วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ความคืบหน้าโครงการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยในปี ๒๕๖๘-๑




U.S. Air Force (USAF) the F-35A Lightning II Demonstration Team, executes precision aerial maneuvers during a practice airshow at Hill Air Force Base, Utah, Dec. 5, 2024. (USAF)
Thailand's local media reported that F-35A Demo team USAF to be participated Royal Thai Air Force (RTAF) 88th Years Anniverasy Airshow at Wing 6 Don Muang, Bangkok, Thailand on 7-8 March 2025.

F-35 LIGHTNING II DEMONSTRATION TEAM  จากสหรัฐอเมริกา จะมาร่วมแสดงในงานฉลองครบรอบ 88 ปีของกองทัพอากาศไทย ในเดือนมีนาคมนี้ นับเป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง!

Lockheed Martin ได้ส่งมอบ F-35 เครื่องที่ 1,000 ในปี 2024 ... F-35 เครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัยที่สุดในโลก ด้วยการส่งมอบ F-35 ในทุกรุ่นมากกว่า 1,000 เครื่องจนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2024 ที่ผ่านมาได้มีการส่งมอบให้กับลูกค้าไปจำนวน 110 เครื่อง ให้กับกองทัพสหรัฐฯและพันธมิตรของอเมริกาทั่วโลก 
มันเป็นมากกว่าเครื่องบินขับไล่ แต่เป็นตัวคูณกำลังอย่างแท้จริง ด้วยระบบเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัยที่สุดในบรรดาเครื่องบินรบใดๆ ในประวัติศาสตร์...คนไทยเราจะได้ชมการบินสาธิตสมรรถนะของ F-35 ในเดือนมีนาคมนี้...




People's Liberation Army Air Force (PLAAF) the J-10CY and J-10SY August 1st aerobatic team (seen here at Airshow China 2024 at Zhuhai in November 2024) to be participated Royal Thai Air Force (RTAF) 88th Years Anniverasy Airshow at Wing 6 Don Muang, Bangkok, Thailand on 7-8 March 2025. (RTAF and China Bugle, the PLA News Media Center)

คณะผู้แทนจากกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าสำรวจพื้นที่เตรียมจัดแสดงการบินของหมู่บิน August 1st เนื่องในโอกาสครบรอบ 88 ปี กองทัพอากาศ
ระหว่างวันที่ 15-19 มกราคม 2568 Senior Colonel Gu Kesong Assistant to Chief of Staff, Central Theater Command Air Force of PLA ในฐานะหัวหน้าคณะ พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางมาประเทศไทย 
เพื่อประชุมเตรียมการและร่วมสำรวจพื้นที่ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดแสดงการบินผาดแผลงของหมู่บิน “August 1st”เนื่องในโอกาสครบรอบ 88 ปี กองทัพอากาศ และครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปี ไทย-จีน ณ กองบิน 6 และพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ 
โดยคณะผู้แทนจากกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน ยังเข้าเยี่ยมคำนับผู้บัญชาการทหารอากาศ เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดีต่อกันระหว่างกองทัพอากาศ ทั้ง 2 ประเทศ 
ทั้งนี้ การจัดงานครบรอบ 88 ปี กองทัพอากาศ มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคม 2568 ณ กองบิน 6 ดอนเมือง

งานครบรอบ 88 ปีทอ.ไทย มีอากาศยานมาโชว์ถึง 29 แบบ ...ความคืบหน้าของงานครบรอบ 88 ปี กองทัพอากาศไทย โดยจะมีการจัดงานวิชาการ การเสวนาวิชาการด้านยุทธการ การเสวนาวิชาการด้านกิจการอวกาศ และนิทรรศการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ในวันที่ 7 มี.ค. และงานครบรอบ 88 ปี ทอ. ในวันที่ 8 มี.ค.ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 และ ฝูงบิน 601 กองบิน 6 
มีการแสดงการบิน การบินผ่านในรูปแบบหมู่บิน 8 ของเครื่องบิน F-16, Gripen, T-50 TH ของกองทัพอากาศไทย การแสดงการบินของฝูงบินผลาดแผลง August 1 ST จากทอ.จีน, Surya Kirun จากทอ.อินเดีย และ F-35A จากทอ.สหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงอากาศยาน แบบต่างๆทั้งของทอ.ไทยและทอ.ต่างประเทศเช่น 
F-35A และ KC-135 จาก ทอ.สหรัฐ, F-15SG, F-16C/D และ A330-MRTT จาก ทอ.สิงคโปร์, Hawk Mk132 และ C-130 จาก ทอ.อินเดีย J-10A และ Y-20 จาก ทอ.จีน รวมอากาศยานที่เข้าร่วม ทั้งสิ้น 29 แบบ ด้วยกัน นับเป็นงานด้านการบินและแอร์โชว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของประเทศไทย งานนี้คนที่รักการบินต้องไม่พลาดมาชมกันให้ได้…

