วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

Airbus และ Turkish Aerospace ร่วมทีมเพื่อเสนอเครื่องบินฝึกไอพ่น Hürjet ตุรกีแก่สเปน

FEINDEF 2025: Airbus, TA team to bid Hürjet for Spain







A full-scale mock-up of the Hürjet advanced jet trainer was showcased at FIENDEF 2025 in Madrid. (Turkish Aerospace)



บริษัท Airbus ยุโรปและบริษัท Turkish Aerospace(TA) ตุรกีได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU: Memorandum of Understanding) เพื่อเร่งที่การแข่งขันนำเสนอเครื่องบินฝึกไอพ่นขั้นก้าวหน้า Hürjet แก่สเปน
บันทึกความเข้าใจ MOU ด้านอุตสาหกรรมได้รับการลงนาม ณ งานแสดงการป้องกันประเทศและการรักษาความปลอดภัย FEINDEF 2025 ที่จัดขึ้นในกรุง Madrid ระหว่างวันที่ 12-14 พฤษภาคม 2025

การลงนามมีขึ้นตามการลงนามบันทึกความเข้าใจ MOU ระดับประเทศระหว่างรัฐบาลสเปนและรัฐบาลตุรกีในเดือนธันวาคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/mou-hurjet.html)
"ภาคอุตสาหกรรมของสเปนนำโดย Airbus และ Turkish Aerospace ตุรกีได้ลงนามบันทึกความเข้าใจที่ระบุและพัฒนาภาคส่วนที่เป็นไปได้ของความร่วมมือการทำงานร่วมกัน"

"เกี่ยวกับเครื่องบินฝึกไอพ่นขั้นก้าวหน้า, โครงการระบบการฝึก-การรบบูรณาการ(ITS-C: Integrated Training System–Combat) ซึ่งมุ่งเป้าไปเพื่อที่จะทดแทน
เครื่องบินฝึกไอพ่น Northrop F-5M(/EF-5M) ของกองทัพอากาศและอวกาศสเปน(Spanish Air and Space Force, EdAE: Ejército del Aire y del Espacio)" บริษัท Airbus กล่าว

"ความร่วมมือนี้จะนำการออกแบบ, การผลิต, การสนับสนุนในระหว่างประจำการ, และความเชี่ยวชาญการฝึกของ Airbus มาใช้กับการออกแบบทางนวัตกรรมของ Turkish Aerospace
ของ Hürjet เครื่องบินฝึกขั้นก้าวหน้า เครื่องยนต์ไอพ่นเดี่ยว สองที่นั่งเรียงกัน ความเร็วเหนือเสียง supersonic ด้วยขีดความสามารถขั้นก้าวหน้าต่างๆ" บริษัท Airbus เสริม

สื่อตุรกีก่อนหน้านี้ได้เชื่อมโยงความเป็นไปได้การจัดซื้อจัดจ้างเครื่องบินฝึกไอพ่น Hürjet ของสเปนกับการส่งมอบเครื่องบินลำเลียง Airbus A400M Atlas จำนวน 6เครื่องของสเปนที่มีสัญญาแล้วแต่ไม่เป็นที่ต้องการแก่ตุรกี
สเปนและตุรกีต่างเป็นหนึ่งในเจ็ดชาติหุ้นส่วนของโครงการเครื่องบินลำเลียง A400M โดยตุรกีได้รับมอบ A400M ที่ตนสั่งจัดหาครบ 10เครื่องแล้ว ขณะที่สเปนสั่งจัดหา A400M จำนวน 27เครื่องโดยได้รับมอบแล้ว 14เครื่องในปี 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/airbus-a400m.html)

ตามข้อมูลจาก Janes World Air Forces กองทัพอากาศและอวกาศสเปนปัจจุบันมีประจำการด้วยเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง EF-5BM จำนวน 19เครื่องที่ประจำการมาตั้งแต่ปี 1970s
ซึ่งถูกใช้ในฐานะเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ที่มีอายุการใช้งานมานานและล้าสมัยไม่เหมาะกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่เครื่องบินขับไล่สมัยใหม่เช่นเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/airbus-a330-mrtt-3.html)

วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

กองทัพอากาศสหรัฐฯเผยข้อมูลบางส่วนของเครื่องบินขับไล่ครองอากาศยุคอนาคต F-47

USAF chief of staff teases Boeing F-47 performance, fleet size



A graphical representation of the Boeing F-47, announced as winner of the USAF's NGAD contest in March 2025. The aircraft will have a range of over 1,000 n miles, according to USAF Chief of Staff General David Allvin. (USAF)


