USMC retires SuperCobra helo
The USMC has retired the AH-1W SuperCobra after more than 30 years of service.
(Janes/Patrick Allen)
นาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) ได้ทำปลดประจำการเฮลิคอปเตอร์โจมตี Bell
AH-1W SuperCobra โดย 'พิธีย่ำพระสุริย์ศรี'(sundown ceremony)
ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2020
ก่อนหน้าเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1W
ฝูงบินเฮลิคอปเตอร์โจมตีเบานาวิกโยธินที่773(HMLA-773)
ได้ทำการบินจากสถานีอากาศนาวี Naval Air Station(NAS) Joint Reserve Base ใน New
Orleans มลรัฐ Louisiana เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2020
เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องหมายถึงการสิ้นสุดการประจำการมากกว่า 30ปีสำหรับ ฮ.โจมตี
AH-1W ซึ่งทำการบินครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 1983 ในชื่อเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1T+
ระหว่างที่ถูกใช้ปฏิบัติการโดยนาวิกโยธินสหรัฐฯ AH-1W
ได้ทำการบินสะสมรวมกันเกินกว่า 900,000 ชั่วโมงบินในสมรภูมิต่างๆรวมถึง ยุทธการ
Desert Storm, ยุทธการ Iraqi Freedom และยุทธการ Enduring Freedom
AH-1W
เป็นเฮลิคอปเตอร์โจมตีทุกกาลอากาศทั้งกลางวัน/กลางคืนที่ให้การคุ้มกันระหว่างทางสำหรับเฮลิคอปเตอร์จู่โจมและกองกำลังเคลื่อนที่ทางอากาศของนาวิกโยธินสหรัฐฯ
AH-1W ประจำการในฝูงบินเฮลิคอปเตอร์โจมตีเบานาวิกโยธิน(HMLA: Marine Light Attack
Helicopter Squadron) แปดฝูงบินที่ประกอบด้วยกำลังผสม ฮ.โจมตี AH-1 จำนวน
18เครื่อง และเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป Bell UH-1 จำนวน 9เครื่อง
ระหว่างยุทธการ Desert Storm ในปี 1991 ฮ.โจมตี AH-1W
ได้รับความเชื่อถือด้วยการทำลายรถถัง 97คัน, รถลำเลียงพลหุ้มเกราะและยานพาหนะ
104คัน, ที่กำบังแข็งแรง 16แห่ง และฐานปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน
2แห่งโดยปราศจากการสูญเสีย
บริษัท Bell สหรัฐฯส่งมอบเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1W SuperCobra จำนวน
179เครื่องให้กับนาวิกโยธินสหรัฐฯตั้งแต่ปี 1986 จนถึงปี 1999
AH-1W ติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่น Turboshaft แบบ General Electric T700-GE-401
สองเครื่อง ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 147knots พิสัยทำการ 256nmi(474km)
และเพดานบินสูงสุดที่ 18,700ft.(ถูกจำกัดเพดานบินสูงสุดในการบินปฏิบัติการจริงที่
10,000ft. จากความต้องการ oxygen)
ในทุกรูปแบบการติดตั้งอาวุธและอุปกรณ์ทำการรบพื้นฐาน
ด้วยน้ำหนักบินขึ้นสูงสุดที่ 6,697kg ฮ.โจมตี AH-1W ติดตั้งปืนใหญ่อากาศ M197
Gatling สามลำกล้องหมุนขนาด 20mm พร้อมกระสุน 750นัด
และมีสถานีอาวุธสี่ตำบลที่ปีกคานอาวุธภายนอกลำตัว
ที่สามารถยิงจรวดอากาศสู่พื้น Hydra ขนาด 70mm และ Zuni ขนาด 127mm,
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น BGM-71 TOW และ AGM-114 Hellfire,
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-9 Sidewinder
และอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านการแพร่คลื่น AGM-122 Sidearm
AH-1W ติดตั้งระบบชี้เป้ากลางคืน/กล้องสร้างภาพความร้อน(FLIR: Forward Looking
Infrared) radar ที่ให้ขีดความสามารถการวัดระยะ-ค้นหา/กำหนดเป้าหมายด้วย Laser
และกล้อง
นาวิกโยธินสหรัฐฯได้ทดแทน SuperCobra ที่ปลดประจำการลงทั้งหมดในปี 2020
ด้วยเฮลิคอปเตอร์โจมตี Bell AH-1Z Viper รุ่นใหม่ล่าสุด(https://aagth1.blogspot.com/2018/08/ah-1z-29.html)
ในปี 2018 รัฐบาลสหรัฐฯได้เสนอที่จะขายเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1W SuperCobra
นาวิกโยธินสหรัฐฯที่เป็นส่วนเกินที่เก็บรักษาไว้แก่ลูกค้ามิตรประเทศนานาชาติในการขายรูปแบบ
Foreign Military Sales(FMS) หรือ Direct Commercial Sale(DCS)
การขาย ฮ.โจมตี SuperCobra
ส่วนเกินเหล่านี้สามารถเป็นได้ทั้งการเสริมกำลังต่อฝูงบินเฮลิคอปเตอร์โจมตีที่มีอยู่ของลูกค้าเดิม
หรือมอบขีดความสามารถด้านอากาศยานโจมตีปีกหมุนแก่ลูกค้ารายใหม่ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2018/01/ah-1w.html)