งานแสดงการบิน Airshow ที่จะจัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ ๘๘ปีกองทัพอากาศไทย ณ กองบิน๖ ดอนเมือง ระหว่างวันที่ ๗-๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ได้รับการเปิดเผยจากกองทัพอากาศไทยและสื่อของไทยว่าจะมีหลายประเทศที่ส่งอากาศยานของตนเข้าร่วมจัดแสดงภาคพื้นดินและแสดงการบินภาคอากาศในงาน เช่น สหรัฐฯ จีน สวีเดน อินเดีย และสิงคโปร์ เป็นต้น
ในส่วนของสหรัฐฯนั้นมีรายงานว่าจะเป็นครั้งแรกที่ทีมแสดงสาธิตเครื่องบินขับไล่ F-35A Lightning II Demonstration Team ฝูงบินขับไล่ที่๓๘๘(388th Fighter Wing) กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) จะมาทำการแสดงในไทยเป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-35A มาวางกำลังในการฝึกผสม Cope Tiger 2024 ที่กองบิน๑ โคราชในปี พ.ศ.๒๕๖๗(2024)
ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมากองทัพอากาศสหรัฐฯได้เริ่มนำเครื่องบินขับไล่ F-35A วางกำลังในการฝึกและเข้าร่วมงานแสดงการบินในกลุ่มชาติอินโด-แปซิฟิกเช่นอินเดีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทยมากขึ้น(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/cope-tiger-2024.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/03/ftx-cope-tiger-2024.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/03/f-35a-cope-tiger-2024.html)

ขณะที่กองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAAF: People's Liberation Army Air Force) ก็ยืนยันการส่งเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว J-10CY และเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง J-10SY หมู่บินผาดแผลง August 1st มาร่วมงาน RTAF88 ด้วยหลังจากที่เคยมาแสดงในไทยเป็นครั้งแรกที่กองบิน๑ ระหว่างการฝึกผสม Falcon Strike 2015 ในปี พ.ศ.๒๕๕๘(2015) ซึ่งขณะนั้นยังใช้เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียว J-10AY รุ่นก่อนอยู่
เครื่องบินขับไล่ J-10CY รุ่นสำหรับการบินผาดแผลงหมู่บิน August 1st ที่มีพื้นฐานจากเครื่องบินขับไล่ J-10C รุ่นล่าสุดเพิ่งจะเข้าร่วมการแสดงการบินในงาน LIMA 2023 ที่มาเลเซียในปี พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ซึ่งได้มีการแวะพักระหว่างเดินทางไปกลับที่กองบิน๖ ในไทยด้วย ด้านสวีเดนเองมีรายงานว่าอาจจะส่งเครื่องบินขับไล่ SAAB JAS-39E Gripen E เครื่องจริงมาเปิดตัวแสดงสาธิตในไทยเป็นครั้งแรกด้วย
นี่ยังรวมถึงกองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force) ที่จะส่งเครื่องบินฝึกไอพ่น Hawk Mk 132 ฝูงบินผาดแผลง Surya Kiran และกองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force) ที่จะนำเครื่องบินขับไล่ F-15SG และเครื่องบินขับไล่ F-16C/D มาร่วมงานในไทยด้วย ถ้าได้รับการยืนยันทั้งหมดนั่นจะสร้างแปลกใจมากที่มีทั้งเครื่องบินขับไล่สหรัฐฯ, จีน และสวีเดนมาจัดแสดงในงาน airshow เดียวกันครับ 
(อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าจะมีผู้ไม่หวังดีและสื่อไร้จรรยาบรรณบางกลุ่มที่ต้องการจะลดความน่าเชื่อถือการจัดงานของกองทัพอากาศไทยโดยกล่าวหาว่าเป็นไปไม่ได้ที่สหรัฐฯหรือสวีเดนจะส่ง F-35 หรือ Gripen E มาไทยร่วมงานเดียวกับจีนรวมถึงอินเดียด้วย เพราะประเทศไทยไม่ได้มีความสำคัญในเวทีโลกขนาดนั้น ที่ผ่านมาผู้ไม่หวังดีต่อชาติเหล่านี้ก็เป็นกลุ่มเดียวกับที่พยายามจะสร้างข่าวเท็จข้อมูลปลอมต่างๆ
เพื่อหวังผลในการแพร่กระจายความเชื่อในหมู่ชาวไทยและชาวต่างชาติให้เชื่อว่าไทยเป็นประเทศที่ย่ำแย่ยากจนล้าหลังไร้การพัฒนาจนน่าสิ้นหวังไม่มีอะไรดีเลย ซึ่งแน่นอนมันไม่ใช่ความจริง! แต่คนมักจะเชื่อสิ่งที่สื่อบอก และในยุคสื่อสังคม online ใครก็ทำตัวเป็นสื่อได้รวมถึงพวกโจรผู้ร้าย และเพราะมีคนเชื่อพวกนี้บางรายก็ได้กลายเป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิดและเข้าไปใช้อำนาจแทนประชาชนเจ้าของประเทศแล้ว)








The Royal Thai Air Force (RTAF) perform Airshow with its new Beechcraft AT-6TH Wolverine light attack aircrafts of 411th Squadron, Wing 41 Chiang Mai RTAF base for first time during Children's Day 2025 on 11 January 2025 at Wing 6 Don Muang and Wing 41 Chiang Mai, Thailand. (Sompong Nondhasa, Chittapon Kaewkiriya)
LAST SOLO TR CLASS I, new 7 RTAF pilot Class I concluded transition and last solo flight for AT-6TH Wolverine light attack aircrafts of 411th Squadron, Wing 41 Chiang Mai on 8 January 2024. The delivery of 8 ordered AT-6TH Wolverine to 411th Squadron, Wing 41 RTAF base to be concluded in February 2025. 
All 8 of AT-6TH that ordered in 2021 to be complete delivered to RTAF in April 2025.







