แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ KF-21 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ KF-21 แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568

KAI และ Hanwha เกาหลีใต้ได้รับสัญญาสร้างเครื่องบินขับไล่ KF-21 และเครื่องยนต์ไอพ่น F414 เพิ่ม

Update: KAI, Hanwha win deals to build more KF-21 fighters and engines







An initial batch of KF-21 fighter aircraft is scheduled to be delivered to the RoKAF by late 2026. (Korea Aerospace Industries)
https://www.janes.com/osint-insights/defence-news/air/update-kai-hanwha-win-deals-to-build-more-kf-21-fighters-and-engines





บริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลี และบริษัท Hanwha Aerospace สาธารณรัฐเกาหลีได้ชนะสัญญามูลค่าวงเงินมากกว่า 3 trillion Korean Won($2.2 billion)
เพื่อที่จะผลิตเครื่องบินขับไล่ KF-21 Boramae และเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ General Electric F414 ของเครื่องบินสำหรับกองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลี(RoKAF: Republic of Korea Air Force)

บริษัท KAI กล่าวในการยื่นเอกสารต่อตลาดหลักทรัพย์(stock exchange filing) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2025 ว่าข้อตกลงใหม่ของตนที่ได้รับการประกาศโดยสำนักงานโครงการจัดหากลาโหม(DAPA: Defense Acquisition Program Administration) สาธารณรัฐเกาหลี
มีมูลค่าที่วงเงิน 2.39 trillion Korean Won และดำเนินไปจนถึงเดือนธันวาคม 2028(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/kai-kf-21.html, https://aagth1.blogspot.com/2025/04/kf-21.html)

บริษัท Hanwha Aerospace กล่าวว่าสัญญาของตนมีมูลค่าที่วงเงิน 623.2 billion Korean Won และครอบคลุมสิทธิบัตรการผลิตของเครื่องยนต์ไอพ่น F414 สหรัฐฯเพิ่มเติมจำนวน 40เครื่องและชิ้นส่วนอะไหล่ที่เกี่ยวข้อง
บริษัท KAI ไม่ได้เปิดเผยว่ามีเครื่องบินขับไล่ KF-21 กี่เครื่องที่จะถูกสร้างภายใต้สัญญาใหม่ แต่น่าจะเป็นที่จำนวน 20เครื่อง ตามที่เครื่องบินขับไล่ KF-21 แต่ละเครื่องติดตั้งระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ไอพ่น F414 สองเครื่อง

ทั้งสองสัญญาแสดงถึงข้อตกลงที่มีต่อเนื่องตามมา ในเดือนมิถุนายน 2024 บริษัท KAI ได้รับการประกาศสัญญาวงเงิน 1.96 trillion Korean Won เพื่อผลิตเครื่องบินขับไล่ KF-21 จำนวน 20เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/kf-21-20.html)
และบริษัท Hanwha Aerospace ขณะข้อตกลงวงเงิน 556 billion Korean Won เพื่อสร้างเครื่องยนต์ไอพ่น F414 ชุดแรกจำนวน 40เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/hanwha-f414.html)

การผลิตเครื่องบินขับไล่ KF-21 ในสายการผลิตเครื่องแรกสำหรับกองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลีได้เริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2024 ณ โรงงานอากาศยาน Sacheon ของบริษัท KAI ใน Gyeongsangnam-do(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/kf-21.html
เครื่องบินขับไล่ KF-21 เครื่องแรกได้เข้าสู่ขั้นระยะการประกอบขั้นสุดท้ายของตน ซึ่งเครื่องได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่น F414 และระบบไฟฟ้าต่างๆของตนในเดือนพฤษภาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/kf-21-40.html)

Active Electronically Scanned Array(AESA) radar ของเครื่องบินขับไล่ KF-21 ยังได้รับการพัฒนาและสร้างภายในประเทศโดยบริษัท Hanwha Systems สาธารณรัฐเกาหลีด้วย
ภายใต้อีกข้อตกลงที่ประกาศเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2025 บริษัท Hanwha Systems กล่าวว่าตนจะผลิต AESA radar ที่ไม่ระบุจำนวนสำหรับเครื่องบินขับไล่ KF-21(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/kf-21.html

บริษัท Hanwha Systems กล่าวว่าสัญญาการผลิต AESA radar สำหรับเครื่องบินขับไล่ KF-21มีมูลค่าที่วงเงิน 2.8 trillion Korean Won แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดต่างๆเพิ่มเติม
ตามหลังการประกอบขั้นสุดท้ายเครื่องบินขับไล่ KF-21 เครื่องแรกจะได้รับการทดสอบภาคพื้นดินและการบินทดสอบต่างๆ เครื่องบินขับไล่ KF-21 ระยะที่1 รวมจำนวน 40เครื่องมีกำหนดที่จะส่งมอบเครื่องแรกแก่กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลีภายในปลายปี 2026 ครับ

วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568

KAI เกาหลีใต้มองการเริ่มต้นโครงการเครื่องบินขับไล่ KF-21 กับอินโดนีเซียใหม่

Indo Defence 2025: KAI looks for KF-21 restart with Indonesia





A model of the KF-21 with Indonesian livery on display at Indo Defence 2025. (Tayfun Ozberk/Ministry of Defence of Indonesia)



สาธารณรัฐเกาหลีได้รับการร้องขออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอินโดนีเซียในนครหลวง Jakatar เพื่อจะ "ปรับเปลี่ยน" ภายหลังขององค์ประกอบการแบ่งปันงานในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ KF-21 Boramae
และบริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลีคาดการณ์การเริ่มต้นที่สดใหม่สำหรับอินโดนีเซียในโครงการเครื่องบินขับไล่ KF-21 ตามผลลัพธ์ของเรื่องนี้(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/kf-21.html)

