วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2568

เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache ออสเตรเลียเครื่องแรกจาก 29เครื่องเข้าสู่การประกอบขั้นสุดท้ายแล้ว

Avalon 2025: First Australian Army AH-64E enters final assembly







A US Army Boeing AH-64E Apache helicopter arrives at the Avalon 2025 international airshow on 25 March. Australian Army AH-64E v6 helicopters on contract are nearly identical to US Army AH-64Es, BDA has previously said. (LAC Campbell Latch/Commonwealth of Australia, Boeing)

เฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64E Apache v6 เครื่องแรกจาก 29 ที่อยู่ในสัญญาจัดหาสำหรับกองทัพบกออสเตรเลีย(Australian Army) ได้เข้าสู่การประกอบขั้นสุดท้ายแล้ว บริษัท Boeing สหรัฐฯประกาศ
กำหนดรหัสเป็น AT001 เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache เครื่องแรก "จะได้รับการดำเนินการติดตั้งโครงสร้าง, การเดินสายไฟฟ้า, การประกอบย่อยหลัก และทางกลไกในการประกอบขั้นสุดท้ายก่อนเข้าสู่การบินทดสอบในกลางปี 2025"

บริษัท Boeing กล่าว ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Avalon 2025 ระหว่างวันที่ 25-30 มีนาคม 2025 จากการพูดคุยในงาน พลจัตวา Steven Cleggett ผู้อำนวยการทั่วไปของระบบการบินกองทัพบกออสเตรเลีย(Army Aviation Systems)
ได้เน้นย้ำอีกครั้งว่า เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache v6 จำนวน 4เครื่องจะถูกส่งมอบแก่ออสเตรเลียในปี 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/ah-64e-apache-2025.html)

"เราจะทยอยรับมอบเฮลิคอปเตอร์ที่จะมาถึงเรื่อยๆตลอดไปจนถึงปี 2028 เมื่อเราจะมีเฮลิคอปเตอร์(เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache v6) จำนวน 29เครื่อง" พลจัตวา Cleggett กล่าว
ตามข้อมูลจาก พลจัตวา Andy Thomas รองผู้บัญชาการกองบัญชาการการบินกองทัพบกออสเตรเลีย(Australian Army Aviation Command) กองทัพบกออสเตรเลียจะทำการบินเฮลิคอปเตอร์โจมตี Apache โดยเร็วหลังเครื่องมาถึงในสิ้นปี 2025

"เราคาดว่าเราจะบรรลุความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) ภายในปี 2028" พลจัตวา Thomas กล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/1-ah-64e-apache.html)
เขายืนยันว่าออสเตรเลียจะจัดหาชุด module ระบบทีมมีคนบังคับ-ไร้คนขับ-เพิ่มขยาย(MUMT-X: Manned-Unmanned Teaming-Extended) ที่วางบนยอดแกนใบพัดประธานของเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E

ที่จะทำให้กองทัพบกออสเตรเลียจะบูรณาการการยิงตัวทำลาย(LE: Launched Effect) ทางอากาศเข้ากับเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache ของตนได้(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/ka-52-mi-28.html)
"เราคาดที่จะพัฒนาขีดความสามารถ(MUMT-X) นั้นตามที่เรานำมันเข้าสู่ประจำการที่กำลังจะไปเป็นส่วนสำคัญของยุทธวิธี, เทคนิค และขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆของเรา" พลจัตวา Thomas กล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/ah-64e-apache-184.html)

อย่างไรก็ตาม พลจัตวา Thomas ไม่ได้ระบุว่าระบบอากาศยานไร้คนขับ(UAS: Unmanned Aircraft System) แบบใดที่จะถูกบูรณาการกับเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache v6 ต่อไปภายหน้า(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/ah-64e-apache.html)
เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache v6 ใหม่ 29เครื่องจะทดแทนเฮลิคอปเตอร์โจมตี Airbus Helicopters Tiger ARH ของกองทัพบกออสเตรเลียที่มีแผนจะปลดประจำการในปี 2028 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/ah-64e-apache-tiger-arh.html)

วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2568

BAE Systems อังกฤษทำพิธีวางกระดูกงูเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธชั้น Dreadnought ลำแรก HMS Dreadnought

BAE Systems lays keel for first UK Dreadnought SSBN





A keel-laying ceremony for first-of-class Dreadnought was held at BAE Systems Submarines yard in Barrow-in-Furness on 19 March. (BAE Systems)



บริษัท BAE Systems Submarines สหราชอาณาจักรได้พิธีวางกระดูกงูเรือของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธ(SSBN) ชั้น Dreadnought ใหม่ลำแรกของกองทัพเรือสหราชอาณาจักร(RN: Royal Navy)
เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธ HMS Dreadnought เป็นเครื่องหมายถึงเหตุการณ์สำคัญในโครงการเพื่อดำรงการป้องปรามทางทะเลอย่างต่อเนื่อง(CASD: Continuous At-Sea Deterrent) ของสหราชอาณาจักร

พิธีวางกระดูกงูเรือเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธ HMS Dreadnought ที่ได้เชิญนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร Sir Keir Starmer และรัฐมนตรีกลาโหมสหราชอาณาจักร John Healey เข้าร่วม
ได้ถูกจัดขึ้น ณ อู่เรือของบริษัท BAE Systems Submarines ใน Barrow-in-Furness, Cumbria แคว้น England เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา(https://aagth1.blogspot.com/2021/09/ssnr.html)

ภายใต้โครงการเรือดำน้ำเพื่อการป้องปราม Dreadnought บริษัท BAE Systems Submarines กำลังสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธชั้น Dreadnought SSBN จำนวน 4ลำสำหรับกองทัพเรือสหราชอาณาจักร
การสร้างเรือดำน้ำลำแรกของชั้นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธ HMS Dreadnought ได้อยู่ภายใต้การดำเนินการดำเนินการตั้งแต่ปี 2016(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/bae-systems-asc-aukus.html)

และพิธีวางกระดูกงูเรือได้มีขึ้นตามมาตามที่บริษัท BAE Systems เตรียมการที่จะเคลื่อนย้ายหน่วยหลักสุดท้ายเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธ HMS Dreadnought เข้าสู่โรงประกอบเรือ Devonshire Dock Hall  สำหรับการบูรณาการขั้นสุดท้าย
ขณะเดียวกันกิจกรรมต่างสำหรับการสร้างเรือดำน้ำชั้น Dreadnought SSBN ลำที่สองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธ HMS Valiant และลำที่สามเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธ HMS Warspite ตามลำดับขณะนี้กำลังอยู่ในการดำเนินการด้วยดี

เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธ HMS Valiant ได้ถูกเริ่มต้นดำเนินการสร้างในเดือนกันยายน 2019 และพิธีตัดเหล็กสำหรับเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธ HMS Warspite ได้ถูกจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2023
ในเดือนพฤษภาคม 2022 โครงการเรือดำน้ำชั้น Dreadnought SSBN ได้ย้ายเข้าสู่ขั้นระยะส่งมอบ3(DP3: Delivery Phase 3) ซึ่งจะได้เห็นเรือดำน้ำ HMS Dreadnought ออกจากอู่เรือ Barrow-in-Furness เพื่อเริ่มต้นการทดลองเรือในทะเล

และยังจะทำให้สามารถเรียนรู้จากขั้นระยะนี้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างและทดสอบเรือดำน้ำชั้น Dreadnought SSBN ลำต่อไป ขั้นระยะส่งมอบ DP1 และ DP2 ครอบคลุมการออกแบบและการสร้างขั้นต้นของเรือดำน้ำและระบบต่างๆที่ถูกบูรณาการเข้ากับเรือ
เรือดำน้ำชั้น Dreadnought SSBN มีวัตถุประสงค์ที่จะทดแทนเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธชั้น Vanguard SSBN จำนวน 4ลำที่เข้าประจำการในกองทัพเรือสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 1993-1999 ภายในต้นปี 2030s ครับ

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2568

กองทัพบกไทย-สหรัฐฯเสร็จสิ้นการฝึกผสม Hanuman Guardian 2025








Royal Thai Army (RTA) and US Army conducted Combined Arms Live-Fire Exercise (CALFEX) and held closing ceremony for the exercise Hanuman Guardian 2025 (HG25) RTA tactical training center in Baan Deelang, Phatthana Nikhom District in Lopburi Province, Thailand on 21 March 2024. 
14th Hanuman Guardian exercise was conducted from 10-21 March 2025 in the Kingdom of Thailand. HG25, an annual, bilateral mil-to-mil training coordinated by the U.S. Army Pacific Command (USARPAC) and the Royal Thai Army to display a commitment to enhancing capacity and interoperability.
The joint training between U.S. Army soldiers and the Royal Thai Army during HG25 demonstrates the enduring partnership between the two nations and emphasizes the importance of military interoperability. (Royal Thai Army)

CLOSING CEREMONY HANUMAN GUARDIAN 2025
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 68 พล.อ.ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก พร้อมกับ พล.ท. โจเอล เจบี. วาวเวลล์ (LT GEN Joel JB. Vowell) รอง ผบ.กกล.ทบ.สหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก (USARPAC) ร่วมตรวจเยี่ยมการฝึกการดำเนินกลยุทธ์ผสมเหล่าด้วยกระสุนจริง (Combined Arms Live Fire Exercise : CALFEX) ในระดับกองพัน 
ตามแผนการปฏิบัติที่ได้จากการวางแผนของฝ่ายอำนวยการร่วมโดยใช้การแสวงข้อตกลงใจทางทหาร 7ขั้นตอน (MDMP 7 Steps) อีกทั้งได้เยี่ยมชมการสาธิตการใช้งานระบบบริหารจัดการสนามรบ (Battle Management System : BMS) ที่จะทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วม (Interoperability) ของ ทบ. ในอนาคต 
จากนั้นได้เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการฝึกผสม รหัสหนุมานการ์เดียน ประจำปี 2568 (HG-25) ซึ่งเป็นการฝึกผสมระดับทวิภาคีประจำปีระหว่าง ทบ. และทบ. สหรัฐฯ
สำหรับการฝึกผสม Hanuman Guardian 2025 ในปีนี้ จัดขึ้นในระหว่าง 10 - 21 มี.ค. 68 ณ พื้นที่ฝึก จ.ลพบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางทหารและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ นำไปสู่ความต่อเนื่องในการฝึกและความร่วมมือด้านอื่นๆ เพื่อให้กองทัพมีความพร้อมในการรับมือภัยคุกคามในภูมิภาคอินโดแปซิฟิคทุกรูปแบบ 

