วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2562

เครื่องบินฝึกไอพ่น T-X สหรัฐฯ-สวีเดนจะนำมาเป็นเครื่องบินโจมตีเบาหรือข้าศึกสมมุติได้

US Air Force’s new trainer jet could become its next light-attack or aggressor aircraft

Boeing-Saab's T-X trainer design won the Air Force's T-X competition in September 2018. (John Parker/Boeing)
https://www.defensenews.com/digital-show-dailies/afa-air-space/2019/03/06/air-forces-new-trainer-jet-could-become-its-next-light-attack-or-aggressor-aircraft/

เครื่องบินฝึกไอพ่น T-X ใหม่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) สามารถที่จะเป็นได้มากกว่าเครื่องบินฝึกด้วยภารกิจเครื่องบินข้าศึกสมมุติ(Aggressor) และเครื่องบินโจมตีเบา ขณะนี้สำหรับบริษัท Boeing สหรัฐฯได้ทำการวางแผนบนโต๊ะของตน
พลอากาศเอก James Michael "Mike" Holmes ผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธทางอากาศ(ACC: Air Combat Command) กองทัพอากาศสหรัฐฯกล่าวเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2019 ในการประชุมสัมมนาสงครามทางอากาศของสมาคมกองทัพอากาศ

แม้ว่าการจัดหาเครื่องบินฝึกไอพ่น T-X ที่พัฒนาโดยทีมร่วมของ Boeing สหรัฐฯและบริษัท Saab สวีเดน(https://aagth1.blogspot.com/2018/09/boeing-saab-t-x.html, https://aagth1.blogspot.com/2018/10/saab-boeing-t-x.html)
เพื่อทดแทนเครื่องบินฝึกไอพ่น Northrop T-38C Talon ที่ประจำการมามากกว่า 50ปีจะยังเป็นลำดับความสำคัญสูงสุดของโครงการ กองทัพอากาศสหรัฐฯได้เริ่มต้นการสำรวจว่า T-X สามารถที่จะนำมาใช้งานอย่างอื่นได้หรือไม่

"คุณสามารถจินตนาการรุ่นของโครงสร้างอากาศยานที่สามารถนำมาติดตั้งเป็นเครื่องบินขับไล่เบา คุณสามารถจินตนาการรุ่นที่ถูกติดตั้งเป็นระบบฝึกข้าศึกสมมุติทางอากาศได้ ในระดับไม่เป็นทางการผมมีบางคนที่ทำงานเพื่อผมที่กำลังคิดว่าความต้องการใดที่อาจเป็นสำหรับรุ่นที่แตกต่างกันเหล่านั้น
เมื่อหรือถ้าการเปลี่ยนเหล่านั้นและกลายเป็นบางสิ่งที่เป็นทางการมากขึ้นจะขึ้นกับหลายๆอย่าง" พล.อ.อ.Holmes กล่าวโดยเสริมว่าตัวแปรเหล่านี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณ แล้ว T-X รุ่นใดจะเป็นที่กองทัพอากาศสหรัฐฯแสวงหา?

ในรุ่นเครื่องบินโจมตีเบา T-X กองทัพอากาศหรัฐฯยังคงไม่ชัดเจนในเส้นทางเดินหน้าของโครงการเครื่องบินโจมตีเบา Light Attack Experiment(https://aagth1.blogspot.com/2018/08/light-attack-experiment.html)
แต่ผู้นำกองทัพอากาศสหรัฐฯได้กล่าวว่าพวกตนต้องการจะขยายความพยายามที่จะรวมอากาศยานที่เหนือกว่าเครื่องบินโจมตีใบพัด Turboprop ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นของการทดสอบแรก(https://aagth1.blogspot.com/2018/07/light-attack-experiment.html)

