วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563

กองทัพบกสหรัฐฯเลือก Bell และ Sikorsky เพื่อสร้างต้นแบบอากาศยานลาดตระเวนติดอาวุธ FARA

US Army selects Bell and Sikorsky to build FARA prototypes
Sikorsky Raider X, Source: Sikorsky

Bell 360 Invictus, Source: Bell
The US Army has selected Bell and Sikorsky to design and test Future Attack and Reconnaissance Aircraft (FARA) Competitive Prototypes.
https://www.flightglobal.com/helicopters/us-army-selects-bell-and-sikorsky-to-build-fara-prototypes/137538.article




กองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) ได้เลือกบริษัท Bell สหรัฐฯและบริษัท Sikorsky สหรัฐฯเพื่อออกแบบและทดสอบต้นแบบการแข่งขันโครงการอากาศยานลาดตระเวนติดอาวุธอนาคต(FARA: Future Armed Reconnaissance Aircraft)
ทั้งสองบริษัทได้ก้าวหน้าสู่ขั้นที่สองที่แต่ละฝ่ายจะเสร็จสิ้นการออกแบบรายละเอียด สร้าง และทดสอบเฮลิคอปเตอร์ ผู้ชนะในการแข่งขันโครงการ FARA จะถูกเลือกอย่างรวดเร็วภายในไม่เกินสิ้นปี 2023
วงเงินการประกาศสัญญาของแต่ละบริษัทไม่ได้รับการเปิดเผย กองทัพบกสหรัฐฯไม่ได้ตอบสนองโดยทันทีต่อการร้องขอความเห็นในขณะนี้

"อากาศยานลาดตระเวนติดอาวุธอนาคตเป็นการปรับปรุงความทันสมัยอากาศยานที่มีความสำคัญลำดับหนึ่งของกองทัพบกสหรัฐฯ และเป็นส่วนสำคัญในการแทรกซึมอย่างมีประสิทธิภาพ และสลายระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบบูรณการของฝ่ายตรงข้าม
มันจะทำให้ผู้บัญชาการกำลังรบมีขีดความสามารถทางยุทธวิธี, การปฏิบัติการ และยุทธศาสตร์ที่ดียิ่งขึ้น จากความเร็ว, พิสัยการบิน, ระยะเวลาทำการ, ความอยู่รอด และอำนาจการสังหารที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ"
Bruce Jette ผู้ช่วยรัฐมนตรีทบวงกองทัพบกด้านการจัดซื้อจัดจ้าง, การส่งกำลังบำรุง และวิทยาการกล่าว ข้อเสนอที่โดดเด่นของ Bell และ Sikorsky มาจากการแข่งขันในแต่ละฝ่ายที่นำการออกแบบเดินหน้าจากอากาศยานที่ทำการบินแล้ว

แนวคิดเฮลิคอปเตอร์ Sikorsky Raider X มีพื้นฐานจากเฮลิคอปเตอร์สาธิต Sikorsky S-97 Raider เป็นเฮลิคอปเตอร์ใบพัดร่วมแกนโดยมีใบพัดขับเคลื่อนด้านท้ายที่ทำการบินครั้งแรกในปี 2015
เฮลิคอปเตอร์ Raider X มีขนาดใหญ่กว่าราวร้อยละ20 จากเครื่องรุ่นก่อนหน้าของมัน ส่วนหนึ่งเพื่อให้รองรับเครื่องยนต์ที่กองทัพบกสหรัฐฯเลือกคือเครื่องยนต์ไอพ่น Turboshaft แบบ General Electric T901-900 ของบริษัท GE Aviation สหรัฐฯ

แนวคิดเฮลิคอปเตอร์ Bell 360 Invictus(https://aagth1.blogspot.com/2019/10/bell-360-invictus.html) ถูกสร้างจากการใช้ระบบใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปพลเรือนขนาดกลาง-ใหญ่ Bell 525 Relentless
อย่างไรก็ตามระบบใบพัดของ ฮ.Bell 360 มีขนาดเล็กกว่าเฮลิคอปเตอร์รุ่นพลเรือนที่เป็นญาติ และมีปีกที่สร้างแรงยกเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ใบพัดประธานสามารถสร้างพลังที่มากขึ้นในการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

กองทัพบกสหรัฐฯต้องการอากาศยานปีกหมุนลาดตระเวนและโจมตีเบาเพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวน Bell OH-58D Kiowa Warrior ที่ปลดประจำการในปี 2017(https://aagth1.blogspot.com/2017/09/oh-58d-kiowa-warrior.html)
เนื่องจากกองทัพบกสหรัฐฯวาดภาพสงครามยุคอนาคตจะเกิดขึ้นภายในมหานครขนาดใหญ่ จึงต้องการอากาศยานที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางใบพัดประธานสูงสุดไม่เกิน 12.2m(40ft) เพื่อให้ดำเนินกลยุทธ์เคลื่อนที่ระหว่างอาคารได้
เพื่อสามารถที่จะคงการรบได้อย่างเป็นจังหวะแม้แต่จะต้องเผชิญกับฝ่ายตรงข้ามที่มีความก้าวหน้า เช่น รัสเซียหรือจีน กองทัพบกสหรัฐฯต้องการให้อากาศยาน FARA มีความเร็วเดินทางสูงสุดอย่สงน้อย 180knots(333km/h)

ห้าบริษัทที่ได้เข้าทำการแข่งขันเพื่อให้ตนเข้าไปสู่ระยะที่สองของโครงการ FARA ได้ไม่ประสบความก้าวหน้ารวมถึงบริษัท  AVX Aircraft สหรัฐฯ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท L3Harris สหรัฐฯ,
บริษัท Boeing สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2020/03/boeing-fara.html) และบริษัท Karem Aircraft สหรัฐฯ กองทัพบกสหรัฐฯต้องการจะวางกำลังอากาศยานลาดตระเวนติดอาวุธ FARA เข้าประจำการได้ภายในปี 2028 ครับ