำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประจำการกองทัพเรืออินโดนีเซียปัจจุบันครับ

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Trump ให้รายละเอียดการสร้างเรือประจัญบานแบบใหม่ที่ลำแรกจะชื่อ BBG-1 USS Defiant

Trump details plans for new US Navy ‘battleships'



An artist's impression of the lead ship of the Trump class guided-missile battleships, the Defiant (BBG 1). (US Navy)




DDG 1000s, like the USS Zumwalt, USS Michael Monsoor and USS Lyndon B. Johnson, shown here, featured large naval guns, but the US Navy opted to buy more traditional guided-missile destroyers instead. (US Navy)



ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump กล่าวว่าเขาได้อนุมัติแผนสำหรับกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) "ที่จะเริ่มต้นการสร้างเรือแบบใหม่หมด, ขนาดใหญ่มาก, ใหญ่ที่สุดที่เราเคยสร้าง, เรือประจัญบาน" ระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2025
กองทัพเรือสหรัฐฯได้เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2022 กล่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ Trump, รัฐมนตรีกระทรวงการสงครามสหรัฐฯ Pete Hegseth, และรัฐมนตรีทบวงกองทัพเรือสหรัฐฯ John Phelan ได้ยืนยัน "ความตั้งใจของพวกตนที่จะสร้าง" เรือรบแบบใหม่

ภายใต้ภายใต้กฎหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯและธรรมเนียมปฏิบัติ กระบวนการการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(ปัจจุบันคือกระทรวงการสงครามสหรัฐฯ) เช่น การจัดหาและการจัดสรรงบประมาณที่เกี่ยวข้อง, 
การพัฒนา, และการสร้าง จะต้องได้รับความเห็นชอบโดยสมาชิกสภา Congress สหรัฐฯในฐานะผู้ออกกฎหมาย ผู้ซึ่งตามกฎหมายมีหน้าที่รับผิดชอบสำหรับประเด็นทางด้านงบประมาณของภาครัฐต่างๆดังกล่าว

เรือประจัญบานติดอาวุธปล่อยนำวิถีแบบใหม่จะเป็นส่วนหนึ่งของ "เรือประจัญบานชั้น Trump" ที่จะรวมการจัดหาเรือระยะแรกจำนวน 10ลำ แต่จะทยอยรวมการขยายกองเรือรบที่จำนวนระหว่าง 20-25ลำ Trump กล่าว ซึ่งเรือประจัญบานจำนวน 2ลำแรกจะพร้อมภายใน 2ปี 6เดือน 
เรือประจัญบานติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Trump แต่ละลำจะมีระวางขับน้ำที่มากกว่า 27,216tonnes ถึง 36,287tonnes และจะทอดสมอยึดตรึงในสิ่งที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Trump เรียกว่า "กองเรือทองคำ"(Golden Fleet) ใหม่ของสหรัฐฯ

เรือประจัญบานชั้น Trump ลำแรกจะมีชื่อว่า เรือประจัญบาน BBG-1 USS Defiant กองทัพเรือสหรัฐฯกล่าวในสื่อประชาสัมพันธ์ เรือประจัญบานชั้น Trump จะมี "ขนาดใหญ่เป็นสามเท่าของเรือพิฆาตชั้น Arleigh Burke" กองทัพเรือสหรัฐฯเสริม
ด้วยการตั้งโครงการเรือประจัญบานชั้น Trump กองทัพเรือสหรัฐฯได้ละทิ้งโครงการเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถี DDG(X) แบบใหม่ของตน เจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯกล่าวกับ Janes เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2025

โครงการเรือพิฆาต DDG(X) เคยตั้งเป้าที่จะพัฒนาเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีแบบใหม่ที่จะทดแทนเรือลาดตระเวนชั้น Ticonderoga และเรือพิฆาตชั้น Arleigh Burke ของกองทัพเรือสหรัฐฯ
ตามข้อมูลจาก Janes World Navies กองทัพเรือสหรัฐฯเคยมีประจำการด้วยเรือลาดตระเวนชั้น Ticonderoga Flight II จำนวน 22ลำที่เข้าประจำการในช่วงปี 1986-1992 และกำลังจะทยอยถูกปลดประจำการลงจนหมดในอนาคต