ชมภาพชุด AT-6 SOLO ...เครื่องบินโจมตีเบา AT-6 "WOLFVERINE" หมายเลข 41104 ฝูงบิน 411 กองบิน 41เชียงใหม่ บินโดย น.ต.สมัชชา คุณมาศ "MATCHA" มีชั่วโมงบินรวม 1,965 ชม.บิน ชั่วโมงบินเฉพาะแบบ 110 ชม.บิน AT-6 นับเป็นเขี้ยวเล็บใหม่ล่าสุดของทอ.ไทย มาบินโชว์ในงานวันเด็กแห่งชาติ เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ม.ค. 2568 ที่ฝูงบิน 601 กองบิน 6 ดอนเมือง ...Photo Sompong Nondhasa

พระเอกของกองบิน 41 ในปีนี้ครับ
Beechcraft AT-6TH Wolverine
Royal Thai Air Force
41101

Wolverine เครื่องบินโจมตีเบา (AT-6TH) เขี้ยวเล็บใหม่แห่งกองทัพอากาศไทย
กองทัพอากาศนำเสนอขีดความสามารถและภารกิจของเครื่องบินโจมตีเบา (AT-6TH)  ในกิจกรรมเครือข่ายสัมพันธ์ ทอ.ประจำปี 2568  ณ กองบิน 41 โดยผู้บัญชาการทหารอากาศนำ คณะสื่อมวลชน เข้าชมสมรรถนะ และภารกิจ ของอากาศยาน AT-6TH (ประจำการฝูงบิน 411 บน.41) 
ในการป้องกันประเทศ  การบรรเทาสาธารณภัย  การช่วยเหลือประชาชน และการบูรณาการความร่วมมือในการและรักษาผลประโยชน์แห่งชาติร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งนี้ขอให้มั่นใจได้ว่ากองทัพอากาศจะ ดูแลรักษาและใช้งานยุทโธปกรณ์ ที่จัดหามาจากภาษีของประชาชน ให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด ในการปกป้องอธิปไตย และช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

กองทัพอากาศไทยได้เปิดตัวเครื่องบินโจมตีแบบที่๘ บ.จ.๘ Beechcraft AT-6TH Wolverine ฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ เชียงใหม่ที่ได้รับมอบเครื่องชุดแรกเข้าประจำการไปเมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๗(2024) ในงานแสดงการบิน Airshow ต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกระหว่างกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติประจำปี พ.ศ.๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๘ รวมถึงการเชิญชื่อมวลชนเยี่ยมชมกองบิน๔๑ เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๘
ในงานวันเด็กแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๘ ณ กองบิน๖ ดอนเมืองซึ่งเป็นสถานที่จัดงานหลักของกองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินโจมตี บ.จ.๘ AT-6TH หมายเลข "41104" แสดงการบินภาคอากาศ ขณะที่หมายเลข "41102" จัดแสดงภาคพื้นดิน ส่วนกองบิน๔๑ เชียงใหม่ที่ตั้งของฝูงบิน๔๑๑ มี บ.จ.๘ AT-6TH หมายเลข "41101" แสดงการบินภาคอากาศ และหมายเลข "41105" จัดแสดงภาคพื้นดินในรูปแบบติดอาวุธ
ก่อนหน้างานวันเด็ก พ.ศ.๒๕๖๘ ฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ ได้มีพิธีแสดงความยินดีกับนักบินเครื่องบินโจมตีแบบที่๘ บ.จ.๘ AT-6TH ชั้นเรียนที่๑(Class I) จำนวน ๗คนที่ได้การฝึกบินเปลี่ยนแบบ(transition) และทำการบินปล่อยเดี่ยว Solo fight แรก เมื่อวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๘ ซึ่งนับเป็นนักบินชุดแรกที่ฝึกในไทย ฝูงบิน๔๑๑ มีกำหนดจะได้รับมอบ บ.จ.๘ AT-6TH ครบ ๘เครื่องในเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๖๘ นี้ครับ




The Royal Thai Air Force (RTAF) displayed its lastest Korea Aerospace Industries (KAI) T-50TH Golden Eagle serial number "40114" of 401st Squadron, Wing 4 Takhli for first time during Children's Day 2025 Airshow at Wing 23 Udon Thani on 11 January 2025. (Royal Thai Air Force/ธรรมวัฒน์ รัชต์ รัตนวิจารณ์, Krit Surisukh)

กิจกรรมการแสดงภายในงานวันเด็กแห่งชาติ กองบิน ๒๓ จังหวัดอุดรธานี ประจำปี ๒๕๖๘ ประกอบด้วย การแสดงจากเยาวชน, การแสดงสุนัขทหาร (K-9) จากกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน ๒๓, การแสดงของเครื่องบิน Alpha Jet สาธิตการโจมตีสนามบิน และการป้องกันภัยทางอากาศ, การแสดงการป้องกันฐานบิน จากกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน ๒๓, 
การแสดงค้นหาและช่วยชีวิต ของ EC725, การสาธิตการดับเพลิงและกู้ภัยอากาศยาน จาก Crash Crew Team แผนกช่างโยธา กองบิน ๒๓ , การตั้งแสดงเครื่องบินโจมตีแบบ ALHAJET TH  จากฝูงบิน ๒๓๑ กองบิน ๒๓ เครื่องบินฝึกขับไล่แบบ T-50 TH จากฝูงบิน ๔๐๑ กองบิน ๔ และเครื่องบินขับไล่แบบ F-16C ของกองทัพอากาศสิงคโปร์ 
กิจกรรมเครื่องบินทิ้งระเบิดในการใช้อาวุธทางอากาศจำลอง และการร่วมสนุกกับเวทีกลางภายในงาน
- ผู้รับผิดชอบ : น.ต.ทรงยศ รัตนจันทร์
- บรรณาธิการข่าว : ร.ต.ธรรมวัฒน์ รัตนวิจารณ์
- ภาพข่าว : ร.ต.เจริญชัย สว่างไสว / พ.อ.อ.ประเยาว์ คุณาคม และ จ.อ.อาทิตย์ โชตินิสากรณ์
- จัดทำข่าว : พ.อ.อ.กมล โสภา