Anduril's YFQ-44A prototype in the hangar. Both CCA competitors are scheduled to conduct first flights in boreal summer 2025. (Anduril)

พลอากาศเอก David Allvin หัวหน้าคณะเสนาธิการกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ได้เผยแพร่ภาพวาดด้วย computer graphic บนสื่อสังคม online เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 อ้างว่า
เครื่องบินขับไล่ Boeing F-47 ที่ได้รับเลือกใหม่(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/boeing-f-47-ngad.html) อ้างว่าจะมีรัศมีการรบที่เกิน 1,000nmi และความเร็วสูงสุดที่มากกว่า Mach 2

ภาพวาด computer graphic ยังได้เปิดเผยบางส่วนว่า กองทัพอากาศสหรัฐฯมีความตั้งใจที่จะนำเครื่องบินขับไล่ F-47 เข้าประจำการในฝูงบินรวมขนาดอย่างน้อยจำนวน 185เครื่อง
ภาพวาด computer graphic ยังอ้างว่าเครื่องบินขับไล่ F-47 จะเข้าประจำการในช่วงระหว่างปี 2025-2029(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/ngad.html) บริษัท Boeing สหรัฐฯได้กล่าวกับ Janes ก่อนหน้านี้ว่า

การทำการบินครั้งแรกของเครื่องบินขับไล่ F-47 จะถูกดำเนินการขึ้นก่อนปี 2029 ซึ่งเป็นปีที่สิ้นสุดวาระการบริหารงานของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump กองทัพอากาศสหรัฐฯยืนยันกับ Janes เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025
ภาพวาด graphic แสดงความแตกต่างของเครื่องบินขับไล่ยุคที่สี่, เครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้า และเครื่องบินขับไล่ยุคที่หก ขนาดจำนวนเครื่องในประจำการ, ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ และคุณลักษณะการตรวจจับได้ยาก stealth แบบคราวๆ

ตัวอย่างเช่น เครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II ถูกอธิบายว่าเป็นเครื่องบินขับไล่พหุภารกิจที่สามารถทำความเร็วได้ถึง Mach 1.6 ด้วยรัศมีการรบที่ 670nmi และมีคุณลักษณะ 'ตรวจจับได้ยาก' stealth
ขณะที่เครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-22 Raptor ถูกอธิบายว่าเป็นเครื่องบินขับไล่ครองอากาศที่สามารถทำความเร็วได้ถึง Mach 2+ ด้วยรัศมีการรบที่ 590nmi และมีคุณลักษณะ 'ตรวจจับได้ยาก+' stealth+

อากาศยานรบไร้คนขับ General Atomics Aeronautical Systems(GA-ASI) YFQ-42A และอากาศยานรบไร้คนขับ Anduril YFQ-44A ยังมีรายชื่อในฐานะเครื่องบินขับไล่ครองอากาศยุคที่หก
ด้วยรัศมีการรบที่ 700+nmi ความเร็วสูงสุดเป็นข้อมูลปกปิด และมีคุณลักษณะ 'ตรวจจับได้ยาก' stealth+ เหนือค่าสถิติอื่นเครื่องบินขับไล่ F-47 มีคุณลักษณะ 'ตรวจจับได้ยาก++' stealth++

อากาศยานรบไร้คนขับ YFQ-42A และอากาศยานรบไร้คนขับ YFQ-44A ถูกวางแผนที่จะจัดหาเข้าประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐฯเป็นจำนวนราวมากกว่า 1,000เครื่อง ในระหว่างปี 2025-2029 ตามข้อมูลใน infographic
กองทัพอากาศสหรัฐฯได้ประกาศเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2025 ว่าต้นแบบอากาศยานรบทำงานร่วมกัน(CCA: Collaborative Combat Aircraft) ทั้งสองแบบจะทำการบินครั้งแรกในฤดูร้อนปี 2025 นี้

และจะเข้าประจำการ ณ ฐานทัพอากาศ Beale Air Force Base(AFB) ในมลรัฐ California เป็นฐานบินปฏิบัติการแรกของอากาศยานรบทำงานร่วมกัน CCA บริษัท Anduril สหรัฐฯ และบริษัท GA-ASI สหรัฐฯได้ถูกเลือกสำหรับการสร้างต้นแบบในเดือนเมษายน 2024 
และทั้งสองแบบผ่านการทบทวนการออกแบบที่สำคัญ(CDR: Critical Design Review) ในเดือนพฤศจิกายน 2024 โดยเครื่องต้นแบบได้ถูกเริ่มสร้างหลังจากนั้น การคัดเลือกแบบที่เป็นผู้ชนะมีกำหนดการในปีงบประมาณ 2026 ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