และเรือพิฆาตชั้น Arleigh Burke Flight I/Flight II จำนวน 28ลำ ซึ่งเข้าประจำการในช่วงปี 1991-1999 โดยเรือพิฆาตชั้น Arleigh Burke ลำแรกเรือพิฆาต DDG-51 USS Arleigh Burke มีอายุการใช้งานมาแล้วกว่า 34ปี
เรือรบผิวน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือสหรัฐฯขณะนี้คือเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Zumwalt ขนาดระวางขับน้ำ 15,997 tonnes(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/zumwalt-hypersonic.html)

เรือพิฆาตชั้น Zumwalt มีการสั่งสร้างจริงเพียง 3ลำเท่านั้นคือเรือพิฆาต DDG-1000 USS Zumwalt, เรือพิฆาต DDG-1001 USS Michael Monsoor ที่เข้าประการในปี 2016 และปี 2019 ตามลำดับ และเรือพิฆาต USS Lyndon B. Johnson ที่มีกำหนดจะเข้าประจำการในปี 2027
เรือพิฆาตชั้น Zumwalt มีคุณลักษณะติดปืนเรือขนาดใหญ่ Advanced Gun System ขนาด 155mm แต่กองทัพเรือสหรัฐฯยกเลิกแผนการจัดหาเพิ่มเติมเปลี่ยนไปจัดหาเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีตามแบบเช่นเรือพิฆาตชั้น Arleigh Burke Flight III เพิ่มแทนครับ

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ญี่ปุ่นทำพิธีปล่อยเรือฟริเกตชั้น Mogami ลำที่สิบสองและลำสุดท้ายลงน้ำ FFM-12 Yoshii

Japan launches final Mogami-class frigate







Japan's final Mogami-class frigate, seen here at its launch ceremony on 22 December 2025. (JMSDF)



บริษัท Mitsubishi Heavy Industries(MHI) ญี่ปุ่นได้ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำของเรือฟริเกตติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Mogami ลำที่สิบสอง เรือฟริเกต FFM-12 JS Yoshii ที่ได้รับการสั่งจัดหาสำหรับกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น(JMSDF: Japan Maritime Self-Defense Force)
เรือฟริเกต FFM-12 JS Yoshii ได้ลอยลำเข้าสู่ผิวน้ำในระหว่างพิธีปล่อยเรือลงน้ำเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2025 ณ อู่เรือ Nagasaki ของบริษัท MHI ญี่ปุ่น ตามการประกาศโดยกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นในวันเดียวกัน

เรือฟริเกต FFM-12 Yoshii เป็นเรือฟริเกตชั้น Mogami ลำสุดท้ายจากทั้งหมด 12ลำที่ได้รับการสั่งจัดหาภายใต้โครงการเพื่อทดแทนเรือพิฆาตคุ้มกันชั้น Abukuma(หรือเรือฟริเกตชั้น Abukuma) จำนวน 6ลำที่มีอายุการใช้งานมานานของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น
คือเรือพิฆาตคุ้มกัน DE-229 JS Abukuma, เรือพิฆาตคุ้มกัน DE-230 JS Jintsuu, เรือพิฆาตคุ้มกัน DE-231 JS Ooyodo, เรือพิฆาตคุ้มกัน DE-232 JS Sendai, เรือพิฆาตคุ้มกัน DE-233 JS Chikuma และเรือพิฆาตคุ้มกัน DE-234 JS Tone ซึ่งเข้าประจำการตั้งแต่ปี 1989-1993

เรือฟริเกตชั้น Mogami ลำแรก เรือฟริเกต FFM-1 JS Mogami ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนมีนาคม 2021(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/ffm-1-mogami.html) และขึ้นระวางประจำการในเดือนเมษายน 2022, 
เรือลำที่สอง เรือฟริเกต FFM-2 JS Kumano ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนพฤศจิกายน 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/11/ffm-2-kumano.html) และขึ้นระวางประจำการในเดือนมีนาคม 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/mogami-ffm-2-kumano.html),

