วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2563

กองทัพเรือสหรัฐฯจะปลดประจำการและแยกชิ้นส่วนเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ LHD-6 USS Bonhomme Richard หลังเหตุเพลิงไหม้

UPDATED: Navy Will Scrap USS Bonhomme Richard










USS Bonhomme Richard (LHD-6) sits pier side at Naval Base San Diego on July 16, 2020. US Navy Photo











กองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ตัดสินใจที่จะปลดประจำการและแยกชิ้นส่วนเรือยกพลขึ้นบกจู่โจม(Amphibious Assault Ship) ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นเวลาเกือบห้าวันในช่วงต้นปี 2020 นี้
หลังการสอบสวนเป็นเวลาหลายเดือนได้สรุปผลว่าความพยายามที่จะสร้างและคืนสภาพเรือใหม่จะมีค่าใช้จ่ายมากเกินไปและเกินกำลังการผลิตฐานภาคอุตสาหกรรมมากเกินไป

วันที่ 12 กรกฎาคม 2020 เพลิงไหม้บนเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(LHD: Landing Helicopter Dock) LHD-6 USS Bonhomme Richard เริ่มต้นในพื้นที่ห้องบรรทุกยานพาหนะส่วนล่างแต่ได้ไหม้ลามไปถึงหอเรือ, เสากระโดงเรือ และดาดฟ้าบินตามที่เรือไหม้ยาวตลอดดาดฟ้าขนาดใหญ่
เรือยังคงไม่มีน้ำรั่วเข้าตลอดระยะเวลาจนหลังเกิดเหตุและไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายจากจุดที่จอดเรือเทียบท่า ณ ฐานทัพเรือ San Diego แต่ระหว่างที่ไฟไหม้เรือและความพยายามในการดับเเพลิงที่ยาวนานหลายวัน ราวร้อยละ60 ของตัวเรือถูกทำลายและจำเป็นต้องได้รับการสร้างใหม่หรือทดแทน
พลเรือตรี Eric Ver Hage ผู้บัญชาการศูนย์ซ่อมบำรุงประจำภาคกองทัพเรือสหรัฐฯ(Navy Regional Maintenance Center) และผู้อำนวยการการซ่อมบำรุงและปรับปรุงเรือผิวน้ำกล่าวกับสื่อเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2020 ทางโทรศัพท์

"หลังการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รัฐมนตรีทบวงกองทัพเรือสหรัฐฯและผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ(CNO: Chief of Naval Operations) ได้ตัดสินใจที่จะปลดประจำการเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ LHD-6 USS Bonhomme Richard
เนื่องจากความเสียหายอย่างหนักที่คงอยู่ต่อเนื่องระหว่างเพลิงไหม้เดือนกรกฎาคม 2020 ในเวลาหลายสัปดาห์และหลายเดือนตั้งแต่เกิดเหตุเพลิงไหม้นั้น กองทัพเรือสหรัฐฯได้ดำเนินการประเมินราคาวัสดุที่ครอบคลุมที่จะกำหนดแนวทางที่ดีที่สุดข้างหน้าของเรือและกองทัพเรือเรา" เขากล่าว

สามทางเลือกหลักที่ได้รับการพิจารณา หนึ่งสร้างและคืนสภาพเรือใหม่ที่จะเป็นรูปแบบการทำงานดั้งเดิมของเรือในการเคลื่อนย้ายนาวิกโยธินและยุทโธปกรณ์โดยรอบของพวกเขาสำหรับสงครามยกพลขึ้นบก,
สองสร้างเรือใหม่ที่จะเป็นรูปแบบการทำงานใหม่สำหรับภารกิจใหม่ อย่างเช่นเป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำหรือเรือผิวน้ำหรือเรือพยาบาล, หรือสามปลดประจำการและแยกชิ้นส่วนเรือ

พล.ร.ต.Ver Hage กล่าวว่าการคืนสภาพเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ USS Bonhomme Richard ในสภาพดั้งเดิมจะมีค่าใช้จ่ายระหว่าง $2.5 billion ถึง $3.2 billion และใช้เวลาดำเนินการ 5-7ปี ที่งานจะดำเนินการที่ Gulf Coast ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกด้านใต้ของสหรัฐฯ
การสร้างเรือใหม่สำหรับวัตถุประสงค์ใหม่จะมีค่าใช้จ่าย "เกินหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ" และใช้เวลาราว 5-7ปี แม้ว่าจะถูกว่าการสร้างใหม่ในรูปแบบเดิม เขากล่าวว่ามันจะราคาถูกกว่าที่จะสร้างเรือพี่เลี้ยงหรือเรือพยาบาลใหม่จากแบบร่างแต่ต้น