Lockheed Martin สหรัฐฯเสนอเครื่องบินขับไล่ F-16 Block 70 ให้เหมาะสมสำหรับฟิลิปปินส์

Special Report: Lockheed Martin tailors F-16 offer for Philippines





Lockheed Martin is offering the PAF F-16 Block 70 combat aircraft equipped with modern avionics and conformal fuel tanks. (Lockheed Martin)



ข้อเสนอเครื่องบินขับไล่ F-16 Block 70 ของบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯแก่ฟิลิปปินส์ได้รวมถึงขีดความสามารถต่างๆและการสนับสนุนที่เหมาะสมสำหรับฟิลิปปินส์ โฆษกบริษัท Lockheed Martin กล่าว

ในเดือนเมษายน 2025 สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหมสหรัฐฯ(DSCA: Defense Security Cooperation Agency) ได้ประกาศว่า(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/th-73a-thrasher.html)
ฟิลิปปินส์ได้ "ร้องขอที่จะซื้อ" เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว F-16C Block 70/72 จำนวน 16เครื่อง และเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง F-16D Block 70/72 จำนวน 4เครื่อง ข้อตกลงที่เป็นไปได้มีมูลค่าที่วงเงินประมาณ $5.58 billion

ตามข้อมูลจาก Jess Koloini ผู้อำนวยการการพัฒนาธุรกิจของกลุ่มเครื่องบินขับไล่บูรณาการ(Integrated Fighter Group) ของบริษัท Lockheed Martin เครื่องบินขับไล่ F-16 ที่บริษัทกำลังวางแผนที่เสนอแก่รัฐบาลฟิลิปปินส์ในนครหลวง Manila
ไม่ใช่เครื่องบินขับไล่ F-16 Block 70 ชุดมาตรฐานแต่จะรวมขีดความสามารถต่างๆที่ได้รับ "การอัดฉีด" เข้าไปในเครื่องบินในฐานะส่วนหนึ่งของการเพิ่มขยายขีดความสามารถของระบบที่กำลังดำเนินอยู่

เครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 70 ที่ได้ถูกเสนอแก่ฟิลิปปินส์จะยังติดตั้งด้วยถังเชื้อเพลิงแนบลำตัว CTF(Conformal Fuel Tank) ซึ่งมีความสอดคล้องกับฟิลิปปินส์เมื่อพิจารณาว่า 
"การกระจายตัวทางภูมิศาสตร์"(geographical dispersion) ของประเทศประกอบไปด้วยหมู่เกาะต่างๆ 7,641เกาะ Koloini กล่าว เธอเสริมว่าถังเชื้อเพลิงแนบลำตัว CFT ไม่ใช่อุปกรณ์มาตรฐานบนเครื่องบินขับไล่ F-16 Block 70

ตามข้อมูลจาก Koloini ระยะปฏิบัติการที่ได้รับการเพิ่มขยายที่มอบให้โดยถังเชื้อเพลิง CFT สนับสนุนการวางแนวคิดการป้องกันหมู่เกาะอย่างครอบคลุม(CADC: Comprehensive Archipelagic Defense Concept)
แนวทางของ CADC มุ่งไปที่การกระจายกำลังทางทหารของฟิลิปปินส์ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ(EEZ: Exclusive Economic Zone) 200nmi ของตน(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/typhon.html)

ถังเชื้อเพลิงแนบลำตัว CFT แรงต้านต่ำได้ผสมผสานความจุที่ 1,705litre(450 US gal, 375 Imp gal) ขณะที่ถังเชื้อเพลิงแนบลำตัว CFT CFT เพิ่มน้ำหนักแก่เครื่องบิน Koloini กล่าวว่าถังเชื้อเพลิงได้ 
"ขยายระยะทำการของเครื่องบินเป็นหลายร้อยไมล์ทะเลโดยปราศจากความต้องการสำหรับเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ"(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/airbus-a330-mrtt-3.html)

กองทัพอากาศฟิลิปปินส์(PAF: Philippine Air Force) ไม่มีขีดความสามารถการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ ตามข้อมูลจาก Janes World Air Forces เครื่องบินรบที่กองทัพอากาศฟิลิปปินส์มีประจำการในปัจจุบัน
รวมถึงเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา Korea Aerospace Industries(KAI) FA-50PH จำนวน 12เครื่องและมีแผนจะจัดหาเพิ่มอีก 12เครื่องยังไม่มีขีดความสามารถการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศในขณะนี้ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/fa-50ph-12.html)