เรือลำที่สาม เรือฟริเกต FFM-3 JS Noshiro ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนมิถุนายน 2021(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/mogami-ffm-3-noshiro.html) และขึ้นระวางประจำการในเดือนธันวาคม 2022, เรือลำที่สี่ เรือฟริเกต FFM-4 JS Mikuma ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนธันวาคม 2021(https://aagth1.blogspot.com/2021/12/mogami-ffm-4-mikuma.html) และขึ้นระวางประจำการในเดือนมีนาคม 2023,
เรือลำที่ห้า เรือฟริเกต FFM-5 JS Yahagi ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนมิถุนายน 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/06/mogami-ffm-5-yahagi.html) และขึ้นระวางประจำการในเดือนพฤษภาคม 2024, เรือลำที่หก เรือฟริเกต FFM-6 JS Agano ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนธันวาคม 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/12/mogami-ffm-6-agano.html) และขึ้นระวางประจำการในเดือนมิถุนายน 2024  

เรือลำที่เจ็ด เรือฟริเกต FFM-7 JS Niyodo ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนกันยายน 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/mogami-ffm-7-niyodo.html) และขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/mogami-ffm-7-niyodo.html), เรือลำที่แปด เรือฟริเกต FFM-8 JS Yubetsu ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนพฤศจิกายน 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/11/mogami-ffm-8-yubetsu.html) และขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2025,
เรือลำที่เก้า เรือฟริเกต FFM-9 JS Natori ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนมิถุนายน 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/mogami-ffm-9-natori.html), เรือลำที่สิบ เรือฟริเกต FFM-10 JS Nagara ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนธันวาคม 2024 และเรือลำที่สิบเอ็ด เรือฟริเกต FFM-11 JS Tatsuta มีพิธีปล่อยเรือลงน้ำเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2025

เรือฟริเกตชั้น Mogami มีระวางขับน้ำปกติที่ประมาณ 4,000tonnes มีความยาวเรือรวมที่ 132m และมีความกว้างที่ 16m ระบบขับเคลื่อนติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล MAN 12V28/33D STC สองเครื่อง และเครื่องยนต์ gas turbine แบบ Rolls-Royce MT30 ทำให้สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 30knots
เรือฟริเกตชั้น Mogami แต่ละลำมีกำลังพลประจำเรือที่ราว 90นาย ระบบอาวุธของเรือรวมถึง ปืนเรือ BAE Systems 127mm แท่นยิงแนวดิ่ง Lockheed Martin Mk 41 VLS(Vertical Launch System) 16-cell สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศพิสัยกลาง Type 03, และอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ Type 17 สี่ท่อยิงสองแท่นยิง 8นัด

สำหรับระบบป้องกันระยะประชิด(CIWS: Close-In Weapon System) เรือฟริเกตชั้น Mogami ติดตั้งระบบแท่นยิง Raytheon SeaRAM ซึ่งบรรจุด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ RIM-116C RAM(Rolling Airframe Missile) จำนวน 11นัด
ขีดความสามารถสงครามปราบเรือดำน้ำ(ASW: Anti-Submarine Warfare) ประกอบด้วยแท่นยิง torpedo เบาขนาด 324mm สองท่อยิงสองแท่นยิงสำหรับtorpedo เบาปราบเรือดำน้ำแบบ Type 12 จำนวน 6นัด, sonar ลากท้าย VDS(Variable Depth Sonar) แบบ NEC OQQ-25 

และลานจอดและโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ท้ายเรือเพื่อรองรับการปฏิบัติการของเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำเช่นเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล Mitsubishi Heavy Industries/Sikorsky SH-60L(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/sh-60l.html)
เรือฟริเกต FFM-12 JS Yoshii คาดว่าจะขึ้นระวางประจำการในกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นภายในปี 2027 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/11/mogami.html, https://aagth1.blogspot.com/2025/08/mogami.html)

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568

โปรตุเกสนำเครื่องบินโจมตีเบาใบพัด A-29N Super Tucano บราซิลชุดแรก 5เครื่องจาก 12เครื่องเข้าประจำการภายในหนึ่งปีหลังลงนามสัญญา

Portugal inducts initial Super Tucano aircraft one year after contract signature







Portugal is the launch customer for the A-29N Super Tucano variant designed to meet NATO requirements. The first five of 12 aircraft were delivered to the Portuguese Air Force on 17 December 2025. (Portuguese Air Force/Embraer)



กองทัพอากาศโปรตุเกส(Portuguese Air Force, FAP: Força Aérea Portuguesa) ได้เสริมสร้างขีดความสามารถการฝึกและการรบของตนด้วยการนำเข้าประจำการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2025
ของเครื่องบินพหุภารกิจน้ำหนักเบาเครื่องยนต์ใบพัด Embraer A-29N Super Tucano ชุดแรกจำนวน 5เครื่องจากทั้งหมด 12เครื่องจากบริษัท Embraer Defense & Security บราซิล ภายในหนึ่งปีหลังลงนามสัญญาจัดหา

