วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ออสเตรเลียวางแผนจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีใหม่ทดแทน Tiger ARH

Australia lays out plans for new attack helicopters



The Tiger lands on the HMAS Canberra


The Bell AH-1Z US Marine Corps
The Australian Department of Defence has issued a request for information (RFI) related to a future acquisition of up to 29 attack helicopters to replace the army's 22 Airbus Helicopters Tigers.
https://www.flightglobal.com/news/articles/australia-lays-out-plans-for-new-attack-helicopters-459565/

กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียได้ออกเอกสารขอข้อมูล(RFI: Request for Information) เกี่ยวข้องกับการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีใหม่ในอนาคตจำนวนถึง 29เครื่อง เพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์โจมตี Airbus Helicopters Tiger จำนวน 22เครื่องของกองทัพบกออสเตรเลีย(Australian Army)
เอกสารขอข้อมูล RFI ได้ถูกออกภายใต้การอุปถัมภ์ของความต้องการโครงการ LAND4503 ออสเตรเลีย เป็นที่คาดการณ์ไว้ว่าการส่งมอบจะมีขึ้นได้ในกลางปี 2020s

ความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) กับฝูงบิน ฮ.โจมตีใหม่จำนวน 12เครื่องได้ถูกวางแผนสำหรับปีงบประมาณ 2025-2026 ของออสเตรเลีย
โดยความพร้อมปฏิบัติการเต็มอัตรา(FOC: Final Operational Capability) ของ ฮ.โจมตีใหม่จำนวนถึง 29เครื่องมีกำหนดในปี 2028-2029 ใน ฮ.จำนวน 29เครื่องมี 5เครื่องที่จะวางกำลังแยกต่างหากและถูกใช้สำหรับการฝึก

บริษัท Bell สหรัฐฯยืนยันว่าตนจะตอบรับด้วยการเสนอเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z Viper(https://aagth1.blogspot.com/2017/03/bell-ah-1z-viper-tiger-arh-uh-1y-venom.html) บริษัท Airbus Helicopters ยุโรปยังยืนยันความสนใจของตน
"Airbus มุ่งมั่นเต็มที่จะที่คงให้ ฮ.โจมตี Tiger ประจำการในออสเตรเลียเกินปี 2025 ซึ่งเป็นกรอบระยะเวลาล่าสุดตามสัญญาขยายการสนับสนุนอายุการใช้งาน เรามั่นใจว่าเราสามารถเสนอราคาต่อประสิทธิภาพในการปรับปรุงความทันสมัยของระบบที่จะทำให้มันประจำการไปถึงปี 2040s"

บริษัท Boeing สหรัฐฯจะตอบรับด้วยการให้ข้อมูลเฮลิคอปเตอร์ AH-64E Apache "Boeing จะกำลังส่งมอบข้อมูลของ AH-64E Apache ในการตอบสนองต่อการออกเอกสารขอข้อมูลล่าสุด
เฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64E Apache เป็นระบบที่มีราคาเหมาสม, ได้รับการพิสูจน์แล้ว และมีความเสี่ยงต่ำ ที่ตรงหรือเกินขีดความสามารถความต้องการของเครือรัฐออสเตรเลียภายใต้โครงการ LAND4503"

เอกสาร RFI เน้นหนักว่าเฮลิคอปเตอร์โจมตีใหม่จะต้องเป็นระบบที่เสร็จสมบูรณ์แล้วจึงทำให้ลดความเสี่ยงของโครงการ โดยมีสามภารกิจหลักคือการลาดตระเวน, การโจมตี และการรักษาความปลอดภัย
มีการให้ความสำคัญเน้นหนักในภาคส่วน เช่น ขีดความสามารถการวางกำลังนอกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขีดความสามารถในการปฏิบัติการจากเรือ มีขีดความสามารถที่จะทำการติดต่อสื่อสารกับระบบอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ และมีความเข้ากันได้กับระบบไร้คนขับ(Unmanned Systems)

ออสเตรเลียจะต้องการให้ ฮ.โจมตีใหม่มีขีดความสามารถในการโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน, เป้าหมายเรือผิวน้ำ และเป้าหมายทางอากาศ ทั้งการใช้อาวุธแบบ "พลังงานจลน์และไม่ใช่พลังงานจลน์"
เช่นเดียวกับขีดความสามารถในการวางกำลังอย่างรวดเร็วถ้าจำเป็น โดยการใช้ทั้งการขนส่งทางอากาศและการขนส่งทางทะเล

เฮลิคอปเตอร์โจมตีใหม่ยังจำเป็นต้องสามารถปฏิบัติการจากเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(LHD: Landing Helicopter Dock) ทั้งสองลำของกองทัพเรืออสเตรเลีย(RAN: Royal Australian Navy) คือ L02 HMAS Canberra และ L01 HMAS Adelaide สำหรับการขยายระยะเวลาปฏิบัติการ
ออสเตรเลียยังร้องขอเป็นการเฉพาะสำหรับคุณสมบัติที่ทำให้ ฮ.โจมตีสามารถจัดเก็บและบำรุงรักษาเครื่องในเรือได้ เช่นเดียวกับคุณสมบัติการออกแบบที่สนับสนุนปฏิบัติการยกพลขึ้นบก

ความต้องการสำหรับการวางกำลังเฮลิคอปเตอร์โจมตีของกองทัพบกออสเตรเลียบนเรือของกองทัพเรือออสเตรเลียได้รับการเน้นย้ำเด่นชัดในการวางกำลัง ฮ.โจมตี Tiger จำนวน 4เครื่องบนเรือ LHD HMAS Canberra ระหว่างการวางกำลังในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ล่าสุด
โครงการ LAND4503 เป็นโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ใหม่โครงการหลักที่สองของกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียที่กำลังดำเนินการอยู่

ในเดือนกันยายน 2018 กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียได้ออกเอกสารขอข้อมูลสำหรับเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติการพิเศษจำนวน 20เครื่อง ซึ่งสามารถขนส่งไปกับเครื่องบินลำเลียงหนักทางยุทธศาสตร์ Boeing C-17A กองทัพอากาศออสเตรเลีย(RAAF: Royal Australian Air Force) ได้ 4เครื่อง
ความสนใจขั้นต้นมุ่งเน้นไปที่การบรรทุกชุดปฏิบัติการหน่วยรบพิเศษโดยระบบอาวุธจะมีตามมาภายหลัง ความต้องการจัดหาโครงการนี้ได้รับความสนใจจากบริษัท Bell สหรัฐฯ, บริษัท Airbus Helicopters ยุโรป, บริษัท Leonardo อิตาลี-สหราชอาณาจักร และบริษัท Boeing สหรัฐฯครับ