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

มาเลเซียนำเรือฟริเกต LCS ลำที่สอง KD Raja Muda Nala ลงน้ำแล้ว

Malaysia Launches Second Littoral Combat Ship



LCS 2 Raja Muda Nala after being lowered into the water at LUNAS' Lumut shipyard on May 8. (Lumut Naval Shipyard)




LCS 2 Raja Muda Nala berthed next to LCS 1 Maharaja Lela at a shipyard pier (Lumut Naval Shipyard)



เรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela โครงการเรือฟริเกต Littoral Combat Ship(LCS) ลำที่สองสำหรับกองทัพเรือมาเลเซีย(RMN: Royal Malaysian Navy, TLDM: Tentera Laut Diraja Malaysia) ได้ถูกนำลงน้ำเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2025
บริษัท Lumut Naval Shipyard Sdn Bhd(LUNAS) มาเลเซียได้ทำการ "ยกลง"(downslipped) ของเรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela ลำที่สอง LCS 2 เรือฟริเกต KD Raja Muda Nala (หมายเลขเรือ 2502) ณ อู่เรือ Lumut ของตน

ตามที่ได้นำเรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela ลำแรก LCS 1 เรือฟริเกต KD Maharaja Lela (หมายเลขเรือ 2501) ยกเรือลงน้ำในเดือนพฤษภาคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/lcs-kd-maharaja-lela.html)
อู่เรือ LUNAS มาเลเซียอธิยายการปล่อยเรือฟริเกต KD Raja Muda Nala ลงน้ำเมื่อวัน 8 พฤษภาคม 2025 ในฐานะ "การยกลง" โดยเรือได้ลงสู่ผิวน้ำเป็นครั้งแรกในตอนบ่ายของวันเดียวกัน หลังจากได้มีการลงนามรายการตรวจสอบความปลอดภัยการยกเรือลง(Downslip Safety Checklist) ก่อนหน้า 

อู่เรือ LUNAS ประกาศเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 ว่า เรือฟริเกต KD Raja Muda Nala ได้ถูกเคลื่อนย้ายเข้าสู่ lift ยกเรือ(shiplift) ของอู่เรือ ตามการติดตั้ง radar ตรวจการณ์หลัก, เสากระโดงเรือหลัก และส่วนครอบ radome หลักของเรือ
การยกเรือลงน้ำได้รับการเป็นสักขีพยานโดยผู้อำนวยการบริหารบริษัท LUNAS Ir. Azhar Jumaat, ผู้อำนวยการโครงการ LCS ของ LUNAS มาเลเซีย นาวาเอก(เกษียณ) Rosnizam Che Puteh, 

หัวหน้าแผนกวิศวกรรมก่อสร้าง(Construction Engineering Section, KSKP) กองทัพเรือมาเลเซีย นาวาเอก Ir. Malik Hj Sulaiman ผู้อำนวยการโครงการ LCS ของบริษัท Naval Group ฝรั่งเศส Mr. Denis Garnier 
และตัวแทนบริษัท Bureau Veritas(BV) ฝรั่งเศส Mr. Fazmizal Ishak ซึ่งให้บริการด้านการตรวจประเมินและรับรองการก่อสร้างต่างๆ(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/maharaja-lela-lcs-2026.html)

"การบรรลุผลความสำเร็จนี้สะท้อนการรวบรวมความพยายามของทีมที่มีส่วนร่วมทั้งหมดและเป็นเครื่องหมายถึงการเริ่มต้นของระยะต่อไปในการพัฒนาของเรือ เหตุการณ์สำคัญหลักในการเดินทางของเรามุ่งสู่การกำหนดความเป็นเลิศ(Defining Excellence) ผ่านโครงการ LCS"
อู่เรือ LUNAS กล่าวในแถลงการณ์ทางการของการยกเรือลงน้ำ LUNAS ยังเผยแพร่ชุดภาพของเรือฟริเกต KD Raja Muda Nala ตามการ "ยกลงน้ำ" ของตน โดยขณะนี้เรือได้ถูกจอดเทียบท่าใกล้กับเรือฟริเกต KD Maharaja Lela สำหรับงานติดตั้งอุปกรณ์ก่อนหน้าการทดลองเรือโดยผู้สร้างเรือ

"การยกลงน้ำ" ของเรือฟริเกต KD Raja Muda Nala เป็นไปตามกำหนดการตามกำหนดการปัจจุบันสำหรับโครงการเรือฟริเกต LCS กำหนดการสำหรับเรือฟริเกต KD Raja Muda Nala ได้เรียกร้องที่จะเริ่มต้นการทดลองเรือหน้าท่า(HAT: Harbor Acceptance Test) ในเดือนกรกฎาคม 2025
ตามมาด้วยการทดลองเรือในทะเล(SAT: Sea Acceptance Trial) ในเดือนมิถุนายน 2026 โดยการส่งมอบให้แก่กองทัพเรือมาเลเซียจะมีขึ้นในเดือนเมษายน 2027 ควรจะมีขึ้นตามการเสร็จสิ้นการทดลองเรือตามกำหนดการ

