Marsun Public Company and Ministry of Defence of Sultanate of Oman Hold Steel-Cutting Ceremony for New Landing Craft Mechanized Project
Samut Prakan, Thailand – April 25, 2025 – Marsun Public Company Limited holds the first steel-cutting ceremony marking the commencement of construction for four new Landing Craft Mechanized (LCM) vessels ordered by the Ministry of Defence of the Sultanate of Oman.
The ceremony is presided over by H.E. Dr. Mohammed Al Zaabi, Secretary-General of Oman's Ministry of Defence.
This ceremony represents a pivotal milestone in the agreement signed on December 10, 2024, between Marsun and the Ministry of Defence of Oman. The contract covers the design, construction, and delivery of four advanced landing craft mechanized vessels aimed at significantly enhancing the operational capabilities of the Royal Navy of Oman (RNO).
This initiative is part of Oman's broader military modernization program aimed at enhancing national security and maritime capabilities. Additionally, this project includes a localization program designed to promote technology transfer, skill development, and self-sufficiency within Oman's defense sector.
Distinguished guests attending the ceremony include Rear Admiral Saif bin Nasser AL Rahbi – Commander of the Royal Navy of Oman and senior representatives from the Ministry of Defence of Oman, H.E. Issa Abdulla bin Al Alawi, Ambassador of the Sultanate of Oman to the Kingdom of Thailand,
and senior representatives from the Ministry of Defence and the Royal Navy of Oman. The delegates attended the ceremony from Thailand include Admiral Pasukree Wilairak, Representative of the Commander-in-Chief, Royal Thai Navy; General Wattana Chatrattanasaeng,
Director of the Defence Industry and Energy Centre and Representative of the Office of The Permanent Secretary for Defence, Miss Sasirit Tangulrat, Director-General, Department of South Asian, Middle East and African Affairs, amongst other esteemed senior officials and delegates.
This event underscores the robust bilateral relations between Thailand and Oman and highlights Marsun's dedication to providing world-class maritime solutions.
Founded in 1980, Marsun Public Company has successfully delivered over 355 vessels globally, including Fast Assault Boats, High-Speed Patrol Boats, Fast Attack Missile Crafts, Landing Craft Utility (LCU), Patrol Gun Boats, Crew Boats for Offshore Oil & Gas Exploration, Crew Transfer Vessels for Offshore Windfarms, Tug Boats, Sailing Yachts and many more.
Strategically located near Bangkok at the mouth of the Chao Phraya River, Marsun efficiently serves international maritime clients with high-quality vessel construction and design.
Marsun has been accredited for many global certifications, including ISO 9001:2015 – Quality Management System, ISO 14001:2015 – Environmental Management System, and ISO 45001:2018 – Occupational Health and Safety Management System.
The company takes great pride in being Thailand’s top shipbuilder for specialized and high-performance vessels and being one of the top shipyards in the global arena.
The proven track record and success demonstrate its capability to consistently meet or exceed contractual specifications, adhere to strict delivery schedules, and ensure that each vessel performs its mission with excellence.
อู่ต่อเรือ บริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) และ กระทรวงกลาโหมแห่งรัฐสุลต่านโอมาน ร่วมจัดพิธีตัดเหล็กแผ่นแรกเรือ Landing Craft Mechanized