พิธีเปิดการฝึก Hanuman guardian 2025 ในส่วนของหน่วยทหาราบยานเกราะ ระหว่าง ทบ.ไทย โดยกรมทหารราบที่ 112 กองพลทหารราบที่ 11 และกองพลน้อยยานเกราะที่ 2-4 ทบ.สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยจะทำการฝึกในเรื่องต่างๆ ได้แก่ 
การฝึกแก้ปัญหาที่บังคับการ การปฏิบัติทางยุทธวิธีของหน่วยทหารราบยานเกราะ การดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง การฝึกใช้งานอาวุธประจำยานเกราะ Stryker ไปจนถึงการฝึกเข้าสถานการณ์ของกรมผสมและการดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงผสมเหล่า

กองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army) และกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) ได้เส็จสิ้นการฝึกร่วมผสมรหัส HANUMAN GUARDIAN 2025 เป็นการฝึกครั้งที่๑๔ ในระดับทวิภาคีของทั้งสองชาติ ที่มีการจัดขึ้นในพื้นที่การฝึกของกองทัพบกไทยในจังหวัดลพบุรี ประเทศไทย เป็นส่วนใหญ่ ระหว่างวันที่ ๑๐-๒๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) โดยพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ 
และพิธีปิดเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ณ ศูนย์ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก บ้านดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี โดยกองทัพบกไทยจัดกำลังพลรวม ๘๓๑ จากเจ็ดหน่วย และอากาศยาน ๘เครื่องทำการฝึกกับ กองพลน้อยชุดรบ Stryker ที่๔(4th SBCT: 4th Stryker Brigade Combat Team) กองพลทหารราบที่๒(2nd Infantry Division) กองทัพบกแปซิฟิกสหรัฐฯ(USARPAC: US Army Pacific)

กำลังรบของฝ่ายไทยที่เข้าร่วมการฝึกดำเนินกลุยทธ์ด้วยกระสุนจริง(CALFEX: Combined Arms Live Fire Exercise) ในพิธีปิดการฝึกผสม HANUMAN GUARDIAN 2025 ในส่วนกองทัพบกไทยรวมถึง ยานเกราะล้อยาง Stryker RTA ICV 8x8 และเครื่องยิงลูกระเบิดอัตตาจรล้อยาง M361 ATMM กรมทหารราบที่๑๑๒(112th Infantry Regiment) กองพลทหารราบที่๑๑(11th Infantry)
ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งแบบลากจูงขนาด 105mm แบบที่๑ LG1 Mk III กองพันทหารปืนใหญ่ที่๑๑(11th Artillery Battalion), กรมทหารปืนใหญ่ที่๑ รักษาพระองค์, กองพลที่๑ รักษาพระองค์(1st Artillery Regiment, 1st Division Royal Guard), หน่วยรบพิเศษจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ(SWCOM: Special Warfare Command)

และเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ฮ.ท.๖๐ Sikorsky UH-60M Black Hawk กองพันบินที่๙(9th Aviation Battalion), กรมบิน(Aviation Regiment) ศูนย์การบินทหารบก ศบบ.(AAC: Army Aviation Center) ร่วมไปกับกำลังจากกองทัพบกสหรัฐฯ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป UH-60M และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64E Apache หน่วยบินเฉพาะกิจ Warhawks Task Force(TF) 
และจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง M142 HIMARS กองพันที่๑ กรมปืนใหญ่ที่๓ กองพลน้อยปืนใหญ่ที่๑๗(1st Battalion, 3rd Field Artillery Regiment, 17th Field Artillery Brigade) เป็นต้น การฝึกผสม HANUMAN GUARDIAN 2025 ยังรวมถึงการฝึกสุนัขทหาร(MWD: Military Working Dog) และการต่อต้านระบบอากาศยานไร้คนขับ(C-UAS: Counter-Unmanned Aircraft System) ด้วยครับ

วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2568

กองทัพอากาศสหรัฐฯเลือก Boeing เป็นผู้ชนะเพื่อสร้างเครื่องบินขับไล่ครองอากาศยุคอนาคต F-47 NGAD

USAF selects Boeing to build F-47 NGAD



An artistic impression of Boeing's proposed NGAD aircraft. (Boeing)


F-47 represents a significant advancement over the F-22 (pictured), which is currently the US Air Force's primary air superiority fighter. (US Air Force)



ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ประกาศเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2025 ว่า บริษัท Boeing สหรัฐฯจะสร้างเครื่องบินขับไล่ครองอากาศยุคอนาคต NGAD(Next Generation Air Dominance) สำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) 
ที่จะได้รับการกำหนดแบบเป็นเครื่องบินขับไล่ F-47 โดยจะมีคุณลักษณะความเร็วและความคล่องแคล่วการเคลื่อนที่ได้รับการเพิ่มขยาย, วิทยาการตรวจจับได้ยาก stealth ต่างๆ และการปฏิบัติการกับฝูงอากาศยานไร้คนขับ drone ได้หลายเครื่อง