งานวันเด็กแห่งชาติ กองบิน๒๓ อุดรธานี ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๘ นอกจากการจัดแสดงของเครื่องบินโจมตีแบบที่๗ บ.จ.๗ Alpha Jet TH ฝูงบิน๒๓๑ กองบิน๒๓, เฮลิคอปเตอร์แบบที่๑๑ ฮ.๑๑ H225M(EC725) ฝูงบิน๒๐๓ กองบิน๒ โคกกระเทียม และเครื่องบินขับไล่ F-16C Block 52 กองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force) ที่วางกำลังประจำที่กองบิน๒๓ แล้ว
ปีนี้ยังได้เห็นเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ T-50TH หมายเลข "40114" ฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ ตาคลี ซึ่งเป็นเครื่องล่าสุดที่ได้รับมอบเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) มาจัดแสดงที่กองบิน๒๓ ด้วย ปัจจุบันฝูงบิน๔๐๑ มี บ.ขฝ.๒ T-50TH ประจำการแล้ว ๑๔เครื่อง โดยมีแผนที่จะจัดหาเพิ่มเติมจำนวน ๒เครื่องระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘-๒๕๗๑(2025-2028) รวมเป็นทั้งหมด ๑๖เครื่อง
ตามสมุดปกขาว RTAF White Paper 2024 เช่นกันในส่วนโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ข/ค บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F TH ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี และ บ.จ.๗ Alpha Jet TH ฝูงบิน๒๓๑ ก่อนหน้านี้กองทัพอากาศไทยได้กล่าวว่ามองที่จะนำ บ.จ.๘ AT-6TH มาทดแทน Alpha Jet TH แต่สำหรับ บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F TH เข้าใจว่าควรจะทดแทนด้วย บ.ขฝ.๒ T-50TH มากกว่าครับ




Royal Thai Air Force (RTAF) Saab Gripen C serial number 70107 fly by pilot Callsign "MYNUS" of 701st Squadron, Wing 7 Surat Thani during Children's Day 2025 Airshow on 11 January 2025. (Sompong Nondhasa)








RTAF planed to trial operating its Saab Gripen C/D take off and landing from highway at Hat Yai, Songkhla province in southern of Thailand for first time around late February 2025, followed conducted operating from Short Field Landing 2,100 feet (640.08m) on 6,570 feet (2,002.536m) lenght runway of Wing 5 Prachuap Khiri Khan and Taxiway with width 22m and length 2,000 feet (609.6m) (compare to Runway with 45m x 2,400m) of Wing 7 Surat Thani. (Royal Thai Air Force, Saab)

ภาพชุด GRIPEN SOLO …GRIPEN C หมายเลข 70107 ฝูงบิน 701 กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี บินโดย น.ต. ชาติกล้า นกเอี้ยงทอง "MYNUS" มีชั่วโมงบินรวม 1,072 ชม. ชั่วโมงบินเฉพาะแบบ 753 ชม. ทำการบินผาดแผลงทางอากาศที่กองบิน 6 ดอนเมือง ในงานวันเด็กแห่งชาติเมื่อ 11 ม.ค. 2568 ...Photo Sompong Nondhasa

ทอ.จะทดสอบ GRIPEN บินขึ้น-ลงบนถนนครั้งแรก! ....ในงานวันเด็กที่ดอนเมืองปีนี้ ได้มีการซ้อมแสดงบินโชว์สมรรถนะของเครื่องบินขับไล่ GRIPEN ซึ่งระหว่างบินนั้นโฆษกได้มีการพูดขึ้นว่า ในราวปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ กองทัพอากาศจะทำการทดสอบการบินโดยให้ GRIPEN บินลงถนนไฮเวย์ที่หาดใหญ่ อันแสดงให้เห็นสมรรถนะการบินขึ้น-ลงบนถนนที่รถยนต์ใช้วิ่งได้ ซึ่ง GRIPEN ใช้ทางวิ่งสั้นมากเพียงไม่เกิน 800 เมตร และกำลังอยู่ระหว่างเตรียมการว่าจะใช้ถนนสายใหนดี ...ซึ่งถ้าเป็นไปตามนั้นก็จะนับเป็นครั้งแรกที่จะมีการทดสอบสมรรถนะและขีดความสามารถในอีกรูปแบบหนึ่งของ GRIPEN ที่ไม่ต้องใช้สนามบินในการบินขึ้น-ลง ...จากการทดสอบการบินขึ้น-ลงบนนถนนของ GRIPEN ของทอ.สวีเดน การบินลงบนถนนใช้ทางวิ่งระยะทางเพียง 500  เมตร และระยะทางวิ่งขึ้น 400 เมตรเท่านั้น ...ก็ให้เป็นที่สังเกตุว่า GRIPEN เข้าประจำการในทอ.ไทยมาแล้ว 13 ปี แต่เพิ่งจะมีการทดสอบบินลงถนนเอาตอนนี้ แต่ก็เป็นที่เข้าใจว่าทอ.เพิ่งได้เลือกเครื่องบินรบรุ่นใหม่เป็น GRIPEN E/F ที่จะมีการจัดซื้อในกลางปีนี้ คงจะแสดงขีดความสามารถที่โดดเด่นในอีกรูปแบบหนึ่งของ GRIPEN ให้ประจักษ์เพื่อเป็นการสนับสนุนว่าเครื่องบินรบ GRIPEN มีคุณลักษณะที่เหนือกว่าเครื่องบินแบบอื่นในด้านนี้ ...Photo Sompong Nondhasa