เรือฟริเกต KD Raja Muda Nala จะมีสิ่งอุปกรณ์และคุณลักษณะต่างๆเช่นเดียวกับเรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela ลำแรก เรือฟริเกต KD Maharaja Lela เมื่อขึ้นระวางประจำการตามกำหนดการปัจจุบันในสิ้นปี 2026 
โดยเรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela โครงการ Littoral Combat Ship ทั้งหมด 5ลำมีกำหนดที่จะถูกส่งมอบระหว่างปี 2026-2029 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/lunas-mou-pt-pal.html)

คุณลักษณะหลัก เรือฟริเกต KD Maharaja Lela (2501)
ระวางขับน้ำเต็มที่: 3,100 tons 
ความยาวเรือ: 111m (364 ft 2 in)
ความกว้างเรือ: 16m (52 ft 6 in)
กินน้ำลึก: 3.85m (12 ft 8 in)
ระบบขับเคลื่อน: เครื่องยนต์ดีเซลระบบ CODAD(Combined Diesel and Diesel)
ความเร็ว: 28 knots (52 km/h)
ระยะทำการ: 5,000nmi (9,300km) ที่ความเร็วมัธยัสถ์ 15 knots (28 km/h)
กำลังพลประจำเรือ: 138นาย
ระบบอาวุธ:
-ปืนเรือ: Bofors 57mm Mk 3 หนึ่งแท่นยิง
-ปืนรอง: ปืนกล MSI-Defence Seahawk สองแท่นยิง
-อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ: MBDA VL MICA ในท่อยิงแนวดิ่ง VLS(Vertical Launching System) 16นัด
-อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ: อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น Kongsberg Naval Strike Missile(NSM) 8ท่อยิง(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/nsm-lekiu.html)
-แท่นยิง Torpedo สามท่อยิง SEA Torpedo Launcher System(TLS) สองแท่นยิง(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/torpedo-sea-maharaja-lela.html)

วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ญี่ปุ่นเดินหน้านำปืนเล็กยาว Type 20 ใหม่เข้าประจำการ

Japan continues deployments of Type 20 assault rifles







JSDF soldiers with Type 20 rifles at the exercise Cobra Gold 2025 in Thailand. The Type 20 rifle can be configured for either automatic or semi-automatic fire. (JSDF, Howa Machinery Ltd)



ญี่ปุ่นได้เดินหน้าที่่จะเปิดตัวการนำปืนเล็กยาวจู่โจม Type 20 ขนาด 5.56x45mm ใหม่ของตนเข้าประจำการในกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น(JSDF: Japan Self-Defense Forces)
ด้วยการส่งมอบปืนเล็กยาวจู่โจม Type 20 ใหม่แก่ฐานทัพอากาศกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น(JASDF: Japan Air Self-Defense Force) ในจังหวัด Ibaraki

โฆษกจากสำนักงานจัดซื้อจัดจ้าง, วิทยาการ และการส่งกำลังบำรุง(ATLA: Acquisition, Technology & Logistics Agency) กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น กล่าวกับ Janes เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 ว่า
ปืนเล็กยาวจู่โจม Type 20 ที่ไม่เปิดเผยจำนวนได้ถูกส่งมอบให้แก่ฐานทัพอากาศ Hyakuri กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่นในปี 2024 แล้ว

อย่างไรก็ตามโฆษก ATLA ญี่ปุ่นบ่งชี้ว่ากองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่นยังไม่ได้เริ่มต้นการใช้งานปืนเล็กยาวจู่โจม Type 20 ใหม่(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/type-20-2024.html)
"ขณะนี้เรากำลังสร้างการจัดวางตำแหน่งดังนั้นปินเล็กยาว Type 20 จะเข้ามาพร้อมประจำการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" โฆษก ATLA ญี่ปุ่นกล่าว

กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้รับการจัดสรรงบประมาณวงเงิน 3.3 billion Yen($22.8 million) ในปีงบประมาณ 2023 เพื่อการจัดซื้อจัดจ้างปืนเล็กยาวจู่โจม Type 20 จำนวน 8,577กระบอก
ตามข้อมูลงบประมาณกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น โฆษก ATLA ญี่ปุ่นกล่าวกับ Janes ในปี 2023 ว่าการส่งมอบปืนเล็กยาว Type 20 ได้มีกำหนดการในปีงบประมาณ 2024-2025

กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมวงเงิน 4.3 billion Yen สำหรับการจัดหาปืนเล็กยาวจู่โจม Type 20 จำนวน 9,927กระบอกในปีงบประมาณ 2024
และได้รับการจัดสรรงบประมาณเป็นวงเงิน 5.4 billion Yen สำหรับการจัดหาปืนเล็กยาวจู่โจม Type 20 จำนวน 12,907กระบอกในปีงบประมาณ 2025

ตามข้อมูลจาก Janes Weapons: Infantry ปืนเล็กยาวจู่โจม Type 20 ผลิตโดยบริษัท Howa Machinery Limited ญี่ปุ่น ได้ถูกพัฒนาในปี 2015
เพื่อทดแทนปืนเล็กยาวจู่โจม Type 89 ขนาด 5.56x45mm ที่มีอายุการใช้งานมานานในกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น ซึ่งยังสร้างโดย Howa Machinery ญี่ปุ่นเช่นกัน

ในปี 2019 กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้เลือกปืนเล็กยาว Type 20 เหนือปืนเล็กยาว Heckler and Koch HK416A5 เยอรมนี และปืนเล็กยาว FN Herstal SCAR-L เบลเยียม
Type 20 เป็นปืนเล็กยาวจู่โจมแบบปรับการยิงได้, ระบายความร้อนด้วยอากาศ, ป้อนกระสุนด้วยซองกระสุน, ทำงานด้วยระบบแก๊ส โดยมีแบบแผนรูปแบบปืนตามแบบ สามารถจะปรับรูปแบบอัตราการยิงได้ทั้งยิงอัตโนมัติหรือยิงกึ่งอัตโนมัติได้ผ่านคันบังคับการยิงครับ

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

สิงคโปร์จะติดตั้งปืนเรือ 76/62 Strales บนเรือรบของตนท่ามกลางภัยคุกคามจาก drone ที่เพิ่มขยาย

IMDEX 2025: Singapore to arm naval ships with Strales gun system amid proliferation of drones





The 76/62 Strales gun system. Singapore has disclosed plans to arm its naval vessels with the system. (OTO Melara SpA, Wikipedia)

ท่ามกลางภัยคุกคามที่เพิ่มสูงขึ้นจากอากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle) และยานผิวน้ำไร้คนขับ(USV: Unmanned Surface Vehicle)(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/mrcv.html)
กองทัพเรือสิงคโปร์(RSN: Republic of Singapore Navy) จะติดตั้งเรือรบของตนด้วยปืนเรือ Leonardo 76 mm/62 Super Rapid Strales(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/formidable-rss-stalwart-aster.html)

ประเด็นดังกล่าวได้รับการยืนยันโดยผู้บัญชาการกองทัพเรือสิงคโปร์ พลเรือตรี Sean Wat ในแถลงการณ์ที่ถูกเขียนขึ้นที่ได้ถูกส่งมอบให้แก่ Janes เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา
เขาได้ตอบสนองต่อคำถามหลายชุดที่ถูกตั้งขึ้นโดยสื่อก่อนหน้างานแสดงยุทโธปกรณ์ทางทะเล IMDEX Asia 2025 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 พฤษภาคม 2025 ณ Changi Exhibition Centre ในสิงคโปร์

ในการตอบคำถามของเขา พลเรือตรี Wat ชี้ให้เห็นถึงการแพร่ขยายของวิทยาการระบบไร้คนขับต่างๆในฐานะการพัฒนาที่จำเป็นต้องมี "แนวทางการแก้ไขปัญหาทางนวัตกรรมและทางปฏิบัติ"
เพื่อต่อต้านภัยคุกคามต่างๆที่มีขึ้นโดยระบบไร้คนขับต่างๆเหล่านี้ กองทัพเรือสิงคโปร์จะทยอยติดตั้งอาวุธแก่เรือของตนด้วยปืนเรือ 76/62 Strales ที่(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/leonardo-7662-sovraponte-aswf.html

"ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพต่อต้านเป้าหมายเคลื่อนที่เร็วทางอากาศและผิวน้ำต่างๆ นี่ยังมอบแนวทางที่ประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเปรียบเทียบกับอาวุธตามแบบอื่นๆ เช่นอาวุธปล่อยนำวิถีสมรรถนะสูง
เรายังกำลังสำรวจแนวทางอื่นๆด้วย" พลเรือตรี Wat เสริม ระบบ Strales สามารถถูกส่งมอบในฐานะปืนเรือใหม่ทั้งระบบหรือบูรณาการกับปืนเรือ 76/62 ที่ติดตั้งใช้งานแล้วได้