ตามข้อมูลจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ Trump ที่กล่าวระหว่างการประชุมสื่อของทำเนียบขาว White House ว่า รุ่นทดสอบของเครื่องบินขับไล่ Boeing F-47 NGAD ได้ทำการบินมาเป็นเกือบหน้าปีแล้ว มูลค่าของวงเงินสัญญาและราคาต่อหน่วยของเครื่องบินไม่ได้ถูกเปิดเผย
"เราเชื่อว่านี่มอบอำนาจการสังหารที่มากกว่า มันมอบ...ขีดความสามารถที่มีความทันสมัยมากกว่าในแนวทางที่ถูกสร้างเพื่อให้ปรับเปลี่ยนได้" พลอากาศเอก David Allvin ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯกล่าวระหว่างการประชุมสื่อ

"นี่ควบคู่ไปกับอากาศยานรบทำงานร่วมกัน CCA(Collaborative Combat Aircraft) ของเรา...ทำให้เราสามารถที่จะมองไปยังอนาคตและและปลดล็อกเวทมนตร์นั่นคือการทำงานเป็นทีมระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร(human machine teaming) 
โดยที่เราใส่โครงการนี้ด้วยกันโดยใส่การควบคุมที่มากขึ้นในมือของรัฐบาลสหรัฐฯ ดังนั้นเราสามารถปรับปรุงและปรับเปลี่ยน...ตามความเร็วของวิทยาการได้" พลอากาศเอก Allvin กล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/2029.html)

กองทัพอากาศสหรัฐฯได้เลื่อนการประกาศสัญญาโครงการเครื่องบินขับไล่ครองอากาศยุคอนาคต NGAD ในเดือนสิงหาคม 2024 เพื่อที่จะ "พิจารณาการออกแบบใหม่บนพื้นฐานของภัยคุกคามต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป" กองทัพอากาศสหรัฐฯกล่าวกับ Janes ณ เวลานั้น
จากนั้นรัฐมนตรีทบวงกองทัพอากาศสหรัฐฯ Frank Kendall ในขณะนั้นระบุว่าราคาต่อระบบของเครื่องบินขับไล่ NGAD จะมีวงเงินอยู่ที่หลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/ngad.html)

ในเดือนธันวาคม 2024 รัฐมนตรีทบวงกองทัพอากาศสหรัฐฯ Kendall ได้เลื่อนการตัดสินใจประกาศสัญญาโครงการเครื่องบินขับไล่ NGAD ออกไปอีก โดยเลื่อนให้เป็นการตัดสินใจของคณะบริหารของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ Trump ที่เข้ามาใหม่
"รัฐมนตรีทบวงกองทัพอากาศสหรัฐฯจะเลื่อนโครงการ NGAD ออกไปให้เป็นการตัดสินใจของคณะบริหารชุดหน้า ทบวงกองทัพอากาศสหรัฐฯเดินหน้าการวิเคราะห์และดำเนินการปฏิบัติที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าพื้นที่การตัดสินใจยังคงอยู่สำหรับโครงการ" กองทัพอากาศสหรัฐฯกล่าว ณ เวลานั้น

การคัดเลือกแบบเครื่องบินขับไล่ NGAD เป็นที่ทราบโดยกว้างขวางว่าเป็นการแข่งขันระหว่างบริษัท Boeing สหรัฐฯ และบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ ขณะที่บริษัท Northrop Grumman สหรัฐฯกล่าวว่าตนจะไม่เข้าแข่งขันในสัญญานี้(https://aagth1.blogspot.com/2023/08/northrop-grumman-ngad.html)
ต่อมาในเดือนมกราคม 2025 กองทัพอากาศสหรัฐฯได้ประกาศสองการแก้ไขสัญญากับบริษัท General Electric(GE) สหรัฐฯ และบริษัท Pratt & Whitney(P&W) สหรัฐฯ สำหรับโครงการเครื่องยนต์ระบบขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนได้ยุคอนาคต NGAP(Next-Generation Adaptive Propulsion)

ระบบขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนได้ยุคอนาคต NGAP มีจุดประสงค์ที่จะเป็นเครื่องยนต์ของเครื่องบินขับไล่ครองอากาศยุคอนาคต F-47 NGAD แต่ก็เช่นเดียวกันรายละเอียดการพัฒนาส่วนใหญ่ของทั้งสองโครงการอยู่ในชั้นความลับ
ด้วยการประกาศสัญญาสำหรับการพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต(EMD: Engineering and Manufacturing Development) เครื่องบินขับไล่ F-47 ที่พัฒนาโดย Boeing สหรัฐฯจะเป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่6 แบบแรกของโลกที่จะทดแทนเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 แบบ Lockheed Martin F-22 Raptor ของกองทัพอากาศสหรัฐฯในราวปี 2030 ครับ

วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2568

ไทยและสวีเดนมีความคืบหน้าการหารือเพื่อจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐ข/ค Gripen E/F