2 Gripen ทดสอบขีดความสามารถการบินขึ้นลงสนามบินที่มีระยะทางวิ่งสั้นเพื่อเสริมศักยภาพการปกป้องน่านฟ้าไทย
กองทัพอากาศ โดย ฝูงบิน 701 กองบิน 7 นำ 2 เครื่องบินขับไล่โจมตีแบบที่ 20/ก Gripen จาก จว.สุราษฎร์ธานี ไปยังสนามบิน กองบิน 5 จว.ประจวบคีรีขันธ์  ที่มีความยาวเพียง  6,570 ฟุต เพื่อฝึกทดสอบการวางกำลัง และฝึกการบินขึ้นลงสนามบินที่มีระยะทางวิ่งสั้น โดยผลการปฏิบัติ Gripen ลงสนามแบบ Short Field Landing ใช้ระยะทาง  2,100 ฟุต 
ซึ่งการฝึกดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเครื่องบินขับไล่ฯ ให้มีความอ่อนตัวในการวางกำลัง และ การปฏิบัติภารกิจ ได้จากทุกสนามบินและพื้นที่ที่มีความเหมาะสมทั่วประเทศไทย

Recap Video : Gripen ทดสอบขีดความสามารถการบินขึ้นลงสนามบินที่มีระยะทางวิ่งสั้น เพิ่มความอ่อนตัวในการวางกำลัง และการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องน่านฟ้าไทย

Gripen ประสบความสำเร็จในการทดสอบ ขึ้น-ลง Taxiway ที่มีความกว้างเพียง"ครึ่งเดียว"ของ Runway ปกติ 
ฝูงบิน 701 กองบิน 7 ปฏิบัติการเตรียมความพร้อมนำเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบที่ 20/ก Gripen ฝึกขึ้น-ลง Taxiway ที่มีความกว้างเพียง 22 เมตร  เมื่อเทียบกับ Runway กว้าง 45 เมตร โดยใช้ระยะทางในการลงสนามเพียง 2,000 ฟุต พร้อมทั้งเติมเชื้อเพลิง และติดตั้งอาวุธ วิ่งขึ้นปฏิบัติภารกิจอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งการฝึกดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเครื่องบินขับไล่ฯ ให้มีความอ่อนตัวในการวางกำลัง และ การปฏิบัติภารกิจ ได้จากทุกสนามบินและพื้นที่ที่มีความเหมาะสมทั่วประเทศไทย

เครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐/ก บ.ข.๒๐/ก Saab Gripen C/D ที่เข้าประจำการในฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎรธานี ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๔(2011) มีการตั้งคำถามาตั้งแต่สมัยถูกนำเข้าประจำการใหม่ๆว่า ตามที่เครื่องบินขับไล่ JAS-39C/D Gripen ของกองทัพอากาศวีเดนได้ถูกออกแบบเป็นพิเศษเพื่อรองรับการปฏิบัติการบินขึ้นลงและเติมเชื้อเพลิงติดตั้งอาวุธและอุปกรณ์จากถนนทางหลวง highway ไทยจะมีการฝึกเช่นเดียวกันนี้หรือไม่
คำตอบจากนักวิเคราะห์ในเวลานั้นคือไม่เพราะไทยมีสนามบินที่สามารถใช้ในยามสงครามได้หลายแห่งไม่จำเป็นต้องใช้ถนนหลวง ข้อเท็จจริงอีกอย่างคือ Gripen ไม่ใช่เครื่องบินขับไล่แบบเดียวที่สามารถปฏิบัติการบนถนนหลวงได้ อย่างกองทัพอากาศสิงคโปร์ที่ภูมิประเทศเป็นเกาะขนาดเล็กก็มีการฝึกบินขึ้นลงถนนด้วยเครื่องบินขับไล่ F-16C/D/D+ เครื่องบินขับไล่ F-15SG และน่าจะรวมถึงเครื่องบินขับไล่ F-35A/B ในอนาคตด้วย
ถนนบางสายเช่นถนนมิตรภาพในภาคอีสานบางช่วงก็ถูกออกแบบให้เครื่องบินขึ้นลงได้ ซึ่งในช่วงเวียดนามใต้แตกปี 1975 เครื่องบินของกองทัพเวียดนามใต้บางเครื่องก็มีบินมาลงถนนในไทยเพื่อลี้ภัยมาแล้ว หลังการฝึกปฏิบัติการจากฐานบินที่มีทางวิ่งสั้นเช่น กองบิน๕ ประจวบคีรีขันธ์ มาแล้วหลายครั้ง และการบินขึ้นลงจากทางขับ Taxiway ที่กองบิน๗ ล่าสุด การทดสอบบินขึ้นลงจาก highway ที่หาดใหญ่ สงขลาในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ จะเป็นการพิสูจน์ขีดความสามารถนี้