การพูดคุยกับ Janes ณ นิทรรศการและการประชุมการป้องกันประเทศ Indo Defence Expo and Forum 2025 ซึ่งจัดขึ้นทุกสองปี ที่ศูนย์จัดแสดง Jakarta International Expo ใน Jakarta  ระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายน 2025
ตัวแทนจากบริษัท KAI สาธารณรัฐเกาหลียืนยันว่าอินโดนีเซียได้ร้องขอมายาวนานสำหรับสิ่งที่เขาอธิบายว่าเป็น "การปรับแก้" ของการแบ่งปันงานของตนในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ KF-21(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/kf-21.html)

ต่อเนื่องตามมาในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2025 สำนักงานโครงการจัดหากลาโหม(DAPA: Defense Acquisition Program Administration) สาธารณรัฐเกาหลีประกาศว่า
อินโดนีเซียและสาธารณรัฐเกาหลีขณะนี้ได้ลงนาม "การแก้ไขข้อตกลงโครงการเพื่อการพัฒนาร่วม"(Revision of the Project Agreement for Joint Development) สำหรับโครงการเครื่องบินขับไล่ KF-21 แล้ว

แถลงการณ์ได้ถูกเผยแพร่ควบคู่ไปกับงาน Indo Defence 2025 ที่ซึ่งข้อตกลงได้ถูกลงนามระหว่างทางการจากทั้งอินโดนีเซียและสาธารณรัฐเกาหลีสองประเทศ ในแถลงการณ์ DAPA สาธารณรัฐเกาหลีเน้นว่า
อัตราส่วนการมีส่วนร่วมต่อโครงการของอินโดนีเซียขณะนี้จะถูกปรับลดลงในการสะท้อนของการตัดสินใจที่มีขึ้นโดยคณะกรรมาธิการส่งเสริมโครงการกลาโหม(Defense Project Promotion Committee) สาธารณรัฐเกาหลีในเดือนสิงหาคม 2024

DAPA สาธารณรัฐเกาหลีได้ประกาศในเดือนสิงหาคม 2024 ว่ารัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีในนครหลวง Seoul ได้อนุมัติการร้องขอของอินโดนีเซียที่จะลดขนาดการมีส่วนร่วมทางการเงินของรัฐบาลอินโดนีเซียในโครงการ KF-21
จาก 1.6 trillion Korean Won($1.2 billion) เป็น 600 billion Korean Won($438 million) ด้วยการปรับแก้ที่ขณะนี้ได้มีขึ้นอย่างเป็นทางการและได้รับความเห็นชอบจากทั้งสองประเทศแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/kf-21-20.html)

การเจรจาต่างๆสำหรับการจัดการรูปแบบการแบ่งปันงานต่างๆเกี่ยวการผลิตของเครื่องบินขับไล่ KF-21 ขณะนี้สามารถที่จะดำเนินต่อได้แล้ว ตัวแทน KAI สาธารณรัฐเกาหลีกล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/kf-21-40.html)
นี่เป็นการปูทางอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับเหล่าวิศวกรอินโดนีเซียที่จะกลับมาดำเนินการมีส่วนร่วมของพวกตนในโครงการเครื่องบินขับไล่ KF-21 เมื่อเงื่อนไขของการจัดการการผลิตได้รับความเห็นชอบแล้ว ตัวแทนบริษัท KAI เสริม

อินโดนีเซียได้ชำระค่าใช้จ่ายในโครงการของตนไปแล้วประมาณ 400 billion Korean Won จนถึงเดือนเมษายน 2024 การปรับการมีส่วนร่วมทางการเงินในโครงการลงเหลือ 600 billion Korean Won จะทำให้อินโดนีเซียมีข้อผูกพันจะต้องชำระค่าใช้จ่ายอีกราว 200 billion Korean Won 
สำหรับการจัดหาเครื่องบินขับไล่ KF-21 จำนวน 48เครื่องของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย(Indonesian Air Force, TNI-AU: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Udara) ที่จะมีส่วนการผลิตในประเทศโดย PT Dirgantara Indonesia(PTDI, Indonesian-aircraft Industries) รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมการบินอินโดนีเซียครับ

วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

RV Connex ไทยและ Diehl Defence เยอรมนีลงนามสัญญาส่งมอบเป้าบินไอพ่น JRV-01 สำหรับทดสอบยิงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T

Diehl Defence and RV Connex sign contract for the delivery of target drones for IRIS-T live firings
Martin Walzer‚ Senior Manager Integration Programs, Diehl Defence‘ (left) and Manfred Karge‚ Senior Advisor, RV Connex‘ (right) (Diehl Defence)



JRV-01 jet engine target drone (RV Connex)
Diehl Defence, a leading system house for ground-based air defence, guided missiles and ammunition, has intensified its partnership with Thailand-based defence and security business RV Connex. 
Both companies signed a contract for the first delivery of target drones and services for live firing tests with Diehl Defence’s IRIS-T air-to-air-missile.