Discussions for Thailand Gripen E/F buy advance

Source: Saab/Sompong Nondhasa
Thailand is negotiations for 12 Gripen E/Fs






Source: Royal Thai Air Force
The Gripen is notable for its ability to operate from austere locations



GRIPEN E ทอ.ไทย ...ที่บูธของ SAAB มีการนำรูปขนาดใหญ่ที่เขียนว่า GRIPEN E พร้อมสัญญลักษ์ที่หางรูปดาวห้าแฉก ของฝูงบิน 102 หมายเลข 10201 ด้านหน้าข้างลำตัวมีรูปเสือเผ่นซึ่งเป็นสัญญลักษ์ของกองบิน 1

ผบ.ทอ.เยี่ยมชมบูธ SAAB และถ่ายรูปกับผู้บริหารของ SAAB ด้านหลังคือแบบจำลอง Gripen E ซึ่งคาดว่าทอ.จะเซ็นต์สัญญาฃื้อในราวเดือนพ.ค.นี้…

“หัวใจเราเกินร้อย จนทำให้เกิดประวัติศาสตร์ ในครั้งนี้”
ขอขอบคุณ นักบิน เจ้าหน้าที่ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่ให้การสนับสนุนภารกิจการทดสอบการบินขึ้น-ลงบนถนนหลวงของเครื่องบิน Gripen 39 C/D  ในครั้งนี้
บันทึกความทรงจำประวัติศาสตร์ ของ กองทัพอากาศ และ กองบิน 7  ในวันที่ 27 ก.พ.68 เวลา 1030 เครื่องบินขับไล่แบบที่ 20 ก Gripen 39 C/D หมายเลข 70103 ลง-ขึ้น บนถนนหลวงหมายเลข 4287 
All for one, one for all ทุกคนเพื่อหนึ่งเดียว และ หนึ่งเดียวเพื่อทุกคน

การหารือระหว่างรัฐบาลไทยในกรุงเทพมหานคร และรัฐบาลสวีเดนใน Stockholm กำลัง "เป็นไปตามแนวทางด้วยดี" สำหรับการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๒๐ข/ค บ.ข.๒๐ข/ค Saab JAS 39 Gripen E/F(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/gripen-ef.html)
ในต้นเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) กระทรวงกลาโหมไทยได้รับรองการตัดสินใจของกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐ข/ค Saab Gripen E/F สวีเดน เพื่อกำหนดขั้นระยะการเจรจาระหว่างทั้งสองประเทศ

"กองทัพอากาศไทยได้เลือกเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F ในฐานะเครื่องบินขับไล่ในอนาคตที่ตนปรารถนา การจัดหาจะเป็นกระบวนการระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล(G-to-G: government-to-government)
และการเจรจาในรายละเอียดต่างๆขณะนี้กำลังอยู่ในการดำเนินการระหว่างตัวแทนผู้มีอำนาจของไทยและสวีเดน ขั้นตอนกำลังดำนินไปตามแนวทาง" บริษัท Saab สวีเดนกล่าวในจดหมาย email ที่ถูกส่งให้แก่ FlightGlobal

การตัดสินใจของกองทัพอากาศไทยที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐ข/ค Gripen E/F จำนวน ๑๒เครื่องได้มีการส่งสัญญาณครั้งแรกในเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024)(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/gripen-ef.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/gripen-e.html)
ตามการรณรงค์การแข่งขันที่มีมายาวนานระหว่างเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F กับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16C/D Block 70/72 สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/lockheed-martin-f-16v-block-7072.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/f-16-block-7072-gripen-ef.html)

นอกเหนือจากเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F และเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 70/72 ทั้งบริษัท Saab สวีเดน และบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯได้ออกชุดข้อเสนอชดเชย offset ที่ครอบคลุมแก่ไทย(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/saab-gripen-ef.html)
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๘ เครื่องบินขับไล่แบบที่ ๒๐/ก บ.ข.๒๐/ก Gripen C/D ที่กองทัพอากาศไทยมีประจำการในปัจจุบันได้สาธิตขีดความสามารถการปฏิบัติการจากถนนทางหลวงในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ด้วย

"การปฏิบัติการบนถนนล่าสุดที่ดำเนินการโดยกองทัพอากาศไทยเป็นอีกหนึ่งพินัยกรรมต่อการปฏิบัติที่ลื่นไหลและแข็งแกร่งที่ตามมากับระบบเครื่องบินขับไล่ Gripen การปฏิบัติการอันล้ำยุคต่างๆในท้องฟ้าขึ้นอยู่กับสมรรถนะและความเร็วที่เท่าเทียมกันบนพื้นดิน" ฝ่ายกิจกรรมของ Saab สวีเดนกล่าว
ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐/ก Gripen C/D ประจำการ ณ ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎร์ธานี จำนวน ๑๑เครื่อง(แบ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว บ.ข.๒๐ Gripen C จำนวน ๗เครื่อง และเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง บ.ข.๒๐ก Gripen D จำนวน ๔เครื่อง)