สำหรับความคืบหน้าโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐ข/ค บ.ข.๒๐ข/ค Saab Gripen E/F สำหรับฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ โคราช จำนวน ๑๒เครื่อง ซึ่งมองจะได้รับการอนุมัติสำหรับระยะที่๑ จำนวน ๔เครื่องแรกประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว บ.ข.๒๐ข Gripen E ๓เครื่อง และเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง บ.ข.๒๐ค Gripen F ๑เครื่องในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘ นี้ที่กองทัพอากาศไทยกำลังดำเนินการด้านเอกสารต่างๆ 
โดยคาดว่าจะส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรีและรัฐสภาพิจารณาเห็นชอบได้ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๘ และจะมีการลงนามสัญญาตามมาราวเดือนมิถุนายน ๒๕๖๘ นั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมกลาโหมได้ให้สัมภาษณ์สื่อในงานวันเด็ก ๒๕๖๘ ที่กองบิน๖ ดอนเมืองเมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๘ ว่า กองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินขับไล่สองแบบทั้ง Gripen และ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B
ตนได้ให้ทางกองทัพอากาศได้คัดเลือกแบบเครื่องบินขับไล่ที่จะนำเข้ามาเพิ่มเติมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Gripen นั้นทางบริษัทที่จะขายให้มีสิ่งใดที่จะให้เราได้บ้างเช่นถ่ายทอดวิทยาการด้านต่างๆเป็นต้นคิดว่าภายในปี ๒๕๖๘ นี้น่าจะจบเรียบร้อย ตนได้พูดคุยกับทางทูตสหรัฐฯได้เข้าใจแล้วว่าทางเราจะไม่มีนโยบายที่จะกู้เงินเพื่อไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เราพยายามใช้เงินที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดครับ
(แต่ถึงกระนั้นผู้ไม่หวังดีก็ยังต่อว่ากองทัพอากาศอยู่ดีว่าถนนไทยมีแต่เสาไฟกับหลุมบ่อใช้ไม่ได้ถ้าฝืนก็คือเอาเครื่องบินที่ซื้อด้วยภาษีประชาชนไปพังเล่น และโยงด้วยว่านี่เป็นเพียงเทคนิคการหาเสียงสนับสนุนโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่เท่านั้น อีกทั้งพยายามสร้างเรื่องว่าทั้งสวีเดนและสหรัฐฯที่เสนอ Gripen E/F กับ F-16C/D Block 70/72 ต่างแข่งกันเสนอการติดสินบนทุจริตแก่กองทัพอากาศซึ่งเหลวไหลมาก)




Admiral Chalathis Nawanukroh, Deputy Commander-in-Chief of the Royal Thai Navy (RTN) and RTN officers visited the Naval Aviation Center (Puspenerbal), Indonesian Navy in Surabaya, and inspected demo flight of PTDI-produced the CN235-220 MPA aircraft owned by Puspenerbal on 16 January 2025. (PTDI)

PT Dirgantara Indonesia(PTDI) รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมอากาศยานอินโดนีเซียมีความพยายามที่จะขายเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล CN235-220 MPA ที่ตนผลิตในอินโดนีเซียแก่กองทัพเรือไทยมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ความต้องการโครงการเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลใหม่ จำนวน ๓เครื่องทดแทนเครื่องบินต่อต้านเรือผิวน้ำ บ.ตผ.๒ Lockheed P-3T Orion ที่ปลดประจำการในปี พ.ศ.๒๕๕๗(2014)
แต่ถึงช่วงปี พ.ศ.๒๕๖๓(2020) ที่ผ่านมาโครงการได้ถูกยกเลิกจากการถูกตัดงบประมาณกลาโหมในส่วนกองทัพเรือลงจากหลายปัจจัยทั้งสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ความล่าช้าในโครงการเรือดำน้ำ S26T จีน จนถึงการให้ความสำคัญกับโครงการจัดหาเรือฟริเกตใหม่ถึง ๔ลำ เพื่อทดแทนเรือคอร์เวตชุดเรือหลวงรัตนโกสินทร์ ๒ลำ และเรือฟริเกตชุดเรือหลวงตาปี ๒ลำที่จะต้องปลดประจำการลงทั้งหมดในอนาคตอันใกล้
จนถึงโครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงใหม่ จำนวน ๒เครื่องเพื่อทดแทนเครื่องบินลำเลียงแบบที่๑ บ.ลล.๑ Fokker F-27 MK-400 ปลดประจำการในปี พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ทาง PTDI อินโดนีเซียได้เสนอ CN235-220 ทั้งในรูปแบบการลาดตระเวนทางทะเลและลำเลียงทางยุทธวิธี รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุง MRO กับ TAI ไทยที่มีลงนามความร่วมมือกัน เข้าใจว่าคู่แข่งที่เป็นไปได้ยังมี Airbus C295 MPA ที่ผลิตในสเปนครับ 




CVN-70 USS Carl Vinson, the Nimitz-class aircraft carrier visited at Port Laem Chabang, Thailand on 27-31 January 2025. (Airlinesweek/Ball Kittidaj Sanguantongkam)

ชมภาพชุด ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน วันแรกที่มาถึงแหลมฉบัง ...ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน มีระวางขับน้ำ 101,300 ตัน ประจำการอยู่ที่เมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ชั้นนิมิตซ์ ลำที่ 3 และเป็นหนึ่งในเรือบรรทุกเครื่องบินปฏิบัติการเพียง 11 ลำในกองทัพเรือสหรัฐฯในปัจจุบัน
งานของลูกเรือบนเรือคาร์ล วินสัน มีความหลากหลายมาก มีทั้งชายและหญิงประมาณ 3,000 คน และคอยดูแลทุกส่วนของเรือบรรทุกเครื่องบิน พวกเขาทำทุกอย่างตั้งแต่การเตรียมอาหารไปจนถึงการจัดการอาวุธและการบำรุงรักษาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และยังมีลูกเรือแผนกการบินอีก 2,000 คนประกอบด้วยนักบินและเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นผู้ที่บินและดูแลรักษาเครื่องบินบนเรือ
ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน เช่นเดียวกับเรือบรรทุกเครื่องบินแต่ละลำของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้รับการออกแบบให้มีอายุการใช้งาน 50 ปี มีอากาศยานประจำหลายแบบ ที่สำคัญคือเครื่องบินขับไล่โจมตี F/A-18E/F เครื่องบินขับไล่ F-35C และเฮลิคอปเตอร์ CMV-22 รวมแล้วมากกว่า 60 เครื่อง ซึ่งทั้งหมดจะขึ้นบินและลงจอดบนเรือบรรทุกบินในทะเล 
ทั้งหมดนี้ทำให้ ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน กลายเป็นสนามบินเคลื่อนที่ สามารถตอบสนองต่อวิกฤติโลก เนื่องจากความสามารถของเรือบรรทุกเครื่องบินในการปฏิบัติการอย่างอิสระในน่านน้ำสากลทุกที่ในมหาสมุทรของโลก
เรือลำนี้เข้าประจำการในปี 1982 มีระวางขับน้ำ 101,000-104,000 ตัน เต็มที่ และตั้งชื่อตามอดีตสมาชิกสภาคองเกรสแห่งจอร์เจีย  ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน มี น.อ. Matthew C. Thomas เป็นผู้บังคับการเรือ ปัจจุบันเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้ยังคงปฏิบัติภารกิจอย่างแข็งขันในกองเรือแปซิฟิกของสหรัฐฯ 
ด้วยศักยภาพทางอากาศอันทรงพลังและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเรือบรรทุกเครื่องบินที่น่าภาคภูมิใจที่สุดลำหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐ ...ในโอกาสที่ ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน แวะมาพักผ่อนที่เมืองไทยโดยเข้าจอดที่ท่าเรือแหลมฉบังเมื่อเช้านี้ Ball Kittidaj Sanguantongkam ได้ไปเก็บภาพชุดนี้มาฝาก ซึ่งแอดมินต้องขอขอบคุณด้วยครับ