การปลดประจำการเรือ และการปิดการใช้งานระบบอุปกรณ์และอาวุธบนเรือ, การถอดถอนเก็บสิ่งอุปกรณ์บนเรือ, การลากจูงเรือ และการแยกชิ้นส่วนตัวเรือจะมีค่าใช้จ่ายราว $30 million และใช้เวลาเพียง 9-12เดือน
"การพิจารณาแนวทางปฏิบัติทั้งสามทางเหล่านี้ เราได้มาถึงข้อสรุปที่ว่าเราจำเป็นต้องปลดประจำการเรือ" พล.ร.ต.Ver Hage กล่าว การปิดระบบประจำเรือยังไม่สามารถเริ่มต้นได้ตอนนี้ ตามที่การสอบสวนสี่รายการที่นำไปสู่เหตุเพลิงไหม้กำลังดำเนินอยู่

เรือ USS Bonhomme Richard ถูกเตรียมพร้อมที่จะทำการลากจูงแล้ว Ver Hage กล่าวว่า แม้ว่าการถอดถอนระบบบนเรือบ้างส่วนจะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 และจะดำเนินการต่อไป
เมื่อการสอบสวนต่างๆสิ้นสุด งานที่มีสาระสำคัญมากขึ้นจะมีเพื่อนำเอาระบบขนาดใหญ่ออกจากเรือที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่โดยเรือลำอื่นในกองเรือ 
ทั้งการปิดการใช้งานเรือและการลากจูงเรือไปชายฝั่ง Gulf Coast เพื่อการแยกชิ้นส่วน หรือลากจูงเรือไปจอดเก็บไว้ในชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกเฉียงเหนือจนกว่าอู่เรือที่ฝั่ง Gulf Coast จะพร้อมสำหรับการแยกชิ้นส่วนเรือ

สี่การสอบสวนที่มีขึ้นคู่ขนานกัน กองสืบสวนอาชญากรรมทางเรือ(NCIS: Naval Criminal Investigative Service) สอบสวนด้านอาชญากรรม ซึ่งขณะนี้ได้รวม สำนักงานสุรา, ยาสูบ, อาวุธและวัตถุระเบิด(ATF: Bureau of Alcohol, Tobacco, Firearms and Explosives)
ผู้บัญชาการสอบสวนนำโดย พลเรือโท Scott Conn ผู้บัญชาการกองเรือที่3 กองทัพเรือสหรัฐฯ(U.S. 3rd Fleet), คณะกรรมการตรวจสอบความล้มเหลวกองบัญชาการระบบเรือทางทะเล(NAVSEA: Naval Sea Systems Command) 
ซึ่งจะมองไปที่ปัญหาความปลอดภัย, โครงสร้าง และการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับเรือและหาแนวทางการเปลี่ยนแปลงเพื่อป้องกันการเหตุไฟไหม้จากการลามไปตามตัวเรือที่เกิดขึ้นกับเรือ USS Bonhomme Richard
และคณะกรรมการตรวจสอบความปลอดภัย NAVSEA จะสอบสวนเหตุการที่เกิดขึ้นบนเรือที่นำไปสู่การเกิดเหตุเพลิงไหม้เปรียบเทียบกับนโยบายและขั้นตอนที่มีอยู่

ขณะนี้กองทัพเรือสหรัฐมีจำนวนเรือยกพลขึ้นบกจู่โจมที่ลดลงไปหนึ่งลำ และมีเรือหนึ่งลำที่ล่าสุดกำลังได้รับการปรับปรุงเพื่อรองรับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35B Lightning II Joint Strike Fighter ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ปฏิบัติงาน
อย่างไรก็ตาม พล.ร.ต.Ver Hage กล่าวว่าการประเมินที่ครอบคลุมมองที่ว่าอะไรควรจะเกิดขึ้นกับฐานภาคอุตสาหกรรมและการสร้างเรือใหม่สำหรับกองเรือ
ถ้ากองทัพเรือสหรัฐฯต้องการสร้างเรือ USS Bonhomme Richard ใหม่ไม่ใช่ในรูปเงินหลายเหรียญสหรัฐฯ แต่เป็นภาระต่อฐานอุตสาหกรรมที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะพิสูจน์ได้