ความเห็นวิเคราะห์
ในการสนับสนุนการจัดหาเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐ข/ค Gripen E/F เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๘ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU: Memorandum of Understanding) ระหว่างบริษัทอุตสาหกรรมการบินจำกัด(TAI: Thai Aviation Industries) ไทย และบริษัท SAAB AB สวีเดน(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/tai-saab-gripen-ef.html)
กองทัพอากาศไทยมองที่จะได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลไทยและรัฐสภาไทยในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘ ในราวเดือนเมษายน-พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๘ สำหรับความต้องการทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ โคราช ด้วยเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๒๐ข/ค บ.ข.๒๐ข/ค Gripen E/F จำนวน ๑๒เครื่อง

การจัดหาระยะที่๑ วงเงินราว ๑๙,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($539 million) จำนวน ๔เครื่องแรกประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว บ.ข.๒๐ข Gripen E จำนวน ๓เครื่อง และเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง บ.ข.๒๐ค Gripen F จำนวน ๑เครื่อง ที่คาดว่าจะมีการลงนามสัญญาตามมาราวเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘ และจะส่งมอบให้ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ ได้ในปี พ.ศ.๒๕๗๒(2029)
ระหว่างงานแสดงการบินนานาชาติเนื่องในโอกาสครบรอบ ๘๘ปีกองทัพอากาศไทย ระหว่างวันที่ ๗-๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ณ กองบิน๖ ดอนเมือง บริษัท Saab ได้จัดแสดงภาพวาดแสดงถึงเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐ข Gripen E ในสีและเครื่องหมายของ ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ กองทัพอากาศไทยด้วยครับ

วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2568

Thales ได้รับสัญญาจัดหาระบบ sonar สำหรับเรือดำน้ำชั้น Orka ใหม่ของเนเธอร์แลนด์

Thales secures sonar contract for Netherlands' new Orka submarines




Thales will supply the integrated sonar suite that will equip the RNLN's four new Orka-class submarines. (Thales)

แผนกธุรกิจระบบใต้น้ำ Underwater Systems ของบริษัท Thales ยุโรปได้รับสัญญาวงเงินหลายล้าน Euros จากบริษัท Naval Group ฝรั่งเศสเพื่อจะจัดส่งระบบ sonar บูรณาการ
สำหรับเรือดำน้ำชั้น Orka ใหม่จำนวน 4ลำของกองทัพเรือเนเธอร์แลนด์(RNLN: Royal Netherlands Navy, Koninklijke Marine)(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/orka-naval-group.html)

การประกาศข้อตกลงเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2025 บริษัท Thales กล่าวว่าข้อตกลงของตนครอบคลุมการจัดส่งของชุดระบบ multi-array sonar ที่สมบูรณ์จำนวน 4ระบบเพื่อติดตั้งในเรือดำน้ำชั้น Orka แต่ละลำ
รายละเอียดต่างๆที่ชัดเจนของมูลค่าวงเงินสัญญาไม่ได้ถูกเผยแพร่ แต่บริษัท Thales ยืนยันว่าคำสั่งจัดหามีมูลค่าที่วงเงินเกิน 100 million Euros($109 million)(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/naval-group-walrus.html)

บริษัท Naval Group ได้รับการประกาศสัญญาในเดือนกันยายน 2024 วงเงิน 5.6 billion Euros โดยกองบัญชาการยุทโธปกรณ์และสารสนเทศ(Materiel and IT Command, COMMIT: Commando Materieel en IT) กระทรวงกลาโหมเนเธอร์แลนด์
สำหรับการส่งมอบเรือดำน้ำพลังงานตามแบบ Blacksword Barracuda ระวางขับน้ำ 3,300tonne จำนวน 4ลำเพื่อให้ตรงความต้องการทดแทนเรือดำน้ำชั้น Walrus ของกองทัพเรือเนเธอร์แลนด์

เรือดำน้ำชั้น Orka ทั้งหมด 4ลำจะได้รับการตั้งชื่อว่าเรือดำน้ำ HNLMS Orka, เรือดำน้ำ HNLMS Zwaardvis, เรือดำน้ำ HNLMS Barracuda และเรือดำน้ำ HNLMS Tijgerhaai ตามลำดับ
โดยเรือดำน้ำชั้น Orka จะถูกสร้าง ณ อู่ต่อเรือ Cherbourg ของบริษัท Naval Group ในตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส โดยเรือดำน้ำชั้น Orka สองลำแรกมีกำหนดสำหรับการส่งมอบภายในสิ้นปี 2034

ชุดระบบ sonar ของ Thales เป็นส่วนประกอบสำคัญของการแข่งขันของ Naval Group ฝรั่งเศส พัฒนาการจากระบบ sonar ที่ถูกบูรณาการกับเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์(SSN) ชั้น Suffren(Barracuda) ของกองทัพเรือฝรั่งเศส(French Navy, Marine nationale)(https://aagth1.blogspot.com/2022/06/barracuda-s635-suffren.html)
ชุดระบบ sonar เต็มรูปแบบรวมถึง แผง sonar ทรงกระบอกที่หัวเรือ, แผง sonar ข้างตัวเรือคู่, แผง sonar สกัดกั้น, sonar หลบเลี่ยงทุ่นระเบิดและสิ่งกีดขวาง, sonar เชิงรับลากท้าย, โทรศัพท์ใต้น้ำ, เครื่องหยั่งความลึกน้ำ(echo sounder) และตู้ rack ประมวลผลสัญญาณ

