วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561

อินเดียจัดหาเครื่องบินขับไล่ Rafale ฝรั่งเศสในฐานะการจัดซื้อฉุกเฉิน

New Delhi bought 36 Rafales as “emergency” buy
The chief of the Indian air force has defended the Narendra Modi government’s decision to obtain 36 Dassault Rafale fighters off the shelf, after terminating the long-running Medium Multi-Role Combat Aircraft (MMRCA) deal.
https://www.flightglobal.com/news/articles/new-delhi-bought-36-rafales-as-emergency-buy-452461/

French Air Force's Rafale B in RIAT 2009(wikipedia.org)

ผู้บัญชาการทหารอากาศอินเดียได้ปกป้องการตัดสินใจจัดหาเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ฝรั่งเศส 36เครื่องสำหรับกองทัพอากาศอินเดีย(Indian Air Force) ของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีอินเดีย Narendra Modi
หลังจากการยุติโครงการจัดหาเครื่องบินรบพหุภารกิจขนาดกลาง MMRCA(Medium Multi-Role Combat Aircraft) ที่มีการดำเนินการมาอย่างยาวนาน(http://aagth1.blogspot.com/2018/09/offset-dassault-rafale.html)

พลอากาศเอก BS Dhanoa ได้อธิบายการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Rafale ฝรั่งเศส 36เครื่องในปี 2016 ในฐานะ "การจัดซื้อฉุกเฉิน" เพื่อค้ำจุนไม่ให้ฝูงบินขับไล่ของกองทัพอากาศอินเดียลดจำนวนลง กองทัพอากาศอินเดียมีฝูงบินขับไล่ 33ฝูงบินต่อที่ได้รับการอนุมัติความแข็งแกร่งที่ 42.5
"โครงการ MMRCA ได้เข้าสู่ทางตันจากความต่างที่เข้ากันไม่ได้ระหว่าง Dassault ฝรั่งเศสและ Hindustan Aeronautics Limited(HAL) อินเดีย ในส่วนการเพิ่มชั่วโมงคนที่จะใช้โดย HAL ในการผลิต Rafale ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวและค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดซ้ำที่สูงขึ้นสำหรับโรงงานการผลิตใหม่"

ยังคงเป็นประเด็นในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Rafale 126เครื่องซึ่ง HAL อินเดีย และ Dassault ฝรั่งเศส ควรจะรับผิดชอบร่วมกันในการผลิตโดยโรงงานอากาศยานของ HAL ภายใต้สิทธิบัตรการผลิต
Dassault เคยเป็นผู้ชนะในการเข้าแข่งขันตามความต้องการจัดหาในปี 2012 หลังจากที่ได้มีการแข่งกันมาอย่างยาวนานท่ามกลางเครื่องบินขับไล่ชั้นนำหลายแบบ ตามแผนโครงการ MMRCA เดิมจะมี Rafale 18เครื่องที่ผลิตในฝรั่งเศส และอีก 108เครื่องที่ผลิตโดย HAL อินเดีย

พลอากาศเอก Dhanoa ได้กล่าวในการประชุมสื่อล่าสุดในงานครบรอบ 86ปีกองทัพอากาศอินเดียว่า ทางตันดังกล่าวทำให้กองทัพอากาศมีสามทางเลือกคือ รอให้จนกว่าทาง HAL และ Dassault บรรลุข้อตกลงร่วมกันให้ได้,
ออกเอกสารขอข้อเสนอ(RFP: Request for Proposal) ใหม่ และเลื่อนการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบใหม่เข้าประจำการในอีก 6ปีข้างหน้าหรือไม่กว่า, หรือดำเนินการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ "ฉุกเฉิน"

"ถ้าเราจะไปยังเครื่องบินขับไล่แบบอื่นนอกจาก Rafale มันควรจะมีการเลื่อนเรื่องนี้ออกไปอีก 6ปี ดังนั้นรัฐบาลจึงกล้าเลือกขั้นตอนและจัดหา 36เครื่อง ปัญหาเร่งด่วนได้รับการแก้ไขและเราจะได้เครื่องบินขับไล่สมรรถนะและวิทยาการสูง
ที่จะชดเชยขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้างดังกล่าวที่จะจัดหาในช่วงเวลานั้น" พลอากาศเอก Dhanoa กล่าว สิ่งที่ตามมาหลังการยกเลิกโครงการ MMRCA รัฐบาลอินเดียได้ลดข้อกำหนดความต้องการในโครงการจัดหาเครื่องบินไล่ใหมจำนวน 110เครื่อง

ซึ่งเดิมมีข้อกำหนดให้มีผู้เข้าแข่งขันได้เฉพาะเครื่องบินขับไล่เบาเครื่องยนต์เดี่ยว คือเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16V สหรัฐฯ และเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen E สวีเดน เช่นเดียวกับโครงการ MMRCA เครื่องบินขับไล่ที่ได้รับเลือกส่วนใหญ่ควรจะทำการผลิตภายในอินเดีย
ต่อมาในเดือนเมษายน 2018 รัฐบาลอินเดียได้ออกเอกสารข้อข้อมูล(RFI: Request for Information) ใหม่สำหรับสำหรับการจัดหาเครื่องขับไล่ที่นั่งเดียวและเครื่องบินขับไล่สองที่นั่งรวม 110เครื่อง โดยครั้งนี้อนุญาตให้เครื่องบินขับไล่สองเครื่องยนต์เข้าแข่งขันได้ด้วย(http://aagth1.blogspot.com/2018/04/110.html)

โดยมีผู้เข้าแข่งขันขัน 6 รายเดิมคือ เครื่องบินขับไล่ Boeing F/A-18E/F Block III Super Hornet และ F-16 Block 70 สหรัฐฯ, Dassault Rafale F3R ฝรั่งเศส, Eurofighter Typhoon สหราชอาณาจักร-เยอรมนี-สเปน, Gripen E สวีเดน และ United Aircraft Corporation(UAC) MiG-35 รัสเซีย
พลอากาศเอก Dhanoa เสริมว่า เมื่อมีการออกเอกสารขอข้อเสนอ RFP จะทำให้กองทัพอากาศอินเดียดำเนินการประเมินผู้เข้าแข่งขันในโครงการดังกล่าวอย่างเข้มข้น การแข่งขันในโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่ครั้งนี้ควรน่าจะใช้เวลาน้อยกว่าโครงการก่อนหน้าครับ