Korea Aerospace Industries (KAI) T-50TH Golden Eagle "40114" of 401st Squadron, Wing 4 Takhli; Royal Thai Air Force (RTAF), and graphic shown TA-50/FA-50 and KF-21 aircrafts with Diehl Defence IRIS-T were displayed at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand during Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photos)

บริษัท Diehl Defence เยอรมนีผู้นำด้านระบบป้องกันภัยทางอากาศภาคพื้นดิน, อาวุธปล่อยนำวิถี และเครื่องกระสุน ได้ทวีความเข้มข้นในความเป็นหุ้นส่วนของตนกับบริษัท RV Connex ไทยด้านกิจการป้องกันประเทศและความมั่นคง
ทั้งสองบริษัทได้ลงนามสัญญาสำหรับการส่งมอบเป้าบินไอพ่นแบบ JRV-01 ของ RV Connex ไทยชุดแรกและการบริการต่างๆสำหรับการทดสอบยิงด้วยอาวุธจริงกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T ของ Diehl Defence เยอรมนี

ในสัญญาได้รวมการบริการเพิ่มเติมต่างสำหรับโครงการการรับรองความสมควรเดินอากาศอาวุธต่าง การส่งมอบชุดแรกของเป้าบินไอพ่น JRV-01 มีขึ้นตามการการลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU: Memorandum of Understanding) 
โดยทั้งสองบริษัทในเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่ปูทางไปสู่ความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งบริษัท Diehl Defence และบริษัท RV Connex ขณะนี้ดำเนินการการประมินค่าร่วมของระบบ(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/diehl-iris-t-block-ii.html)

RV Connex ไทยเสนอระบบที่แสดงถึงระบบเป้าบินสมัยใหม่อย่างเช่นระบบเป้าบินไอพ่น JRV-01 เช่นเดียวกับการบริการต่างๆที่จำเป็นสำหรับการใช้งานระบบ เป้าบินไอพ่น JRV-01 เช่นเดียวกับการบริการต่างๆ
จะถูกใช้สำหรับการเพิ่มขยายความสมจริงของการทดสอบยิงจริงของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T และสำหรับการเตรียมการสถานะการณ์การฝึกของลูกค้าเพื่อให้ตรงความต้องการความมั่นคงทีมีวิวัฒนาการ

Diehl Defence เยอรมนีจะได้รับประโยชน์จากขีดความสามารถต่างๆของเป้าบินไอพ่น JRV-01 ไทยที่มอบการจำลองภัยคุกคามที่สมจริงระดับสูง และทำให้มั่นใจว่าบรรลุผลมาตรการทดสอบต่างของบริษัท Diehl Defence ที่มีมาตรฐานความน่าเชื่อถือและสมรรถนะสูงที่สุด
ร่วมไปกับ RV Connex ไทย บริษัท Diehl Defence ขณะนี้สามารถเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่มีราคาเหมาะสมที่สมบูรณ์สำหรับการยิงจริงโดยปราศจากความจำเป็นของสิ่งอำนวยความสะดวกการทดสอบที่ซับซ้อน และจะสามารถจะมอบการสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบสำหรับการยิงจริงสำหรับลูกค้าต่างๆของ IRIS-T ได้

การทดสอบการยิงจริงครั้งแรกของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T ต่อเป้าบินไอพ่น JRV-01 ได้มีการวางแผนยืนยันชัดเจนแล้ว ทั้งสองบริษัทจะขยายความร่วมมือของพวกตนและขอบเขตการให้บริการต่างๆในอนาคต ความเป็นหุ้นส่วนระหว่าง Diehl Defence เยอรมนีและ RV Connex ไทยไม่เพียงเป็นจุดเริ่มต้นในตลาดเอเชีย แต่ได้มีความเป็นไปได้ที่จะขยายไปตลาดอื่นๆทั่วโลกด้วย
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T ของ Diehl Defence เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ยุคที่ห้า ที่ได้รับการบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบเข้ากับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ยุโรป, เครื่องบินขับไล่ Saab Gripen สวีเดน(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/saab-gripen.html), 

เครื่องบินขับไล่ Lockhhed Martin F-16 Fighting Falcon สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/rtaf2025.html), เครื่องบินขับไล่ Boeing EF-18AM/BM Hornet สเปน(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/airbus-a330-mrtt-3.html), เครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F TH และเครื่องบินขับไล่โจมตี Tornado
ปัจจุบันการบูรณาการอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T เข้ากับเครื่องบินขับไล่ Korean Aerospace Industries(KAI) KF-21 Boramae กำลังอยู่ในการดำเนินการ(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/kf-21.html) ตามการบูรณาการนี้สาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามสัญญาแรกกับ Diehl Defence ในปี 2024 สำหรับการจัดหาของ IRIS-T

Helmut Rauch ผู้อำนวยการบริหารบริษัท Diehl Defence กล่าวว่า "ผมภูมิใจที่จะขยายการแสดงตนของเราในเอเชียในความเป็นหุ้นส่วนกับ RV Connex ไทย เรากำลังมองย้อนไปที่ 15ปีของความสำเร็จการปฏิบัติการในไทย และผมเชื่อมั่นว่าความสำเร็จที่มากขึ้นสำหรับเราในเอเชียจะตามมา"
Diehl Defence ได้แสดงตนในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการส่งมอบอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T แก่กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๖(2013)

และโดยความร่วมมือกับบริษัท Korea Aerospace Industries, Ltd.(KAI) สาธารณรัฐเกาหลีสำหรับการบูรณาการอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T เข้ากับเครื่องบินฝึกไอพ่นและโจมตี TA-50/เครื่องบินขับไล่และโจมตี FA-50 และเครื่องบินขับไล่ KF-21
ล่าสุดในเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) บริษัท Diehl Defence เยอรมนีได้ประกาศสัญญาสนับสนุนกับกองทัพอากาศไทยสำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/diehl-defence-iris-t.html)

ความเห็นวิเคราะห์
บริษัท RV Connex ไทยได้เปิดตัวเป้าบินไอพ่น JRV-01 เป็นครั้งแรก ณ งานนิทรรศการระบบไร้คนขับ Dronetech Asia 2024 ที่ไทย ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๗ ซึ่งเป้าบินไอพ่น JRV-01 ถูกระบุว่าเป็นเป้าบินไอพ่น Jet Target Drone แบบแรกที่ออกแบบและผลิตใน ASEAN
ตามข้อมูลจาก RV Connex มีขนาดความยาว 2.6m ทำความเร็วสูงสุดที่ 262knots ทำการบินต่อเนื่องได้นานหนึ่งชั่วโมง ควบคุมการบินด้วย datalink ที่ระยะ 70km ภายตัวอากาศยาน(airframe) สามารถติดตั้งเครื่องขยายสัญญาณ radar,พลุ flare ความร้อน หรือพลุควัน เพื่อสร้างสัญญาณเป้าจำลองสำหรับการฝึกใช้อาวุธปล่อยนำวิถีด้วยความร้อนเช่น IRIS-T

ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยได้บูรณาการอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T เข้ากับเครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐/ก บ.ข.๒๐/ก Saab Gripen C/D ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎร์ธานี, เครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16AM/BM EMLU Fighting Falcon ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี และเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ข/ค บ.ข.๑๘ข/ค Northrop F-5E/F TH Super Tigris ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี
ซึ่งทั้งหมดต่างได้เคยมีการทดสอบการยิงไปแล้วก่อนหน้า จึงเป็นที่เข้าใจว่าการทดสอบยิง IRIS-T กับเป้าบินไอพ่น JRV-01 ที่จะมีขึ้นในอนาคตจะเป็นการทดสอบการบูรณาการเข้ากับเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ T-50TH Golden Eagle ฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ ในความร่วมมือกับ KAI สาธารณรัฐเกาหลีผู้สร้างเครื่องบินครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/kai-tai-mro-t-50th.html)

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2568

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ลงนามความร่วมมือกับเกาหลีใต้ในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ KF-21

UAE to ‘comprehensively co-operate' with South Korea on KF-21 fighter



The fourth KF-21 prototype flying in February 2025. (Defense Acquisition Program Administration)


Two KF-21 prototypes were displayed for the event at Sacheon Air Base. (Republic of Korea Air Force)





ผู้บัญชาการกองทัพอากาศและป้องกันภัยทางอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAEAFAD: United Arab Emirates Air Force and Air Defence) ได้ลงนามจดหมายแสดงความจำนง(LOI: Letter of Intent) ที่ครอบคลุม 'ความร่วมมือที่ครอบคลุม'
ในเครื่องบินขับไล่ KF-21 Boramae ที่พัฒนาในสาธารณรัฐเกาหลีเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2025 กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลี(RoKAF: Republic of Korea Air Force) ประกาศในวันเดียวกัน

กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลีกล่าวว่าข้อตกลงได้รับการลงนามโดยหัวหน้าคณะเสนาธิการทหารอากาศกองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลี(ตำแหน่งเทียบเท่าผู้บัญชาการกองทัพอากาศ) พลอากาศเอก Lee Young-soo 
และผู้บัญชาการกองทัพอากาศและป้องกันภัยทางอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พลอากาศตรี Rashid Mohammed al-Shamsi ระหว่างการเยือนฐานทัพอากาศ Sacheon และรวมถึงการชมการฝึกในอนาคตที่เครื่องบินขับไล่ KF-21 และหน่วยอื่นๆที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม

กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลีได้เผยแพร่ชุดภาพถ่ายแสดงถึงเครื่องต้นแบบเครื่องบินขับไล่ KF-21 จำนวนสองเครื่องถูกจัดแสดงในพิธีลงนาม ณ ฐานทัพอากาศ Sacheon ซึ่งใช้ทางวิ่งร่วมกับหนึ่งในโรงงานอากาศยาน
ของบริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลี การเริ่มต้นสายการผลิตจำนวนมากของเครื่องบินขับไล่ KF-21 ระยะที่หนึ่งได้ถูกประกาศเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/kf-21-20.html)

กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลีกล่าวเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2025 ว่าผู้บัญชาการกองทัพอากาศทั้งสองชาติได้ลงนามข้อตกลงที่จะจัดการประชุมหารือทุกๆหกเดือน พลอากาศเอก Lee ยังกล่าวว่า
กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลีจะสนับสนุนการวางกำลังที่จะมีขึ้นของระบบป้องกันภัยทางอากาศ Cheongung-II(M-SAM II) ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สั่งจัดหาจากสาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2021/11/m-sam.html)

กระทรวงกลาโหมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่ได้รายงานใดๆเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลีกำลังอยู่ระหว่างการจัดหาเครื่องบินขับไล่ KF-21 ระยะที่หนึ่งจำนวน 20เครื่องที่มีกำหนดจะได้รับมอบเครื่องแรกในปลายปี 2026
สำนักงานโครงการจัดหากลาโหม(DAPA: Defense Acquisition Program Administration) สาธารณรัฐเกาหลียังได้ประกาศความสำเร็จล่าสุดในโครงการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ KF-21 คือการประสบความสำเร็จในการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศในเวลากลางคืนครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2025

กองทัพอากาศและป้องกันภัยทางอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังกำลังอยู่ระหว่างการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ฝรั่งเศสจำนวน 80เครื่องที่ลงนามจัดหาในเดือนธันวาคม 2021(https://aagth1.blogspot.com/2021/12/rafale-f4-80.html)
โดยมีการรับมอบเครื่องบินขับไล่ Rafale มาตรฐาน F4 เครื่องแรกเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/rafale-80.html) เมื่อเข้าประจำการเครื่องบินขับไล่ Rafale F4 จะทดแทนเครื่องบินขับไล่ Dassault Mirage 2000 ฝรั่งเศสครับ

วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2568

เกาหลีใต้เปิดตัวอากาศยานไร้คนขับคู่บินภักดี LOWUS เครื่องต้นแบบสาธิตใหม่

South Korea unveils ‘loyal wingman' tech demonstrator





South Korea's Agency for Defense Development and Korean Air unveiled the first technology demonstration aircraft of their Low Observable Wingman UAV System on 25 February 2025. (Agency for Defense Development)