ระบบปืนเรือ 76/62 Strales ได้นำกระสุนนำวิถีขนาดลำกล้องย่อย(subcalibre) แรงต้านต่ำ(low-drag) แบบ DART(Driven Ammunition with Reduced Time of Flight) มาใช้
ซึ่งมีคุณลักษณะชนวนเฉียดระเบิด(proximity fuze) แบบตั้งค่าได้และหน่วยควบคุมปีก canard เพื่อสกัดกั้นภัยคุกคามผิวน้ำและอากาศเคลื่อนที่เร็วต่างๆ

กองทัพเรือสิงคโปร์ได้นำปืนเรือ 76/62 มาติดตั้งใช้งานบนเรือรบผิวน้ำหลักหลายแบบของตน ขณะที่ไม่ได้รับการกล่าวถึงโดย พลเรือตรี Wat โดย Janes เข้าใจว่าเรือรบหลักเหล่านี้ได้รวมถึง
เรือฟริเกตชั้น Formidable ทั้ง 6ลำที่เข้าประจำการในช่วงปี 2007-2009 และเรือรบอเนกประสงค์ MRCV(Multirole Combat Vessel) จำนวน 6ลำที่อู่เรือบริษัท ST Engineering สิงคโปร์กำลังสร้าง ในตำแหน่งปืนหลักที่หัวเรือครับ

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

SIMA เปรูและ Hyundai HD HHI เกาหลีใต้ลงนามข้อตกลงการพัฒนาเรือดำน้ำ

Peru's SIMA and Korea's HHI sign agreement on submarine technology


As Peru looks to develop a new fleet of submarines, it is working on modernising its current Angamos-class boats, such as the one pictured here. (US Navy)



Peruvian shipyard SIMA and South Korea's HHI signed a memorandum of agreement (MOA) on 25 April will involve the design of the new HDS-1590 MGP submarine. (Peruvian Navy)

SIMA(Servicios Industriales de la Marina) อู่ต่อเรือของรัฐบาลเปรูและบริษัท HD Hyundai Heavy Industries(HHI) สาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOA: Memorandum of Agreement) เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2025
ที่มุ่งเป้าไปที่ "โครงการต่างๆและการพัฒนาร่วมกันในอนาคต" ของวิทยาการเรือดำน้ำ(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/hanwha-ocean-hyundai-hd-hhi.html) อู่เรือ SIMA เปรูยืนยันในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันนั้น

การลงนามที่มีขึ้นระหว่านิทรรศการกลาโหม SITDEF 2025 ซึ่งจัดขึ้น ณ กองบัญชาการกองทัพบกเปรู(Peruvian Army, EP: Ejército del Perú) ในนครหลวง Lima ระหว่างวันที่ 24-27 เมษายน 2025 ที่ผ่านมา
บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOA เป็นก้าวสำคัญในความร่วมมือระหว่าง SIMA เปรู และบริษัท HHI สาธารณรัฐเกาหลีสำหรับการผลิตเรือดำน้ำที่เป็นไปได้(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/hd-hhi.html)

ทั้ง SIMA เปรู และ HHI สาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU: Memorandum of Understanding) เกี่ยวกับวิทยาการเรือดำน้ำในเดือนพฤศจิกายน 2024
ระหว่างการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก APEC(Asia-Pacific Economic Cooperation) ในนครหลวง Lima ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2024

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOA ใหม่ "เป็นการเพิ่มขยายบันทึกความเข้าใจ MOU" SIMA เปรูอธิบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อตกลงใหม่ "สร้างตารางเวลาสำหรับการปฏิบัติการร่วมต่างๆ"
อย่างเช่น "การออกแบบของขีดความสามารถเรือดำน้ำใหม่ ดังนั้นจึงเป็นการเปิดโอกาสความเป็นไปได้สำหรับโครงการการพัฒนาร่วมในอนาคตในภาคส่วนทางยุทธศาสตร์นั้น" อู่เรือ SIMA เปรูกล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2025

กองทัพเรือเปรู(Peruvian Navy, MGP: Marina de Guerra del Perú) มีประจำการด้วยเรือดำน้ำแบบ Type 209 จำนวน 6ลำที่สร้างโดยเยอรมนีตั้งแต่ปี 1970s 
อู่เรือ SIMA ได้ดำเนินการโครงการปรับปรุงความทันสมัยเพื่อยืดอายุการใช้งานของเรือดำน้ำชั้น Angamos(Type 209/1200) จำนวน 4ลำ คือเรือดำน้ำ SS-31 BAP Angamos, เรือดำน้ำ SS-32 BAP Antofagasta, เรือดำน้ำ SS-33 BAP Pisagua และเรือดำน้ำ SS-34 BAP Chipana