เครื่องบินฝึกไอพ่น T-X หรือเครื่องบินฝึกไอพ่นค่าใช้จ่ายการปฏิบัติการต่ำแบบอื่นที่เหมือนกันสามารถนำมาใช้ในภารกิจโจมตีเบาได้ พล.อ.อ.Holmes กล่าวแต่ปฏิเสธที่จะระบุเจาะจงจนกว่างบประมาณปี 2020 จะประกาศออกมาโดยมีรายละเอียดมากกว่านี้
"เครื่องบินแบบนั้นเหมือนกับทุกเครื่องที่แข่งขันในปะเภท T-X เครื่องบินแบบนั้นที่มีขนาดและค่าใช้จ่ายชั่วโมงบินและขีดความสามารถเช่นนั้นเป็นบางสิ่งที่ผมคิดว่าเราควรจะมองอย่างแน่นอนตามที่เรามุ่งหน้าในการทดสอบ" เขากล่าว

ในรอบแรกของโครงการทดสอบเครื่องบินโจมตีเบา Light Attack Experiment ในปี 2017 กองทัพอากาศสหรัฐฯได้ประเมินค่าเครื่องบินโจมตีไอพ่นแบบเดียวคือ Textron AirLand Scorpion
แต่สุดท้ายก็ถูกตัดออกไปจากความชื่นชอบในเครื่องบินโจมตีใบพัดอย่าง Textron Beechcraft AT-6 Wolverine หรือ Sierra Nevada Corporation/Embraer A-29 Super Tucano

ขณะที่เครื่องบินโจมตีไอพ่น Scorpion มีขีดความสามารถบางอย่างที่เพิ่มมาที่เครื่องบินใบพัดไม่สามารถเลียนแบบได้ เช่นความเร็วและความคล่องแคล่วที่สูงกว่า และมีห้องบรรทุกภายในลำตัวที่สามารถติดตั้งระบบตรวจจับได้หลายแบบตามความต้องการ
แต่เครื่องบินโจมตีใบพัดทั้ง AT-6 และ A-29 มีสองข้อได้เปรียบที่เหนือกว่า Scorpion คือทั้งสองเครื่องมีราคาถูกกว่าและมีสายการผลิตพร้อมให้ลูกค้าแล้ว ขณะที่ Scropion นั้นยังไม่ได้การสั่งจัดหาจากประเทศใดเลย

อย่างไรก็ตาม Boeing-Saab T-X ไม่ได้ต่อสู้กับความท้าทายเช่นเดียวกันนั้น ประการหนึ่งโครงการเครื่องบินฝึกไอพ่น T-X ได้มีขึ้นเพื่อการสั่งซื้ออย่างน้อย 350เครื่อง ครอบคลุมราคาการจัดตั้งสายการผลิตและผลักดันการลดราคาต่อเครื่องลง พล.อ.อ.Holmes ยังเน้นว่า
Boeing ได้จัดตั้งบริษัท Black Diamond ของตนเพื่อตั้งการผลิตเข้าสู่ขั้นตอนการออกแบบ T-X โดย Black Diamond มุ่งเป้าจะหั่นต้นทุนการผลิตลงอย่างมากด้วยการนำเทคนิคและเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ที่มาจากฝ่ายด้านอากาศยานพาณิชย์ของบริษัท

"ดังนั้นถ้าคุณมองไปที่ขนาดของฝูงบิน ถ้าคุณมีเครื่องบินจำนวนมากที่มีพื้นฐานระบบร่วมกัน นั้นแทบจะนำมาสู้การประหยัดของขนาดที่ทำให้มันถูกลงที่จะปฏิบัติงานเครื่องเหล่านั้นและดำรงความพร้อมพวกมันในระยะยาวได้" พล.อ.อ.Holmes เสริม
การติดอาวุธให้เครื่องบินฝึกไอพ่น T-X อาจจะทำให้เครื่องมีราคาแพงขึ้นจากจุดยืนด้านราคา และมันจะสร้างบางสิ่งที่กองทัพนานาชาติสนใจในการซื้อและจัดหามาได้