สำนักงานการพัฒนาทางกลาโหม(ADD: Agency for Defense Development) สาธารณรัฐเกาหลี และบริษัท Korean Air สาธารณรัฐเกาหลีได้เปิดตัวเครื่องต้นแบบสาธิตทางวิทยาการของโครงการพัฒนาร่วมของพวกตน
อากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle) 'คู่บินภักดี' (loyal wingman) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะปฏิบัติการควบคู่ไปกับอากาศยานรบแบบมีนักบินบังคับ(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/kai-mum-t-kf-21.html)

กำหนดแบบเป็นระบบอากาศยานไร้คนขับคู่บินถูกตรวจพบได้ต่ำ LOWUS(Low Observable Wingman UAV System) ได้รับการพัฒนาสำหรับการปฏิบัติการทีมมีคนบังคับ-ไร้คนขับ(MUM-T: Manned-Unmanned Teaming) กับอากาศยานรบที่มีมนุษย์ควบคุม
ระบบอากาศยานไร้คนขับจะเป็นแบบ "ขีดความสามารถอัตโนมัติ" ในการเต็มเต็มภารกิจต่างๆรวมถึง การลาดตระเวน, สงคราม electronic(EW: Electronic Warfare) และโจมตี สำนักงานการพัฒนาทางกลาโหม ADD กล่าว

ระบบอากาศยานไร้คนขับคู่บินภักดี LOWUS เครื่องต้นแบบสาธิตทางวิทยาการถูกเปิดตัว ณ ศูนย์วิทยาการ Korean Air Tech Center ในมหานคร Busan เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา
โครงการซึ่งเริ่มต้นในปี 2021 จะเสร็จสิ้นในปี 2027 โดยการบินทดสอบครั้งแรกของระบบอากาศยานไร้คนขับคู่บินภักดี LOWUS จะถูกดำเนินการภายหลังในปี 2025 นี้ สำนักงานการพัฒนาทางกลาโหม ADD เสริม

ตามข้อมูลจากสำนักงานการพัฒนาทางกลาโหม ADD การบินปฏิบัติการทีมมีคนบังคับ-ไร้คนขับ MUM-T มีกำหนดจะมีขึ้นในปี 2027 นี่จะรวมถึงการมีส่วนร่วมของ "การควบคุมโดยตรงจากอากาศยานที่มีนักบินบังคับ" 
ต่ออากาศยานไร้คนขับ UAV ขณะที่เครื่องอยู่ในการทำการบินสำนักงานการพัฒนาทางกลาโหม ADD กล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/kf-21-20.html)

ADD กล่าวว่าตนยังได้พัฒนาวิทยาการหลักต่างๆสำหรับระบบอากาศยานไร้คนขับคู่บินภักดี LOWUS อย่างเช่น "เครื่องยนต์ที่พัฒนาสร้างในประเทศ"(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/hanwha-f414.html)
และ AESA(Active Electronically Scanned Array) radar โดยการสนับสนุนของสำนักงานโครงการจัดหากลาโหม(DAPA: Defense Acquisition Program Administration) สาธารณรัฐเกาหลี

Janes ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่าสำนักงานการพัฒนาทางกลาโหม ADD และบริษัท Korean Air สาธารณรัฐเกาหลีกำลังทำงานเพื่อจะลดภาคตัดขวาง(cross-section) และทดสอบวัสดุดูดซับคลื่น radar(radar-absorbing material) 
ของตัวอากาศยานไร้คนขับคู่บินภักดี LOWUS เพื่อลดการถูกตรวจพบโดย radar, ระบบตรวจจับทางสัญญาณเสียง และอุปกรณ์กล้อง optical ต่างๆต่อระบบลงให้น้อยที่สุดครับ

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2567

กองทัพอากาศไทยและ Diehl Defence เยอรมนีลงนามสัญญาการสนับสนุนอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T

Royal Thai Air Force and Diehl Defence strengthen collaboration





Royal Thai Air Force (RTAF) Northrop F-5E/F TH Super Tigris of 211st Squadron, Wing 21 Ubon Ratchathani with Diehl IRIS-T short-range air-to-air missile. (Royal Thai Air Force)


The Royal Thai Air Force (RTAF) has signed a support contract with Diehl Defence with respect to the IRIS-T short-range missile system.

เพราะเขาเหล่านี้คือผู้ปกป้องอำนาจอธิปไตยเหนือน่านฟ้าไทย
กองบิน ๒๑ จัดพิธีมอบประกาศนียบัตร นักบินพร้อมรบ  (COMBAT READY) 
นาวาอากาศเอก ประณต คุณอนันต์ ผู้บังคับการกองบิน ๒๑ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตร นักบินพร้อมรบ อีกทั้งได้มอบโอวาทเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ 
ให้ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงทุกประการ   ทั้งนี้ได้มี ครอบครัว แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน ลูกเสืออากาศ เข้าร่วมแสดงความยินดี ณ ลานจอดแผนกช่างอากาศ กองเทคนิค กองบิน ๒๑ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗

กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ได้ลงนามสัญญาการสนับสนุนกับบริษัท Diehl Defence เยอรมนีโดยเกี่ยวข้องกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ IRIS-T นี่มีขึ้นตามความร่วมมือที่ยาวนาน, กว้างขวาง, และประสบความสำเร็จของทั้งสองฝ่ายในการวางกำลังอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T จาก Diehl Defence เยอรมนีบนเครื่องบินรบของกองทัพอากาศไทย
ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยได้มีประจำการด้วยเครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐/ก บ.ข.๒๐/ก Saab Gripen C/D ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎร์ธานี(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/gripen-e.html), เครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก Lockheed Martin F-16AM/BM EMLU Fighting Falcon ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/lockheed-martin-f-16v-block-7072.html)
และเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ข/ค บ.ข.๑๘ข/ค Northrop F-5E/F TH Super Tigris ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/f-5th-super-tigris.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/12/f-5th-super-tigris.html) ซึ่งทั้งหมดมีคุณลักษณะในการใช้อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T จากบริษัท Diehl Defence เป็นอาวุธอยู่แล้ว