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 เวลา 14.00 น. พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมคณะ เยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา 
โดยมี พลเรือตรี Michael S. Wosje (ไมเคิล เอส. วอสเจ) ผู้บัญชาการกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีที่ 1 และนาวาเอก Matthew C. Thomas (แมทธิว โธมัส) ผู้บังคับการเรือ USS Carl Vinson ให้การต้อนรับ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
การตรวจเยี่ยมฯ ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกองทัพไทยกับสหรัฐ และเพื่อรับชมขีดความสามารถของเรือ USS Carl Vinson ตลอดจนรับทราบถึงประสบการณ์ ทักษะในการปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพ และการอำนวยการยุทธ์ในมิติต่าง ๆ ทั้งทางบก ทางผิวน้ำ/ใต้น้ำ ทางอากาศ และไซเบอร์
สำหรับ เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson มีกำหนดการเข้าจอด ณ ท่าเรือแหลมฉบัง ระหว่างวันที่ 27-31 มกราคม 2568 ตามภารกิจเยือนเมืองท่า (Port Visit) เพื่อพักลูกเรือ โดยไม่มีการสับเปลี่ยนกำลัง และได้รับการขนานนามว่าเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขวัญใจชาวอเมริกัน 
ทั้งยังเป็นเรือที่มีส่วนร่วมในหน้าประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในด้านการปฏิบัติภารกิจสำคัญ เรือ USS Carl Vinson นับเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Nimitz ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ได้รับการตั้งชื่อตามอดีตสมาชิกผู้แทนราษฎรรัฐจอร์เจียที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานถึง 50 ปี ถือเป็นสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ที่มีส่วนผลักดันในการสร้างเรือรบเป็นจำนวนมาก 
สำหรับเรือ USS Carl Vinson เริ่มเข้าประจำการและออกปฏิบัติภารกิจครั้งแรกในปี พ.ศ. 2525 มีระวางขับน้ำ 97,000 ตัน ลูกเรือที่ประจำการอยู่บนเรือมีจำนวนมากถึง 6,000 นาย โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายอากาศยานรบ จำนวน 2,480 นาย พร้อมลูกเรืออีกจำนวน 3,200 นาย สามารถบรรทุกอากาศยานรบทั้งแบบปีกตรึงและแบบปีกหมุนได้มากถึง 90 ลำ 
โดยออกเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญในต่างประเทศมากมายหลายเหตุการณ์ รับหน้าที่หลักในการลาดตระเวน และการฝึกซ้อมทางทะเล เพื่อแสดงแสนยานุภาพในทะเลจีนใต้ และปฏิบัติภารกิจร่วมซ้อมรบกับกองทัพสาธารณรัฐเกาหลี เป็นต้น
การตรวจเยี่ยมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของผู้บัญชาการทหารสูงสุดในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือทางการทหารและการเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นระหว่างกองทัพไทย และกองทัพสหรัฐอเมริกา ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องครอบคลุมในหลายมิติ และทางทหารในทุกระดับ 
รวมถึงด้านยุทโธปกรณ์และการส่งกำลังบำรุง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนศักยภาพของกองทัพไทย เพื่อความมั่นคงในภูมิภาคร่วมกันต่อไป 




The Royal Thai Navy (RTN) individual and tactical training of Royal Thai Fleet (RTF) for Fiscal Year 2025 concluded on 15 January 2025.
Vice Admiral Thadawut Tatpitakkul, Deputy Chief of Naval Staff of the Royal Thai Navy lectures on policy and strategy to 66th class of students of Joint War College (JWC), National Defence Studies Institute (NDSI), Royal Thai Armed Forces (RTARF), Ministry of Defence of Thailand in January 2025, said Royal Thai Navy to be concluded requirement specification for new Frigate programme which to be built in country for Fiscal Year 2026 around June to July 2025.
Royal Thai Navy ambition for its new domestic Frigate class to be "the Game Changer" includes advanced anti supersonic air defence and precision anti-surface missiles and weapons, state of art Counter-Unmanned Aircraft System (C-UAS) and cutting edge Cyber Warfare system capabilities. (Royal Thai Navy)