เรือดำน้ำที่มีอายุการใช้งานมากที่สุดของกองทัพเรือเปรูคือเรือดำน้ำชั้น Islay(Type 209/1100) จำนวน 2ลำ คือเรือดำน้ำ SS-35 BAP Islay และเรือดำน้ำ SS-36 BAP Arica
กองทัพเรือเปรูกล่าวว่า MOA จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับ "การออกแบบของเรือดำน้ำ HDS-1590 MGP ใหม่" ใน post ที่เผยแพร่บนสื่อสังคม online ทั้ง Facebook และ X(Twitter เดิม) เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2025 ครับ

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

อังกฤษกลับมาได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35B ใหม่หลังเกิดช่องว่างเป็นปี

UK resumes receipt of F-35s





One of two new Lockheed Martin F-35B Lightning jets delivered to RAF Marham on 8 May. (Crown Copyright)

สหราชอาณาจักรได้กลับมาเริ่มการรับมอบเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35B Lightning อีกครั้งหลังเกิดช่องว่างเกินปีกว่า(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/f-35b.html)
โดยได้รับการสนับสนุนจากเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Airbus Voyager เครื่องบินขับไล่ F-35B จำนวน 2เครื่อง(หมายเลขแพนหาง/หมายเลขเครื่อง 037/ZM171 และ 038/ZM172)

ได้ทำการบินจากโรงงานอากาศยานสายการผลิต Forth Worth ของบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ ในมลรัฐ Texasมายังฐานทัพอากาศ RAF Marham กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(RAF: Royal Air Force) ในแคว้น England เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2025
เหตุการณ์เป็นเครื่องหมายถึงการมาถึงใหม่ครั้งแรกของเครื่องบินขับไล่ F-35B ฐานทัพอากาศ RAF Marham ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/f-35-lightning-ii.html)

ซึ่งเวลานั้นเครื่องบิน F-35B เครื่องสุดท้ายของกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรที่ถูกสร้างในมาตรฐาน Technology Refresh-2(TR-2) ได้ถูกส่งมอบ ตามความล่าช้าต่อหลายโครงการนานาชาติ 
เครื่องบิน F-35B ล่าสุดเหล่านี้ขณะนี้ได้ถูกส่งมอบในมาตรฐาน TR-3(Technology Refresh-3) ล่าสุด(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/f-35a-tr-3.html)

เครื่องบินขับไล่ F-35 รุ่นมาตรฐาน TR-3 มีวัตถุประสงค์ที่จะมอบพลังการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นที่จำเป็นสำหรับมาตรฐานเครื่อบินขับไล่ F-35 Block 4 ที่กำลังจะมาถึง
(ที่ยังรู้จักในชื่อการพัฒนาขีดความสามารถและส่งมอบ C2D2: Continuous Capability Development and Delivery)(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/f-35b-das.html)

นอกเหนือจากระบบตรวจจับและระบบอาวุธโดยทั่วไปที่ได้รับการเพิ่มขยายมาตรฐานเครื่อบินขับไล่ F-35 Block 4 สำหรับมีความหมายโดยเฉพาะในการบูรณาการของ
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา(BVRAAM: Beyond-Visual-Range Air-to-Air Missile) แบบ MBDA Meteor(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/f-35b-meteor.html) และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น SPEAR 3(Selected Precision Effects At Range 3)

การมาถึงของเครื่องบินขับไล่ F-35B สองเครื่องใหม่ ณ ฐานทัพอากาศ RAF Marham หมายความว่าขณะนี้สหราชอาณาจักรมี F-35B ในประจำการแล้ว 32เครื่อง(1เครื่องสูญเสียในอุบัติเหตุปี 2021 ขณะที่ 4เครื่องอยู่ในฝูงบินทดสอบและประเมินค่า 17(17 Test and Evaluation Squadron) ที่สหรัฐฯ)
การส่งมอบของเครื่องบินขับไล่ F-35B จำนวน 48เครื่องตามสัญญาจนถึงขณะนี้มีกำหนดจะเสร็จสิ้นภายหลังในปี 2025 โดย F-35B ชุดที่สองจำนวน 27เครื่องคาดว่าจะมีตามมา รวมถึงการทดแทนสำหรับเครื่องที่เสียไป สหราชอาณาจักรจะมีฝูงบินเครื่องบินขับไล่ F-35B ทั้งหมด 75เครื่องภายในต้นปี 2030s ครับ