สัญญาใหม่ที่ได้รับการลงนามในเยอรมนีในช่วงเริ่มต้นเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) มุ่งเป้าที่จะเพิ่มขยายขีดความสามารถของกองทัพอากาศไทยสำหรับการปฏิบัติการของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T ตลอดทั้งฝูงบินทั้งหมดของพวกตน สัญญาครอบคลุมการสนับสนุนการบูรณาการ, การสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงทางเทคนิค, และการสนับสนุนการยิงอาวุธจริง
โดยการลงนามข้อตกลงนี้กับบริษัท Diehl Defence กองทัพอากาศไทยได้ก้าวกระโดดไปข้างหน้าอีกครั้ง การมอบขีดความสามารถต่างๆที่วิเศษยิ่งเพื่อจะบูรณาการและเพื่อจะรับรองอาวุธเข้าสู่ฝูงบินอากาศยานที่มีอยู่ของพวกตน มีขึ้นตามความสำเร็จการบูรณาการอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T เข้ากับเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F TH
สำหรับ Diehl Defence ข้อตกลงนี้เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญเอเสริมสร้างความแข็งแกร่งความร่วมมือที่ยาวนานกับกองทัพอากาศไทยและเพิ่มขยายการใช้งานของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ IRIS-T เข้ากับระบบอากาศยานอื่นๆเพิ่มเติมให้กว้างขวางมากขึ้น(https://aagth1.blogspot.com/2020/11/f-5th-super-tigris-iris-t.html)

อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T ของ Diehl Defence เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ยุคที่ห้า ที่ได้รับการบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบเข้ากับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/f-35-eurofighter-typhoon.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/06/eurofighter-typhoon-20.html),
เครื่องบินขับไล่ Gripen(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/gripen-ef.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/gripen-e.html), เครื่องบินขับไล่ F-16(https://aagth1.blogspot.com/2022/11/f-16ambm-32.html), เครื่องบินขับไล่ Boeing EF-18AM/BM Hornet สเปน(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/ef-18-hornet-av-8b-harrier-ii.html), เครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F TH 
และเครื่องบินขับไล่โจมตี Tornado ปัจจุบันการบูรณาการอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T เข้ากับเครื่องบินขับไล่ Korean Aerospace Industries(KAI) KF-21 Boramae กำลังอยู่ในการดำเนินการ(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/kf-21-20.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/11/kf-21.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/11/dapa-offset.html)

ความเห็นวิเคราะห์
เป็นที่น่าจะชัดเจนว่าข้อตกลงระหว่างกองทัพอากาศไทยและบริษัท Diehl Defence เยอรมนีที่ได้รับการลงนามสัญญาล่าสุดในต้นเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๗ นี้คือโครงการสร้างคลังอาวุธและจัดหาอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิดวิกฤติของกองทัพอากาศ (อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ Diehl IRIS-T) วงเงิน ๒๕๖,๕๕๒,๐๐๐บาท($6,996,237) ที่ได้รับการประกาศในเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๗
จากภาพวาดสร้างจาก computer ที่แสดงถึงเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา KAI FA-50 ทำการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T ทำให้มองได้ว่ากองทัพอากาศไทยมีแผนที่จะบูรณาการ IRIS-T เข้ากับเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ T-50TH Golden Eagle ฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ ในความร่วมมือกับ KAI สาธารณรัฐเกาหลีผู้สร้างเครื่องบิน(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/kai-tai-mro-t-50th.html)
การบูรณาการอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T กับเครื่องบินรบแบบอื่นของกองทัพอากาศไทยยังน่าจะรวมถึงเครื่องบินโจมตีแบบที่๘ บ.จ.๘ Beechcraft AT-6TH Wolverine ฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ เชียงใหม่ ที่จัดหาจากสหรัฐฯพร้อมการถ่ายทอดวิทยาการให้ไทยด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/at-6th.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/at-6th.html)

วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2567

ผู้ผลิตหลายรายจะเข้าร่วมแข่งขันโครงการเครื่องบินขับไล่พหุภารกิจ MRF ฟิลิปปินส์

ADAS 2024: Candidates line up for Philippines fighter contest





Saab displayed a mock-up of its Gripen E/F fighter aircraft at the ADAS 2024 show in Manila. (Philippine News Agency, Anders Dahl, Emmanuel Garcia)

ขอบเขตของผู้เข้าร่วมการแข่งขันโครงการเครื่องบินขับไล่พหุภารกิจ MRF(Multirole Fighter) ของฟิลิปปินส์ได้ปรากฏที่มีการเพิ่มความหลากหลายด้วยความสนใจจากผู้ผลิตสิ่งอุปกรณ์ดั้งเดิม(OEM: original equipment manufacturer) หลายราย
ที่กำลังนำเสนอของเสนอของพวกตน ณ งานแสดงอาวุธยุโธปกรณ์ Asian Defense and Security Exhibition (ADAS) 2024 ในนครหลวง Manila ระหว่างวันที่ 25-27 กันยายน 2024 ที่ผ่านมา

บริษัท Saab สวีเดนเป็นเพียงบริษัทเดียวที่นำเสนอแบบจำลองขนาดเท่าของจริง mock-up ในการนำเสนอเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F ของตนในงานแสดง ADAS 2024 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปนี้(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/gripen-ef.html)
ยังมีการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการนำเสนอสำหรับโครงการเครื่องบินขับไล่พหุภารกิจ MRF สำหรับกองทัพอากาศฟิลิปปินส์(PAF: Philippine Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2022/06/mrf.html) จาก

บริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลีกับเครื่องบินขับไล่ KF-21 Boramae ของตน(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/kf-21-20.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/05/kf-21.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/04/kf-21-40.html),
บริษัท Leonardo อิตาลีกับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/f-35-eurofighter-typhoon.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/eurofighter-typhoon-24.html),

บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯกับเครื่องบินขับไล่ F-16V Block 70/72 Viper(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/lockheed-martin-f-16v-block-7072.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/lockheed-martin-f-16v-block-7072.html),
และบริษัท Turkish Aerospace(TA) ตุรกีกับเครื่องบินโจมตีเบาใบพัด Hürkuş เครื่องบินโจมตีเบาไอพ่น Hürjet(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/turkish-aerospace.html) และเครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้า Kaan ของตน(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/kaan.html)

บริษัท Dassault Aviation ฝรั่งเศส ซึ่งยังเป็นที่เข้าใจว่าจะเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ MRF กับเครื่องบินขับไล่ Rafale ของตนนั้น(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/rafale-12.html) ไม่ได้มานำเสนอในงานแสดง ADAS 2024
การแสวงหาของกองทัพอากาศฟิลิปปินส์สำหรับโครงการ MRF ได้มีมาอย่างยาวนาน แต่ในเดือนสิงหาคม 2024 กระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ได้ตอกย้ำความตั้งใจของตนอีกครั้งที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่จำนวน 40เครื่องในโครงการที่มีมูลค่าถึงวงเงินราว $7 billion

กองทัพอากาศฟิลิปปินส์กำลังมองที่จะเสริมกำลังต่แฝูงบินเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา KAI FA-50PH ของตน(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/kai-tai-mro-t-50th.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/05/fa-50.html) ในเวลาที่ความตึงเครียดกับจีนเพิ่มสูงขึ้น
แบบจำลอง mock-up ของเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen E/F ถูกจัดแสดงพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบและอาวุธต่างๆรวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้(SRAAM: Short-Range Air-to-Air Missile) แบบ Diehl IRIS-Tเยอรมนี,

อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา(BVRAAM: Beyond-Visual-Range Air-to-Air Missile) แบบ MBDA Meteor ยุโรป(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/meteor-mlu-2024.html), อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Diehl-Saab RBS15 Gungnir สวีเดน-เยอรมนี(https://aagth1.blogspot.com/2020/09/saab-rbs15.htm), และปืนใหญ่อากาศ Mauser BK-27 ขนาด 27mm
แบบจำลอง mock-up ยังแสดงถังเชื้อเพลิงสำรองภายนอกด้วย การพูดคุยกับ Janes ในงาน ADAS 2024 โฆษกของบริษัท Saab กล่าวว่า ขั้นตอนของกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่พหุภารกิจ MRF ใหม่ยังคง "ดำเนินอยู่" โดยยืนยันว่าบริษัทพร้อมที่จะส่งมอบเครื่องบินได้ "โดยเร็วที่สุดตามที่ต้องการ" ครับ

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2567

KAI เกาหลีใต้และ TAI ไทยลงนามจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุง MRO สำหรับเครื่องบินขับไล่และฝึก บ.ขฝ.๒ T-50TH

KAI and Thai counterpart sign T-50TH MRO support pact



The Final acceptance ceremony for latest two KAI T-50THs (40113 and 40114) held at Wing 4 Takhli in Nakhon Sawan Province, Thailand on 19 August 2024. 
Thailand is an important market for KAI in Southeast Asia. Source: Royal Thai Air Force

กองบิน ๔ ให้การต้อนรับ พลอากาศเอก เสกสรร  คันธา เสนาธิการทหารอากาศ และคณะ
นาวาอากาศเอก ชาคริต  ศักดิ์ชัยศรี ผู้บังคับการกองบิน ๔ ให้การต้อนรับ พลอากาศเอก เสกสรร  คันธา เสนาธิการทหารอากาศ และคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ขั้นต้น ในโอกาสเดินทางมาประชุมตรวจรับพัสดุขั้นสุดท้ายโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ขั้นต้น โครงการ T-50TH phase ๔ ณ ฝูงบิน ๔๐๑ กองบิน ๔ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๗

บริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลี และบริษัทอุตสาหกรรมการบินจำกัด(TAI: Thai Aviation Industries) ไทยได้เข้าสู่การทำข้อตกลงร่วมกันที่สนับสนุนเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ T-50TH Golden Eagle เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) ที่ผ่านมา 
บันทึกความเข้าใจ(MOU: Memorandum of Understanding) ระหว่างบริษัท KAI สาธารณรัฐเกาหลีและบริษัท TAI ไทยได้ครอบคลุมการจัดตั้งฐานศูนย์ซ่อมบำรุง, ซ่อมแก้ และซ่อมใหญ่(MRO: Maintenance, Repair and Overhaul) ในอนาคตในไทย KAI กล่าว

บริษัท KAI เสริมว่าบันทึกความเข้าใจ MOU มีขึ้นในฐานะที่เป็นการเตรียมการจะลงนามสัญญาการส่งกำลังบำรุงบนพื้นฐานประสิทธิภาพ(PBL: Performance-Based Logistics) สำหรับเครื่องบินขับไล่และฝึก บ.ขฝ.๒ T-50TH กับกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force)
"การเริ่มต้นกับข้อตกลงนี้ KAI และ TAI วางแผนที่จะขยายความร่วมมือซึ่งกันและกันที่จะเพิ่มพูนอัตราการปฏิบัติการของ บ.ขฝ.๒ T-50TH และเสริมความแข็งแกร่งขีดความต่างๆตามมา และเพื่อจะระบุแผนความร่วมมือต่างๆในระยะกลางถึงระยะยาว เช่น การจัดตั้งฐานซ่อมบำรุงอากาศยานในเอเชียและสำรวจตลาดที่เป็นไปได้" KAI กล่าว

