US clears Netherlands for latest AMRAAMs
An RNLASF F-35A showing an AMRAAM in one of its internal weapons bays. The Netherlands has now been approved to buy additional numbers of the missile. (Netherlands MoD)
สหรัฐฯได้อนุมัติการขายอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลาง RTX AIM-120C-8 AMRAAM(Advanced Medium-Range Air-to-Air Missile) แก่เนเธอร์แลนด์ โดยได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2025
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้อนุมัติการขายในรูปแบบ Foreign Military Sales(FMS) วงเงิน $570 million ครอบคลุมอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 AMRAAM จำนวน 232นัด
เช่นเดียวกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศลูกฝึก, สิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง, การฝึก, และการสนับสนุน "ข้อเสนอการขายจะเพิ่มพูนขีดความสามารถของเนเธอร์แลนด์ให้ตรงต่อภัยคุกคามต่างๆในปัจจุบันและอนาคต
โดยสร้างความมั่นใจว่าตนมีอาวุธอากาศสู่อากาศที่มีขีดความสามารถที่ทันสมัย เนเธอร์แลนด์มีอาวุธปล่อยนำวิถี AMRAAM ในรายการยุทโธปกรณ์ของตนอยู่แล้วและจะไม่ความยุ่งยากในการนำสิ่งเหล่านี้เข้ามาในกองทัพของตน"
สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหมสหรัฐฯ(DSCA: Defense Security Cooperation Agency) กล่าว อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 มีวัตถุประสงค์ที่จะมอบสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น
เหนือกว่าอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-7 รุ่นก่อนผ่านการใช้ระบบนำร่องดาวเทียม GPS ภายใน, เครือข่าย datalink ที่ได้รับการเพิ่มขยายและชุดคำสั่ง software ใหม่
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 ติดตั้งด้วยหัวค้นหาเป้าหมาย active radar เช่นเดียวกับที่ใช้กับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-7 และขณะที่บางแหล่งข้อมูลให้ข้อสังเกตว่า
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 มีความตั้งใจที่จะมีหัวค้นหาแบบ dual-mode ที่มีขีดความสามารถนำวิถีเข้าหาเป้าหมายด้วยความถี่วิทยุ(RF: Radio Frequency) เชิงรุกและเชิงรับ เจ้าหน้าที่โครงการได้ปฏิเสธเรื่องนี้
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 AMRAAM มีรายงานว่าจะมีระยะยิงที่ 160km และทำการบินโคจรที่ความเร็ว Mach 4 ขณะที่ไม่ได้กล่าวถึงในเอกสารแจ้งการอนุมัติของ DSCA สหรัฐฯ
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 เหล่านี้จะถูกติดตั้งใช้งานกับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) ของกองทัพอากาศและอวกาศเนเธอร์แลนด์(RNLASF: Royal Netherlands Air and Space Force, Koninklijke Luchtmacht)
ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน 2024 สหรัฐฯยังได้อนุมัติการขายในรูปแบบ FMS สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ Raytheon AIM-9X Block II Sidewinder เพิ่มเติมแก่เนเธอร์แลนด์จากที่ได้อนุมัติแล้วก่อนหน้าจำนวน 72นัด และ 28นัด
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-9X Block II Sidewinder วงเงิน $691 million จำนวน 246นัดจะถูกนำมาใช้กับเครื่องบินขับไล่ F-35A ของกองทัพอากาศและอวกาศเนเธอร์แลนด์เช่นกัน(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/f-16ambm-f-35a.html)
เปรียบเทียบกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-9X Block I รุ่นก่อน อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-9X Block II(ยังรู้จักในชื่ออาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-9X-2) มีคุณลักษณะชนวนระเบิดที่ออกแบบใหม่
เช่นเดียวกับหน่วยประมวลผลบนจรวดใหม่, battery motor จรวดใหม่, อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยการจุดชนวนใหม่ และเครือข่าย datalink ใหม่ ตามข้อมูลจาก Janes Weapons: Air-Launched
ชนวนเฉียดระเบิด(proximity fuze) laser แบบ DSU-37/B(รุ่นปรับปรุงของ DSU-15B/B) ถูกแทนที่ด้วยระบบที่ทันสมัยกว่า(DSU-41 Advanced Optical Detector System) ทำให้มีพื้นที่ที่เพียงพอภายในตัวจรวดมากขึ้นสำหรับขีดความสามารถเพิ่มเติมต่างๆที่ถูกนำเข้ามาใช้
หนึ่งในขีดความสามารถเพิ่มเติมดังกล่าวเช่น datalink ที่จะเพิ่มระยะยิงสูงสุดเป็นสองเท่าและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมหาศาลตลอดพื้นที่การโจมตี(engagement zone) ของอาวุธปล่อยนำวิถี
datalink ของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-9X Block II เป็นระบบเดียวกับที่ถูกใช้ใน AIM-120 AMRAAM และทำงานในย่านความถี่ bandwidth นี่ทำให้อาวุธปล่อยนำวิถีมียะยะยิงใกล้โดยการใช้วิถีโคจรและการโจมตีในแนว(เกือบ)ซีกครึ่งมุมหลัง
เมื่อผสมผสานกับหมวกนักบินติดศูนย์เล็งและจอแสดงผลแบบ JHCMS(Joint Helmet-Mounted Cueing System) อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-9X Block II ยังมีชุดคำสั่งขับเคลื่อนขีดความสามารถการจับเป้าหมายหลังยิง(LOAL: Lock‐On‐After‐Launch) ด้วยครับ