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 บริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) ได้จัดพิธีตัดเหล็กแผ่นแรก (First Steel-Cutting Ceremony) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเริ่มต้นโครงการต่อสร้างเรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง (Landing Craft Mechanized – LCM) จำนวน 4 ลำ ของกระทรวงกลาโหมแห่งรัฐสุลต่านโอมาน โดยมี H.E. Dr. Mohammed Al Zaabi (ปลัดกระทรวงกลาโหมแห่งรัฐสุลต่านโอมาน) ร่วมให้เกียรติเป็นประธานในพิธี
พิธีนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญภายใต้ข้อตกลงในสัญญาจ้างที่ลงนามเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567 ระหว่างบริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) และกระทรวงกลาโหมแห่งรัฐสุลต่านโอมาน โดยสัญญาฯ ดังกล่าว ครอบคลุมการออกแบบ ต่อสร้าง และส่งมอบเรือที่มีความทันสมัย ตลอดจนแนวทางในการถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาทักษะแรงงาน และส่งเสริมศักยภาพการพึ่งพาตนเองในภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือของรัฐสุลต่านโอมาน ซึ่งโครงการนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงขีดความสามารถทางการทหารของรัฐสุลต่านโอมาน ที่มุ่งยกระดับความมั่นคงแห่งชาติ และศักยภาพทางทะเลของประเทศอีกด้วย
ในงานนี้ ได้รับเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐของทั้งสองประเทศเป็นอย่างดียิ่ง โดยมี Rear Admiral Saif bin Nasser AL Rahbi (ผู้บัญชาการกองทัพเรือของรัฐสุลต่านโอมาน) พร้อมด้วย ผู้แทนอาวุโสจากกระทรวงกลาโหม และ H.E. Issa Abdulla bin Al Alawi (เอกอัครราชฑูตโอมานประจำประเทศไทย)
โดยผู้แทนจากประเทศไทยได้แก่ พลเรือเอกพาสุกรี วิลัยรักษ์ (ผู้แทนผู้บัญการทหารเรือ), พลเอกวัฒนา ฉัตรรัตนแสง (ผู้อำนวยการศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงาน) พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นางสาวศศิฤทธิ์ ตังกุลรัตน์ (อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา)
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูง และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ อย่างคับคั่ง สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ
บริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2523 ปัจจุบันส่งมอบเรือให้กับหน่ายงานภาครัฐ และเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาแล้วกว่า 355 ลำ โดยมีผลงานเรือที่สำคัญ ได้แก่ เรือตรวจการณ์ปืน, เรือตรวจการณ์ความเร็วสูง, เรือตรวจการณ์ติดอาวุธนำวิถี, เรือขจัดคราบน้ำมัน, เรือรับส่งลูกเรือและบริการแท่นขุดเจาะน้ำมัน, เรือรับส่งลูกเรือสำหรับกิจการกังหันลมในทะเล
โดยทางบริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพจากหน่วยงานในระดับสากล มากมาย เช่น ISO 9001:2015 – Quality Management System, ISO 14001:2015 – Environmental Management System และ ISO 45001:2018 – Occupational Health and Safety Management System
บริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ต่อเรือที่มีมาตรฐานระดับโลก โดยจากผลงานที่ผ่านมา ล้วนเป็นที่ประจักษ์ว่า อู่ต่อเรือของคนไทยมีขีดความสามารถ และมีความพร้อมในฐานะผู้ต่อเรือในระดับสากล
การหารืออุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ไทย - โอมาน
กระทรวงกลาโหม โดย พลเรือเอก สุพพัต ยุทธวงศ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม และ พลเอกวัฒนา ฉัตรรัตนแสง ผู้อำนวยการศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ต้อนรับคณะ H.E. Dr. Mohammed Bin Nasser Bin Ali Al-Za’Abi ปลัดกระทรวงกลาโหมรัฐสุลต่านโอมาน และ H.E. Mr. Issa Al Alawi เอกอัครราชทูตรัฐสุลต่านโอมานประจำประเทศไทยและคณะ
ในการหารืออุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ไทย - โอมาน ในระหว่างการเยือนไทยเพื่อประกอบพิธีการตัดเหล็กแผ่นแรกของเรือระบายพลขนาดกลาง (Landing Craft Mechanized Vessel) ที่ว่าจ้าง บริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ต่อเรือ จำนวน 4 ลำ ที่ต่อในประเทศและส่งมอบให้แก่ราชนาวีโอมาน ภายในปี 2570
การหารือได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการจำนวนมาก สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กลุ่มงานความมั่นคงระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ ในการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ ได้รับการบรรจุใช้ในกองทัพ หน่วยงานความมั่นคง และส่วนราชการของไทย