KAI สาธารณรัฐเกาหลีเสริมอีกว่าข้อตกลงการส่งกำลังบำรุงที่กำลังรอการดำเนินการกับกองทัพอากาศไทยถูกสร้างบนพื้นฐานข้อตกลงเดียวกับกองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลี(RoKAF: Republic of Korea Air Force)
ซึ่งเป็นผู้ใช้งานรายใหญ่ที่สุดในโลกของในรุ่นเครื่องบินฝึกไอพ่นขั้นก้าวหน้า T-50, เครื่องบินฝึกและโจมตีเบา TA-50 และเครื่องบินขับไล่และโจมตีเบา FA-50(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/fa-50.html)

กองทัพอากาศไทยมีประจำการด้วยเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ KAI T-50TH Golden Eagle จำนวน ๑๔เครื่อง ณ ฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ ตาคลี ในจังหวัดนครสวรรค์ทางตอนกลางของประเทศไทย
KAI ยังเสนอเครื่องบินขับไล่และโจมตีเบา FA-50 เดินหน้าเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีใหม่จำนวน ๑๒เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/kai-t-50th.html)

ต่อตัวเลือกของกองทัพอากาศในขณะนี้คือเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16V Block 70/72 สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/lockheed-martin-f-16v-block-7072.html) และเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen E/F สวีเดน(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/gripen-e.html)
สร้างขึ้นบนความสำเร็จในระดับนานาชาติเครื่องบินไอพ่นตระกูล T-50 Golden Eagle บริษัท KAI สาธารณรัฐเกาหลีได้เข้าสู่ข้อตกลงกับภาคอุตสาหกรรมการบินภายในประเทศของหลายประเทศลูกค้า

ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๖(2023) บริษัท KAI ได้เปิดสำนักงานในโปแลนด์เพื่อสนับสนุนการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา FA-50 จำนวน ๔๘เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/kai-fa-50.html)
โรงงานอากาศยานได้ถูกจัดตั้งขึ้น ณ ฐานทัพอากาศ Mińsk Mazowiecki ของกองทัพอากาศโปแลนด์(Polish Air Force, ISP: Inspektorat Sił Powietrznych) และจะมอบการสนับสนุนตลอด ๒๔ชั่วโมงแก่ฝูงบินของโปแลนด์

ในต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๗ บริษัท KAI ได้ลงนามข้อตกลงการผลิตชิ้นส่วนกับภาคอุตสาหกรรมศูนย์ซ่อมบำรุง MRO อากาศยานของเปรู Sema เพื่อเตรียมความเป็นไปได้ที่เปรูจะจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา FA-50
รัฐบาลเปรูในนครหลวง Lima กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา FA-50 จำนวนระหว่าง ๒๐-๒๔เครื่อง และยังพิจารณาที่จะเข้าร่วมโครงการเครื่องบินขับไล่ KF-21 Boramae ด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/kf-21-20.html)

ความเห็นวิเคราะห์
กองทัพอากาศไทยได้มีพิธีตรวจรับเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ T-50TH สองเครื่องสุดท้ายหมายเลข 40113 และหมายเลข 40114 ณ ฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๗ ที่ประกาศจัดหามาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๖๔(2021) ทำให้จำนวนเครื่องล่าสุดอยู่ที่ ๑๔เครื่อง
สมุดปกขาว RTAF White Paper 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/rtaf-white-paper-2024.html) ยังได้ให้รายละเอียดถึงแผนการจัดหา บ.ขฝ.๒ T-50TH เพิ่มเติมจำนวน ๒เครื่องระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘-๒๕๗๑(2025-2028) ซึ่งจะทำให้จำนวนเครื่องในฝูงบิน๔๐๑ จะรวมเป็นทั้งหมด ๑๖เครื่อง

สำหรับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ โคราช ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘-๒๕๗๗(2025-2034) ที่้เป็นการแข่งขันระหว่างบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ และบริษัท Saab สวีเดน 
เดิมมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าทั้งสองบริษัทจะเสร็จสิ้นการยื่นข้อเสนอสุดท้ายที่จะไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมแล้วแก่กองทัพอากาศไทยภายในวันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๗ ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศการตัดสินใจคัดเลือกแบบในสิ้นเดือนสิงหาคม ๒๕๖๗ ลงไป

ดังนั้นเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา FA-50 น่าจะมีโอกาสในโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ข/ค บ.ข.๑๘ข/ค Northrop F-5E/F TH Super Tigris ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/f-5th-super-tigris.html
หรือเครื่องบินโจมตีแบบที่๗ บ.จ.๗ Dornier Alpha Jet A TH ฝูงบิน๒๓๑ กองบิน๒๓ อุดรธานี(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/alpha-jet-th.html) หนึ่งฝูงบิน จำนวน ๑๒-๑๔เครื่อง ที่จะมีขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๗๔-๒๕๗๘(2031-2035) มากกว่า

อย่างไรก็ตามเนื่องจากการที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทย เศรษฐา ทวีสิน ได้พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีทุจริต ทำให้คณะรัฐมนตรีไทยจึงต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยในทางนิตินัย และนายกรัฐมนตรีไทยคนปัจจุบัน แพทองธาร ชินวัตร ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
นั่นทำให้จะต้องมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นมา โดยที่ขณะที่เขียนบทความอยู่นี้ รัฐมนตรีกลาโหมไทย สุทิน คลังแสง ยังคงรักษาการตำแหน่งอยู่ จึงเป็นที่เข้าใจว่าการตัดสินใจใดๆในโครงการจัดซื้อจัดจ้างหลักของกระทรวงกลาโหมไทยจะถูกเลื่อนออกไปก่อนจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีไทยชุดใหม่ครับ