"ในท้ายสุด การตัดสินใจปลดประจำการเรือมีปัจจัยจำนวนมาก และซึ่งหนึ่งในนั้นคืออะไรที่จะเป็นผลกระทบของการใช้เงินหลายเหรียญสหรัฐฯและความพยายามแท้จริงที่สร้างใหม่, อะไรที่จะเป็นผลกระทบต่อฐานอุตสาหกรรม?
เงินหลายเหรียญสหรัฐฯจะขัดขวางยุทธศาสตร์การลงทุนของเราอย่างแน่นอน และจากมุมมองฐานภาคอุตสาหกรรม เราได้กังวลผลกระทบงานการสร้างเรือใหม่หรืองานซ่อมเรืออื่นๆ และเรารู้ว่าชายฝั่ง Gulf Coast จะเป็นจุดที่ได้รับการสร้างหรือคืนสภาพให้เสร็จเพราะความจุและขีดความสามารถของตน
แต่การตัดสินใจได้มีขึ้นในท้ายที่สุดสำหรับหลายปัจจัย ตามที่ผมกล่าวถึงการปลดประจำการเรือจะเป็นแนวทางที่จะดำเนินไป" พล.ร.ต.Ver Hage กล่าวกับ USNI News ระหว่าการสนทนาทางโทรศัพท์

เรือ USS Bonhomme Richard ใกล้จะสิ้นสุดช่วงการซ่อมบำรุงเรือเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น และท่ามกลางงานที่ได้เสร็จสิ้นไปแล้วเรือได้รับการปรับปรุงความทันสมัยของ computer และระบบอื่นๆเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการของเครื่องบินขับไล่ F-35B
ในเดือนกันยายน 2020 ลูกเรือได้ถอดอุปกรณ์ประจำเรือที่ไม่ได้รับความเสียหายจากไฟหรือน้ำแล้ว พลเรือตรี Philip Sobeck ผู้บัญชาการกลุ่มเรือจู่โจมนอกประเทศที่3(ESG3: Expeditionary Strike Group 3) ใน San Diego กล่าวกับ USNI News ระหว่างการเยือนท่าเรือเมื่อ 18 กันยายน 2020
"เราไม่ได้กำลังรื้อ USS Bonhomme Richard ทั้งหมด เราเพียงแต่รักษาสิ่งที่เราทำได้" เขาชี้แจงกล่าวว่าอุปกรณ์จะสามารถนำกลับเข้าสู่เรือถ้าเรือได้รับการสร้างใหม่หรือสามารถนำเข้าสู่ระบบพลาธิการถ้าเรือถูกปิดการใช้งาน
"สิ่งที่เราสามารถเสียบแล้วใช้งานได้ เรากำลังจะใช้สิ่งนั้นกับเรือชั้นอื่น สิ่งอื่นๆ และการเรียบเรียงเก็บรักษาของระบบพลาธิการกำลังดำเนินอยู่"

พล.ร.ต.Ver Hage กล่าวกับ USNI News ระหว่างการสอบถามจากสื่อว่าเรือได้รับความเสียหายอย่างมากและส่วนหนึ่งของการประเมินความเสียหายนั้นได้นำอุปกรณ์ออกไปและมองไปที่สิ่งที่อยู่ใกล้ท่าเทียบเรือที่สุด ทุกอย่างตั้งแต่สายอากาศบนเสากระโดงจนถึงอุปกรณ์ส่งรถ/เรือในอู่ลอย
"เรารู้ว่าไม่ว่าเราจะไปในทางซ่อมหรือปรับปรุงในรูปแบบที่แตกต่างหรือปลดประจำการเราจำเป็ฯต้องเอาอุปกรณ์ออกจากเรือ ดังนั้นทำให้เราเคลื่อนไหวด้วยความมั่นใจในการนำอุปกรณ์ที่ความอ่อนไหวที่สุดออกจากเรือ และตอนนี้เราได้ตัดสินใจปลดประจำการเรือ
เรากำลังจะไปเอาอุปกรณ์บางอย่างหลังจากนี้ที่อาจจะหนักขึ้นเล็กน้อย อาจจะลงไปในพื้นที่เครื่องจักรกลหรือแผนกไฟฟ้าพรรคกลิน หรือสิ่งที่เราควรจะทิ้งไว้ในที่ถ้าจะกำลังกลับไปใช้ใหม่ถ้าเรือกลับมามีชีวิต" พลเรือตรีกล่าว