ในเดือนมีนาคม 2024 บริษัท Naval Group ฝรั่งเศสได้ถูกเลือกโดยกระทรวงกลาโหมเนเธอร์แลนด์สำหรับโครงการเรือดำน้ำชั้น Orka ใหม่ 4ลำทดแทนเรือดำน้ำชั้น Walrus ที่เข้าประจำการในช่วงระหว่างปี 1990-1994 
โดยเรือดำน้ำชั้น Walrus ลำแรก เรือดำน้ำ S802 HNLMS Walrus ได้ถูกปลดประจำการแล้วในเดือนตุลาคม 2023 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/walrus-s802-hnlms-walrus.html)

วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2568

Northrop Grumman สหรัฐฯเสนออากาศยานไร้คนขับ MQ-4C Triton UAV แก่นอร์เวย์

Special Report: Northrop Grumman outlines Triton pitch to Norway





The MQ-4C Triton is being pitched to Norway for a requirement to deliver a high-altitude long-endurance unmanned intelligence, surveillance, and reconnaissance capability over the High North. (Northrop Grumman/US Navy)

บริษัท Northrop Grumman สหรัฐฯได้ร่างเค้าโครงการเสนอเข้าแข่งขันของอากาศยานไร้คนขับ MQ-4C Triton UAV(Unmanned Aerial Vehicle) ของตนแก่นอร์เวย์ โดยนำประโยชน์จากขีดความสามารถและความเป็นหุ้นส่วนต่างๆที่มีอยู่ในฐานะประเทศกลุ่มชาติ NATO 
ที่มองจะวางกำลังด้วยขีดความสามารถอากาศยานไร้คนขับเพดานบินสูงระยะทำการนาน(HALE: High-Altitude Long-Endurance UAV) ข่าวกรอง, ตรวจการณ์ และลาดตระเวน(ISR: Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) ตั้งแต่ปี 2029

การพูดคุย ณ งานที่จัดขึ้นในเมือง Andenes เขต Arctic ของนอร์เวย์ที่ถูกกำหนดเป็นที่ตั้งขีดความสามารถ ณ สถานที่ที่อยู่ติดกันกับสถานีกองทัพอากาศ Andøya Air Station เจ้าหน้าที่บริษัท Northrop Grumman ร่างเค้าโครงขีดความสามารถสำคัญต่างๆ
ของอากาศยานไร้คนขับ MQ-4C Triton ตามที่พวกเขาได้เห็นพวกมันสำหรับความต้องการระบบ HALE ISR ภายใต้บริบทของแผนกลาโหมระยะยาว(LTDP: Long-Term Defence Plan) ของนอร์เวย์

ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่บริษัท Northrop Grumman ได้เน้นถึงการทำงานร่วมกันของ Triton UAV กับเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลพหุภารกิจ(MMA: Maritime Multimission Aircraft) แบบ Boeing P-8A Poseidon 
ที่กองทัพอากาศนอร์เวย์(RNoAF: Royal Norwegian Air Force, Luftforsvaret) จัดหามาใหม่ล่าสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งและได้เสนอการจัดตั้งศูนย์เพื่อความเป็นเลิศ(centre of excellence) ณ ที่ตั้งจะเป็นจุดขายสำคัญสำหรับระบบอากาศยานไร้คนขับ HALE UAS(Unmanned Aircraft System)

"เมื่อเราพูดถึงเกี่ยวกับแผนกลาโหมระยะยาวสำหรับนอร์เวย์ มันได้มีการหารือของระบบอากาศยานไร้คนขับ UAS ขนาดใหญ่พิสัยไกล" Brad Champion ผู้จัดการโครงการ Triton กล่าวเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2025 การพูดคุยในงานที่จัดขึ้น 
ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางอากาศและอวกาศของนอร์เวย์เพื่อความมั่นคงของกลุ่มชาติ NATO โดยรวมของภูมิภาค High North(https://aagth1.blogspot.com/2021/08/p-8a-poseidon.html)

"เรา(Northrop Grumman) ล่าสุดได้อยู่ที่นี่(สถานีกองทัพอากาศ Andøya) กับกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ดังนั้นกองทัพเรือสหรัฐฯได้มีความุ่งมั่นอย่างมากในโครงการนี้และเราได้หารือกับสถาบันวิจัยกลาโหมนอร์เวย์ FFI(Norwegian Defence Research Establishment, Forsvarets forskningsinstitutt) 
และคณะกรรมาธิการคัดเลือกของนอร์เวย์สำหรับโครงการนี้ และเราเข้าใจว่าความต้องการเป็นสำหรับปี 2029 (ด้วยเหตุนี้)กองทัพเรือสหรัฐฯได้หารือกับนอร์เวย์เกี่ยวกับการสร้างความมั่นใจว่าเราสามารถที่มีขีดความสามารถนั้นในสถานที่นี้ ตามที่มันถูกร้องขอภายใต้แผนกลาโหมระยะยาว" Champion เสริม