อีกทั้งบางส่วนสามารถส่งไปยังต่างประเทศแล้ว โดยฝ่ายไทยได้เน้นย้ำถึงขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย ความต้องการที่จะทำงานร่วมกัน การส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการจัดซื้อ การลงทุน อีกทั้งกระทรวงกลาโหมยืนยันถึงมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้งานโดยกองทัพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันเป็นที่ประจักษ์ ทั้งนี้ หน่วยงานไทยพร้อมส่งเสริมการดำเนินโครงการตามนโยบาย offset ของทางโอมาน อาทิ
ปลัดกระทรวงกลาโหมโอมาน ได้ขอบคุณฝ่ายไทยที่จัดการบรรยายขีดความสามารถของไทย และได้เชิญชวนให้ฝ่ายไทย เชิญชวนให้จัด Workshop ในโอมานโดยนำผู้ประกอบการเอกชนที่มีศักยภาพไปนำเสนอและสร้างความร่วมมือในการผลิต การถ่ายทอดเทคโนโลยี
อีกทั้งเชิญชวนผู้ประกอบการลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับทางโอมาน และผลักดันให้จัดทำบันทึกความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศระหว่างกลาโหมทั้งสองประเทศต่อไป
การส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยกับโอมาน สามารถสร้างมูลค่าในปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท คาดว่าจะมีการขยายตัว คาดว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี พร้อมทั้งขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมในทุกมิติเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
บริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน)(Marsun Public Company Limited) ไทยได้ทำพิธีตัดเหล็กแผ่นแรกของเรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง(LCM: Landing Craft Mechanized) จำนวน ๔ลำสำหรับกองทัพเรือโอมาน(RNO: Royal Navy of Oman) ภายใต้โครงการ Sawari Project ณ อู่ต่อเรือบริษัท Marsun ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๘(2025)
พิธีตัดเหล็กแผ่นแรกของเรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง LCM มีขึ้นตามมาให้หลังราว ๔เดือนหลังจากที่กระทรวงกลาโหมโอมานและบริษัท Marsun ไทยได้ลงนามสัญญาสร้างเรือ ณ กรุง Muscat รัฐสุลต่านโอมาน เมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024)
นับเป็นความสำเร็จในการส่งออกเรือแบบนี้เป็นครั้งแรกของไทยแก่ต่างประเทศ(
https://aagth1.blogspot.com/2024/12/marsun.html)
Marsun ไทยมีประสบการณ์ในการออกแบบและสร้างเรือระบายพลขนาดใหญ่ M55 Landing Craft Utility(LCU) ของตนที่ได้รับสัญญาจ้างสร้างจากกองทัพเรือ(RTN: Royal Thai Navy) ไทยภายใต้โครงการเรือส่งกำลังบำรุงขนาดเล็ก(small supply support vessel) เข้าประจำการในชื่อเรือระบายพลขนาดใหญ่ชุดเรือหลวงมัตโพน จำนวน ๒ลำคือ ร.ล.มัตโพน และเรือหลวงราวี ในเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๓(2010)
เรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง LCM ที่อู่เรือ Marsun ไทยกำลังสร้างใหม่ ๔ลำน่าจะถูกนำมาทดแทนเรือประเภทเรือยกพลขึ้นบก เรือขนส่ง และเรือส่งกำลังบำรุงต่างๆของกองทัพเรือโอมานที่มีเพียง ๓ลำที่มีอายุการใช้งานมานานและบางลำก็ปลดประจำการไปแล้ว โดย Marsun ไทยมีกำหนดจะส่งมอบเรือ LCM ทั้ง ๔ลำแก่โอมานในปี พ.ศ.๒๕๗๐(2027) หรือราว ๒ปีข้างหน้า ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดและมูลค่าของโครงการ
Marsun ไทยยังเคยมีประสบการณ์การส่งออกแบบเรือรบของตนให้กองทัพต่างประเทศมาก่อนแล้วคือเรือเร็วโจมตีติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Jurrat ๒ลำ(M39) แก่กองทัพเรือปากีสถาน(PN: Pakistan Navy) ทั้งนี้ตามที่ H.E. Dr. Mohammed Bin Nasser Bin Ali Al-Za’Abi ปลัดกระทรวงกลาโหมโอมานได้เดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมพิธีตัดเหล็กแผ่นแรกของเรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง LCM ที่โอมานสั่งจัดหา
ไทยยังได้มองที่จะขยายความร่วมมือและโอกาสเพิ่มเติมที่จะส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ที่พัฒนาสร้างในไทยแก่ประเทศในกลุ่มชาติอ่าว Persia ตั้งแต่รถเกราะล้อยางตระกูล First Win 4x4 และรถหุ้มเกราะล้อยางลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบก AWAV 8x8 ของบริษัท Chaiseri ไทยที่ผลิตส่งออกจริงเป็นจำนวนมาก อากาศยานไร้คนขับ UAV(Unmanned Aerial Vehicle) รูปแบบต่างๆ จนถึงการบริการซ่อมบำรุงอากาศยานครับ