ทีมของ พล.ร.ต.Ver Hage ที่กองบัญชาการระบบเรือทางทะเลกำลังทำงานกับกองบัญชาการระบบพลาธิการทางเรือ(NAVSUP: Naval Supply Systems Command) เพื่อกำหนดว่าอะไรอีกที่ควรถอดออกจากเรือที่จะมีประโยชน์ในการสร้างความพร้อมกับเรือลำอื่นในกองเรือ
ยังไม่ชัดเจนว่าระบบอะไรบ้างที่เพิ่งจะถูกติดตั้งระหว่างช่วงการปรับปรุงความทันสมัยล่าสุดจะถูกเก็บไว้ กองทัพเรือสหรัฐฯได้ใช้งบประมาณราว $250 million สำหรับความพร้อมเวลา 18เดือนที่จะปรับปรุง USS Bonhomme Richard ให้รองรับ F-35B
พล.ร.ต.Ver Hage กล่าวว่างานนี้เป็น "ความสูญเสียที่ชัดเจน" สำหรับกองทัพเรือสหรัฐฯและนาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps)

รัฐมนตรีทบวงกองทัพเรือสหรัฐฯ Kenneth Braithwaite และผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ พลเรือเอก Mike Gilday ได้ตัดสินใจที่จะแยกชิ้นส่วนเรือในสัปดาห์สุดท้ายก่อนเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า(Thanksgiving) พวกเขาได้แจ้งต่อผู้นำกองทัพเรือสหรัฐฯและสภา Congress แล้ว
ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับลูกเรือ แม้ว่า พล.ร.ต.Ver Hage กล่าวว่ากองกำลังเรือผิวน้ำกองเรือแปซิฟิก(NAVSURFPAC: Naval Surface Force Pacific) จะทำงานกับระบบกำลังพลเพื่อให้มั่นใจว่าลูกเรือ USS Bonhomme Richard ทั้งหมดจะได้รับการดูแล
เขายังไม่ต้องการจะให้ความเห็นว่าสิ่งนี้อาจจะมีความหมายถึงสำหรับการจัดหาของกองทัพเรือสหรัฐฯในอนาคต และความพยายามที่จะแทนที่ด้วยเรือยกพลขึ้นบกจู่โจมลำอื่นที่จะช่วยมาทดแทนเรือ USS Bonhomme Richard หรือไม่

พล.ร.ต.Ver Hage กล่าวว่าเรือยกพลขึ้นบกจู่โจมบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(LHA: Landing Helicopter Assault) ชั้น America มี่ราคาประมาณลำละ $4.1 billion(https://aagth1.blogspot.com/2020/07/america-lha-7-uss-tripoli.html)
และอู่เรือบริษัท Ingalls Shipbuilding กำลังดำเนินการสร้างเรือตอนนี้ กล่าวง่ายๆว่ากองทัพเรือสหรัฐฯกำลังอยู่ในจุดที่เหมาะสมสำหรับการสร้างเรือยกพลขึ้นบกจู่โจมบรรทุกเฮลิคอปเตอร์สำหรับตอนนี้

ตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพเรือสหรัฐฯได้สูญเสียเรือน้อยกว่า 30ลำเนื่องจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง USNI News ได้รายงานการติดตามเหตุเพลิงไหม้บนเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Los Angeles คือ SSN-755 USS Miami ในปี 2012
เรือลำสุดท้ายที่ถูกแยกชิ้นส่วนก่อนวันปลดประจำการที่วางแผนไว้คือเรือต่อต้านทุ่นระเบิดชั้น Avenger ชื่อ MCM-5 USS Guardian ได้เกยตื้นที่แนวประการัง Tubbataha ในปี 2013 และถูกรื้อถอนตัวเรือออกไปครับ