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการเป็นประธาน แถลงสรุปผลการฝึกองค์บุคคลและยุทธวิธีกองเรือ กองบินและหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ 
เมื่ิอวันที่ 15 มกราคม 2568 พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในการประชุมสรุปผลการฝึกองค์บุคคลและยุทธวิธีกองเรือ กองบินและหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีการฝึกระหว่างวันที่ 4 พ.ย.67 - 15 ม.ค. 68 
ซึ่ง ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้ให้ความสำคัญในการฝึกในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้กำลังพลของกองเรือยุทธการทุกนาย ได้รับความรู้ ความชำนาญและประโยชน์ จากการฝึกในครั้งนี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้มีความพร้อมในการปกป้องอาณาเขตทางทะเล รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การรักษากฎหมาย การช่วยเหลือประชาชน 
และพร้อมที่จะเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ พร้อมช่วยเหลือประชาชนได้ทุกโอกาส

ตามที่กองทัพเรือไทยมองที่จะได้รับการอนุมัติโครงการจัดหาเรือฟริเกตใหม่ ๑ลำจากทั้งหมด ๔ลำที่จะสร้างในไทยจากรัฐบาลไทยและรัฐสภาไทยในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๙(2026) ระหว่างการบรรยายเรื่องนโยบายและยุทธศาสตร์กองทัพเรือไทย แก่นักศึกษาวิทยาลัยเสนาธิการทหาร รุ่นที่๖๖ โดยรองเสนาธิการทหารเรือ พลเรือโท ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการเรือฟริเกตใหม่หลายประการ
พล.ร.ท.ธาดาวุธ กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกที่ทำให้คลื่นลมในทะเลรุนแรงขึ้นเกินกว่าที่เรือรบขนาดเล็กจะทนทะเลเพื่อปฏิบัติการได้ และความตึงเครียดทางทหารในภูมิภาคต่างๆทั่วโลกที่จะส่งผลกระทบต่อไทย กองทัพเรือไทยจำเป็นที่จะต้องจัดหาเรือรบขนาดใหญ่และมีศักยภาพสูงพอที่จะสร้างความมั่้นใจว่าจะปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเละไม่ให้ประชาชนไทยได้รับผลกระทบจากสงครามถ้าเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตามเรือรบขนาดใหญ่อย่างเรือพิฆาตขนาดระวางขับน้ำ 10,000tonnes ที่มีความทนทะเลสูงและปฏิบัติการได้ไกลและนานมีราคาแพงเกินไปมีค่าใช้จ่ายการปฏิบัติการที่สูงและกองทัพเรือไทยไม่มีกำลังพลพอจะบรรจุลงเรือได้ จึงมองไปที่เรือฟริเกตระวางขับน้ำประมาณ 4,000tonnes ซึ่งมีขนาดเพียงพอที่จะใช้ปฏิบัติการได้ ซึ่งกองทัพเรือไทยน่าจะสรุปคุณลักษณะที่ต้องการได้ในราวเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๘

นอกจากความต้องการสำคัญคือการถ่ายทอดวิทยาการแก่ภาคอุตสาหกรรมต่อเรือของไทยเพื่อที่จะสร้างเรือฟริเกตใหม่ในไทยแล้ว กองทัพเรือไทยได้แสดงความปรารถนาที่จะให้เรือฟริเกตใหม่ของตนเป็น "ตัวเปลี่ยน game"(Game Changer) ที่มีคุณลักษณะตอบสนองต่อภัยคุกคามในอนาคตได้รวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ต่อต้านอาวุธความเร็วเหนือเสียง Supersonic ได้, อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นความแม่นยำสูง,
ระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ(C-UAS: Counter-Unmanned Aircraft System) เช่นที่กองทัพเรือชาติ NATO เผชิญการโจมตีด้วยฝูง UAV(Unmanned Aerial Vehicle) ในทะเลแดงจำนวนสิบเครื่องขึ้นไป, และระบบสงคราม Cyber Warfare ขั้นก้าวหน้าและล้ำยุคเป็นต้น ซึ่งกองทัพเรือไทยมีความจำเป็นที่จะต้องทดแทนเรือรบเก่าที่ใช้งานมานานและล้าสมัยใกล้ปลดประจำการอีกหลายลำในอนาคตอันใกล้คือราว ๗ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตามกองทัพเรือไทยยังคงมีอีกหลายโครงการที่ยังรอดำเนินการเฉพาะในส่วนโครงสร้างกำลังทางเรือยังรวมถึงโครงการเรือดำน้ำ S26T ที่ยังค้างคา และการปรับปรุงเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงปัตตานีทั้ง ๒ลำ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมากองทัพเรือไทยได้พิสูจน์ตนเองมาตลอดถึงการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยอย่างต่อเนื่องและยาวนาน รวมถึงความสัมพันธ์อันดีกับมิตรประเทศทั่วโลกครับ
(แต่ก็ยังมีผู้ไม่หวังดีและสื่อไร้จรรยาบรรณที่โจมตีโครงการต่อเรือฟริเกตในประเทศที่เป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยโจมตีว่าเรือฟริเกตชุดเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดชที่จัดหาจากสาธารณรัฐเกาหลีเป็น "เรือฟริเกตสมรรถนะสูงที่สมรรถนะไม่ได้สูงจริง" แต่พอกองทัพเรือมองจะคัดเลือกแบบเรือใหม่ก็โจมตีว่าทำไมเลือกที่จะจัดหา ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช ลำที่สองเป็นชุดให้ต่อเนื่อง สรุปแล้วคือพวกนี้ไม่ต้องการเห็นทหารเรือไทยมีเรืออะไรใช้ทั้งนั้นนั่นเอง)