วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

อินโดนีเซียยังมองที่จะลดค่าใช้จ่ายโครงการเครื่องบินขับไล่ KF-X/IF-X กับเกาหลีใต้

Jakarta still seeking concessions on K-FX/I-FX costs


Jakarta continues to press for concessions on the price of involvement in the Korea Aerospace Industries (KAI) K-FX/I-FX fighter programme.
https://www.flightglobal.com/news/articles/jakarta-still-seeking-concessions-on-k-fxi-fx-cost-459837/


อินโดนีเซียเดินหน้าที่จะมองหาลดค่าสิทธิประโยชน์ของการมีส่วนร่วมการลงทุนในโครงการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ Korean Fighter Xperiment/Indonesia Fighter Xperiment (KF-X/IF-X) ร่วมกับบริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลี
รายงานล่าสุดโดยสำนักข่าว Antara อินโดนีเซียอ้างคำพูดของรัฐมนตรีประจำกระทรวงอินโดนีเซีย Wiranto ตามการตั้งข้อสังเกตว่าการจ่ายครั้งหน้าจะไม่เป็นเงินสด แต่เป็นไปได้ที่จะเป็นข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนที่เกี่ยวข้องกับยุทโธปกรณ์ทางทหารที่อินโดนีเซียผลิตในประเทศ

ในปี 2018 รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานด้านการเมือง, กฎหมาย และความมั่นคง Winrato วางแผนการเปลี่ยนแปลงผลประโยชน์ของอินโดนีเซียที่จะเจรจาการมีส่วนร่วมในโครงการเครื่องบินขับไล่ KF-X/IF-X ใหม่(https://aagth1.blogspot.com/2019/01/kf-xif-x.html)
ในต้นปี 2019 บริษัท KAI สาธารณรัฐเกาหลียืนยันว่าตนได้รับวงเงิน 130 billion Korean Won($117 million) จากกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย จึงเห็นได้ว่าเป็นการนำสิ่งต่างๆกลับสู่เส้นทาง(https://aagth1.blogspot.com/2019/01/kf-x.html)

อย่างไรก็ตามรายงานในสื่อเกาหลีใต้เมื่อ 22 กรกฎาคม 2019 ตั้งข้อสังเกตว่าตอนนี้อินโดนีเซียได้ลงทุนในโครงการเครื่องบินขับไล่ KF-X/IF-X แล้ว 300 billion Korean Won(https://aagth1.blogspot.com/2018/10/kf-xif-x.html)
มีการอ้างข้อมูลทางการจากสำนักงานโครงการจัดหากลาโหม(DAPA: Defense Acquisition Program Administration) สาธารณรัฐเกาหลีว่ารัฐบาลอินโดนีเซียได้จ่ายวงเงินลงทุนในโครงการ KF-X/IF-X แล้วเพียง 220 billion Korean Won

ภายใต้กรอบข้อตกลงเดิมของโครงการเครื่องบินขับไล่ KF-X/IF-X อินโดนีเซียจะลงทุนเป็นวงเงิน 1.6 trillion Korean Won($1.9 billion) ของโครงการที่มีราคาต่อเครื่องที่ 8.5 billion Korean Won
สื่อเกาหลีใต้รายงานเสริมว่าการทบทวนการออกแบบสำคัญของโครงการจะมีขึ้นในเดือนกันยายน 2019 โดยทั้งอินโดนีเซียและสาธารณรัฐเกาหลีจะทบทวนการผลิตเครื่องบินต้นแบบที่ยังค้างอยู่

ในปี 2018 แหล่งข่าวเกาหลีใต้กล่าวถึงมุมมองที่แพร่หลายภายในเกาหลีใต้ว่า อินโดนีเซียได้ยืนยันที่จะมีการใช้โครงการเครื่องบินขับไล่ KF-X เพื่อบีบคั้นสิทธิประโยชน์ของตนกับเกาหลีใต้
เช่น การให้เกาหลีใต้จัดหาเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีสองเครื่องยนต์ใบพัด Airbus Defence & Space CN235 เพิ่มเติม ที่ผลิตภายใต้สิทธิบัตรโดย Indonesian Aerospace(PTDI: PT Dirgantara Indonesia) รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมอากาศยานใน Bandung อินโดนีเซีย

Fleets Analyzer แสดงข้อมูลว่าสาธารณรัฐเกาหลีเป็นลูกค้าหลักรายหนึ่งสำหรับเครื่องบินลำเลียง CN235 โดยกองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลี(ROKAF: Republic of Korea Air Force) มีเครื่องบินลำเลียง CN235 ประจำการ 8เครื่อง โดยมีแผนจะจัดหาเพิ่ม 6เครื่อง
ขณะที่หน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้(Korea Coast Guard) มีเครื่องบินลำเลียง CN235 ประจำการ 4เครื่อง โดยมีแผนจะจัดหาเพิ่ม 2เครื่อง

เครื่องบินขับไล่สองเครื่องยนต์ไอพ่น KF-X ถูกกำหนดจุดหมายปลายทางที่จะเป็นโครงการจัดหาทางกลาโหมที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเกาหลี โดยเครื่องบินขับไล่ KF-X จำนวน 120เครื่องจะถูกส่งมอบให้กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลี
และเครื่องบินขับไล่ IF-X ที่มีพื้นฐานจาก KF-X จำนวน 80เครื่องจะถูกส่งมอบให้กองทัพอากาศอินโดนีเซีย(Indonesian Air Force, TNI-AU: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Udara)

KF-X Block I ได้ถูกระบุว่าเป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5 โดยมีขีดความสามารถบางส่วนที่ตกอยู่ระหว่างเครื่องบินขับไล่ยุคที่4 Lockheed Martin F-16 Fighting Falcon และเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 Lockheed Martin F-35 Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) สหรัฐฯ
การทำการบินครั้งแรกของเครื่องบินขับไล่ KF-X เครื่องต้นแบบกำหนดแผนที่จะมีขึ้นในกลางปี 2022 โดยการทดสอบและการประเมินค่าจะดำเนินการไปจนถึงปี 2026 ครับ