ในอีกหลายวันข้างหน้าที่่จะถึงฝูงเครื่องบินโจมตีเบาและฝึก A-29N Super Tucano จะทำการบินไปยังฐานทัพอากาศ No 11 ใน Beja สำหรับการส่งมอบอย่างเป็นทางการให้แก่ฝูงบิน 101(Squadron 101) 'Roncos' กองทัพอากาศโปรตุเกสกล่าว
ระหว่างการส่งมอบกระทรวงกลาโหมโปรตุเกสและบริษัท Embraer ได้ลงนามจดหมายแสดงความจำนง(LOI: Letter of Intent) ที่เกี่ยวข้องกับสายการประกอบเครื่องบินโจมตีเบาและฝึก A-29N ใน Beja โปรตุเกส

เพื่อให้ตรงต่อความต้องการในอนาคตของโปรตุเกสและอุปสงค์ที่เป็นไปได้จากชาติยุโรปอื่นๆผ่านการเจรจาระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/29n-super-tucano-12-2025.html)
โปรตุเกสสั่งจัดซื้อเครื่องบินโจมตีเบาและฝึก A-29N Super Tucano และเครื่องจำลองการบิน flight simulator และการสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/29n-super-tucano-12.html)

ในข้อตกลงมูลค่าวงเงินราว206 million Euros($242 million) ในฐานะส่วนหนึ่งของแผนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกำลังทางอากาศแห่งชาติ 2024-2030(Transformation of National Aerospace Power 2024-2030) ที่รู้จักในชื่อ 'Força Aérea 5.3'
การส่งมอบมีกำหนดจะเสร็จสิ้นภายในปี 2027 บริษัท Embraer กล่าวกับ Janes ก่อนหน้า เครื่องบินโจมตีเบาและฝึก A-29N ได้ทำการบินเดินทางจากโรงงานอากาศยาน Gavião Peixoto ของ Embraer บราซิลเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2025

มายังสถานที่ของบริษัท OGMA โปรตุเกสบริษัทย่อยเครือบริษัท Embraer ใน Alverca do Ribatejo, นครหลวง Lisbon โปรตุเกส เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/09/29n-super-tucano-12.html)
กองทัพอากาศโปรตุเกสมีจุดประสงค์ที่จะใช้เครื่องบินโจมตีเบาและฝึกใบพัด A-29 เพื่อเติมเต็มภารกิจการสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิดสำหับการปฏิบัติการผสมในสสถานการณ์ภัยคุกคามต่ำในแอฟริกา เช่นเดียวกับสำหรับการฝึก

เครื่องบินโจมตีเบาใบพัด A-29N Super Tucano ได้รวมการปรับปรุงระยะและเวลาการปฏิบัติการ เช่นเดียวกับระบบตรวจการณ์ electro-optical, การมอบขีดความสามารถการใช้กระเปาะจรวดอากาศสู่พื้น และอาวุธความแม่นยำสูง,
ปืนกลอากาศ M3P ขนาด 12.7x99 mm สองกระบอกถูกติดตั้งเป็นมาตรฐานในตัวเครื่อง และชุดระบบป้องกันตนเอง อุปกรณ์สื่อสารต่างๆและระบบนำร่องมาตรฐาน NATO ที่จะได้รับการติดตั้งอย่างเช่น

วิทยุความถี่ VHF/UHF(Very-High-Frequency/Ultra-High-Frequency), ระบบสื่อสารดาวเทียม(SATCOM: Satellite Communication), ระบบช่วยการสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด digital(DACAS: Digitally Aided Close Air Support), ระบบข้อความทางยุทธวิธี VMF(Variable Message Format),
เครือข่าย Link 16 datalink, ระบบ video downlink ที่เข้ากันได้กับวิทยาการตัวรับวีดิทัศน์ควบคุมระยะไกล ROVER(Remote Operated Video Enhanced Receiver), อุปกรณ์ส่งสัญญาณระบบพิสูจน์ฝ่าย(IFF: Identification Friend-or-Foe) Mod 5 และระบบดาวเทียม GPS ทางทหารครับ