"เราไม่มีข้อสรุปใดๆเกี่ยวกับว่าอะไรจะเหมาะสำหรับสิ่งที่เรากำลังมองหาที่จุดต้นทุนหรือไม่ ตามที่ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯ พลอากาศเอก David Lee Goldfein พูดถึง
องค์ประกอบหลักหรืออย่างน้อยหนึ่งในองค์ประกอบหลักของอะไรก็ตาม เรากำลังมองไปที่เครื่องบินโจมตีเบาด้วยว่าหุ้นส่วนของเราจะรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับมัน" พล.อ.อ.Holmes ยอมรับ

สำหรับเครื่องบินฝึกข้าศึกสมมุติ กองทัพอากาศสหรัฐฯวางแผนที่จะประกาศสัญญาในปีนี้ต่อหลายบริษัทที่จะมอบบริการฝึก "ทางอากาศฝ่ายแดง" ที่จำลองการรบอากาศสู่อากาศว่าเป็นอย่างไรแก่นักบินพร้อมรบ
แต่กองทัพอากาศสหรัฐฯเชื่อว่าตนมีความต้องการที่ควรจะขยายให้ใหญ่ขึ้น ทำให้จำเป็นที่จะต้องมีการจัดซื้อเครื่องบินฝึกข้าศึกสมมุติใหม่

ช่วงที่โครงการเครื่องบินฝึกไอพ่น T-X ยังอยู่ระหว่างการแข่งขันจากหลายบริษัท กองทัพอากาศสหรัฐฯมองข้ามตัวเลือกสำหรับการนำ T-X มาเป็นเครื่องบินข้าศึกสมมุติในอนาคต
อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่ได้มีการประกาศสัญญาแล้ว กองทัพอากาศสหรัฐฯกำลังมองว่าเครื่องบินฝึกไอพ่น T-X ใหม่นี้สามารถที่จะเหมาะกับความต้องการนี้หรือไม่ พล.อ.อ.Holmes กล่าวในการสัมมนา

ผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธทางอากาศเผยถึงแนวคิดของเขาที่มีเชิงลึกกว่าในบทความของ War on the Rocks เดือนมกราคม 2019 เครื่องบินฝึกไอพ่น T-X มีกำหนดที่จะมาทดแทนเครื่องบินฝึกไอพ่น T-38 Talon
แต่การบินกับ T-38 นั้นเหมือนกับการบินเครื่องบินขับไล่ยุค 1950s มากกว่าเครื่องบินขับไล่ยุคใหม่ มีเพียงยุทธวิธีพื้นฐานอย่างที่สุดมากๆของเครื่องบินขับไล่เท่านั้นที่สามารถจะเรียนรู้ได้จากเครื่องบินฝึกเก่านี้

เครื่องบินฝึกไอพ่น T-X การทำการบินและขีดความสามารถของระบบตรวจจับของมันมีความใกล้เคียงกับเครื่องขับไล่ยุคใหม่มากว่า และ พล.อ.อ.Holmes ตั้งสมมติฐานว่า
การฝึกจำนวนมากมากที่จะเกิดขึ้นกับนักบินที่จะไปเริ่มต้นการบินกับเครื่องบินขับไล่ F-15, F-16, F-22 หรือ F-35 ควรจะจบเพียงครั้งเดียวได้จริงภายใน T-X

มันควรจะยังสามารถมาแทนที่ "บางส่วนหรือทั้งหมดความต้องการการฝึกเครื่องบินข้าศึกสมมุติสำหรับหน่วยเครื่องบินขับไล่ใกล้เคียง นี่เป็นการเร่งฤดูกาลและเพิ่มเที่ยวบินข้าศึกสมมุติทางอากาศให้เป็นไปได้
เนื่องจาก T-X มีค่าใช้จ่ายต่ำ ปัจจุบันนี้คาดว่าจะน้อยครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงของเครื่องบินขับไล่ยุคที่4 และหนึ่งในห้าของเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 ทำให้นักบินสามารถทำการฝึกได้มากขึ้นในค่าใช้จ่าเท่ากันหรือน้อยกว่า" พล.อ.อ.Holmes เขียนในบทความครับ