นอกจากกองทัพเรือสหรัฐฯที่สั่งจัดหาอากาศยานไร้คนขับ MQ-4C Triton UAV จำนวน 68เครื่องที่เข้าประจำการตั้งแต่ปี 2018 และถูกนำไปวางกำลังปฏิบัติการในหลายๆที่รวมถึงในยุโรปแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/mq-4c-triton-uav.html)
ลูกค้าส่งออกของอากาศยานไร้คนขับ MQ-4C Triton UAV ยังรวมถึงกองทัพอากาศออสเตรเลีย(RAAF: Royal Australian Air Force) ที่สั่งจัดหาจำนวน 4เครื่อง และได้รับมอบเครื่องแรกในเดือนมิถุนายน 2024 โดยมีแผนจะจัดหาเพิ่มเติมอีก 3เครื่องรวมเป็น 7เครื่องครับ

วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2568

มาเลเซียสั่งจัดหาแท่นยิง Torpedo จาก SEA อังกฤษสำหรับเรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela

SEA to supply torpedo launchers for Malaysia's Maharaja Lela class



The second ship of the Royal Malaysian Navy's Maharaja Lela-class frigates, KD Raja Muda Nala at LUNAS Shipyard. (LUNAS)

SEA's Torpedo Launcher System, which has been selected for Malaysia's Maharaja Lela-class frigates. (SEA)



บริษัท SEA สหราชอาณาจักรผู้พัฒนาระบบการป้องกันทางเรือได้รับสัญญาที่จะจัดส่งแท่นยิง torpedo เบารูปแบบตรึงประจำที่สามท่อยิงแบบ Torpedo Launcher System(TLS)
สำหรับโครงการเรือฟริเกต Littoral Combat Ship(LCS) เรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela ของกองทัพเรือมาเลเซีย(RMN: Royal Malaysian Navy, TLDM: Tentera Laut Diraja Malaysia)

ในแถลงการณ์ของตนเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025 เพื่อประกาศถึงสัญญา บริษัท SEA เปิดเผยว่าข้อตกลงได้รับการลงนามกับบริษัท Lumut Naval Shipyard Sdn Bhd(LUNAS) มาเลเซียรัฐวิสาหกิจอู่ต่อเรือของรัฐบาลมาเลเซีย
เรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela ทั้งหมด 5ลำจะได้รับการติดตั้งด้วยระบบแท่นยิง torpedo เบา TLS บริษัท SEA กล่าวในแถลงการณ์ของตน(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/lcs-kd-maharaja-lela.html)

"ระบบแท่นยิง torpedo แบบ TLS เป็นระบบที่ไม่ขึ้นกับอาวุธแบบใดแบบหนึ่งโดยเฉพาะ(weapons-agnostic) ทำให้มีความเข้ากันได้กับ torpedo เบาหลากหลายแบบ ขณะที่การออกแบบที่กะทัดรัดของระบบทำให้เรียบง่ายต่อการบำรุงรักษาและยืดอายุการใช้งาน" บริษัท SEA เสริม
โครงการเรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela LCS ของกองทัพเรือมาเลเซียเดิมตั้งใจที่จะนำเรือรบขนาดเรือฟริเกตใหม่จำนวน 6ลำเข้าประจำการ(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/lunas-mou-pt-pal.html)

อย่างไรก็ตามเนื่องจากการประสบปัญหาทางการเงินและการบริหารจัดการโครงการ โครงการเรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela LCS ได้ถูกลดจำนวนเรือลงเหลือ 5ลำ(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/maharaja-lela-lcs-2026.html)
เรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela แบบเรือ Gowind ของบริษัท Naval Group ฝรั่งเศส มีความยาวเรือรวมที่ 111m และมีระวางขับน้ำที่ประมาณ 3,000tonnes(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/maharaja-lela-lcs.html

นอกจากแท่นยิง torpedo แบบ TLS ระบบอาวุธอื่นๆที่ได้รับเลือกสำหรับเรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela รวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ Kongsberg Naval Strike Missile(NSM) นอร์เวย์(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/nsm-lekiu.html)
ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศป้องกันภัยทางอากาศเป็นจุด(point defence) แบบ MBDA VL MICA ฝรั่งเศส, ปืนเรือ BAE Systems 57mm Mk 3 สวีเดน และแท่นยิงปืนกล MSI-Defence Seahawk 30mm สหราชอาณาจักร

ชุดระบบตรวจจับต่างๆของเรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela รวมถึง 3D multibeam radar แบบ Thales Nederland SMART-S Mk 2 เนเธอร์แลนด์, ระบบติดตามเป้าหมายและควบคุมการยิง(FCS: Fire-Control System) radar/electro-optical แบบ Rheinmetall TMEO Mk 2 TMX/EO เยอรมนี,
และ sonar หลายระดับความลึกความถี่ต่ำแบบ Thales Captas-2 ยุโรปสำหรับปฏิบัติการสงครามปราบเรือดำน้ำ(ASW: Anti-Submarine Warfare) กองทัพเรือมาเลเซียคาดว่าจะได้รับมอบเรือลำแรกเรือฟริเกต KD Maharaja Lela ภายในสิ้นปี 2026 ครับ