A still from footage released to Russian TV channels on 3 October shows a transporter erector launcher from an S-300P-series SAM system being unloaded from an An-124-100 transport aircraft, purportedly in Syria. Source: Ruptly
https://www.janes.com/article/83576/russia-announces-syrian-s-300-delivery
รัสเซียประกาศเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2018 ว่าตนได้ส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศพิสัยไกล S-300 (SAM: Surface-to-Air Missile)ให้กับซีเรียแล้ว
ความเคลื่อนไหวนี้ได้เป็นการทำให้เส้นแบ่งระหว่างระบบป้องกันทางอากาศของรัสเซียและระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียที่วางกำลังในประเทศนี้เลือนลางลง
"เราได้เสร็จสิ้นการส่งมอบระบบ S-300 แล้ว มันรวม 49หน่วยของสิ่งอุปกรณ์ที่ได้รวมถึง radar, รถที่บังคับการ, และชุดยิง 4แท่นยิง งานได้เสร็จสิ้นเมื่อวันก่อน เราได้เสร็จสิ้นการส่งมอบทุกระบบแก่ซีเรียแล้ว"
รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย Sergei Shoigu กล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมสภาความมั่นคงรัสเซีย(Russian Security Council) กับประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin
แหล่งข้อมูลเปิดที่ติดตามเครื่องส่งสัญญาณ(transponder) ADS-B ของอากาศยานได้แสดงข้อมูลว่า กองทัพอากาศรัสเซีย(Russian Aerospace Forces) ได้ปฏิบัติการขนส่งทางอากาศครั้งใหญ่ที่ฐานทัพอากาศ Humaymim ทางตะวันออกของซีเรียช่วงวันที่ 18 กันยายน-3 ตุลาคม 2018
โดยมีการทำการบินของเครื่องบินลำเลียงรัสเซียจำนวนมากที่รวมเครื่องบินลำเลียงหนักทางยุทธศาสตร์ไอพ่น IL-76 20เที่ยวบิน, เครื่องบินโดยสารไอพ่น IL-62 2เที่ยวบิน, เครื่องบินโดยสารไอพ่น Tu-154 6เที่ยวบิน และเครื่องบินลำเลียงหนักทางยุทธศาสตร์ไอพ่น An-124 17เที่ยวบิน
การที่รัสเซียส่งมอบระบบ S-300 แก่ซีเรียเห็นได้ชัดว่าเพื่อเป็นการป้องกันไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำกับวันที่ 17 กันยายน 2018 ที่ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ S-200 ซีเรียยิงเครื่องตรวจการณ์ลาตระเวนข่าวกรอง IL-20M รัสเซียตกเหนือทะเล Mediterranean ซึ่งนักบินและลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิต
รัสเซียกล่าวหาว่าเครื่องบินขับไล่ F-16 กองทัพอากาศอิสราเอล(Israeli Air Force) ใช้ IL-20M รัสเซียเป็นที่กำบังระหว่างทำการโจมตีทางอากาศในซีเรีย ข้ออ้างดังกล่าวของรัสเซียได้ถูกปฏิเสธโดยกองทัพอิสราเอล(IDF: Israel Defense Forces)
ตามข้อมูลจากรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย Shoigu ระบบสงคราม Electronic ใหม่ยังได้รับการวางกำลังในอิสราเอล "ผลที่ตามมาปัจจุบันเราควบคุมพื้นที่ส่วนใกล้ถึง 50km และพื้นที่ส่วนไกลตามทิศทางหลักจากที่ซึ่ง(อิสราเอล)เข้ามาภายในพื้นที่ดินแดนของซีเรียได้รับการควบคุมถึง 200km" เขากล่าว เห็นได้ภาพวิดีทัศน์ที่ปรากฎในสื่อโทรทัศน์รัสเซียว่า ชุดแท่นยิงอัตตาจร 4นัดของระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ S-300PM(NATO กำหนดรหัส SA-10E Grumble) กำลังถูกลำเลียงออกจากเครื่องบินลำเลียงหนักทางยุทธศาสตร์ An-124-100 รัสเซียที่สนามบินในซีเรีย
แม้ว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 เหล่านี้เป็นสินทรัพย์ของกองทัพรัฐบาลซีเรีย(Syrian Arab Armed Forces) อย่างเป็นที่ชัดเจน แต่ระบบดังกล่าวจะถูกใช้ปฏิบัติงานโดยกำลังพลของรัสเซียไปก่อนอย่างน้อยจนกว่าที่กำลังพลของซีเรียจะได้รับการฝึกเสร็จ
ทั้งนี้นอกจากเครื่องบินขับไล่ F-16I Sufa กองทัพอากาศอิสราเอลยังได้นำเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 Lockheed Martin F-35A Lightning II 'Adir' ซึ่งมีคุณสมบัติตรวจจับยาก(Stealth) โจมตีทางอากาศในซีเรียเป็นครั้งแรกมาแล้วครับ(http://aagth1.blogspot.com/2018/05/f-35a.html)