วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ลูกค้าที่ไม่เปิดเผยลงนามจัดหาเครื่องบินลำเลียง C-390 บราซิล 2เครื่อง

Undisclosed customer signs for two Embraer C-390s





Embraer C-390 Millennium airlifter in Portuguese markings. Although the identity of the new C-390 customer is publicly unknown, small orders have proven important to the programme. (Embraer, André Carvalho, José Alves)

ลูกค้าที่ไม่เปิดเผยได้สั่งจัดหาเครื่องบินลำเลียง Embraer C-390 Millennium จำนวน 2เครื่อง บริษัท Embraer บราซิลประกาศเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2024 "เครื่องบินจะได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อตรงตามความต้องการต่างๆของเหล่าลูกค้า"
บริษัท Embraer กล่าวในการประกาศระบุภารกิจการลำเลียงและการส่งกลับทางสายแพทย์(medevac: medical evacuation) สำหรับเครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium ที่ได้รับการสั่งจัดหาสองเครื่อง

แม้ว่า Embraer บราซิลได้เป็นแหล่งผลิตด้านการบินระดับโลกมายาวนาน เครื่องบินลำเลียง C-390 ได้รับการสั่งจัดหาโดยหลายประเทศที่ดั้งเดิมไม่มีผลิตภัณฑ์อากาศยานต่างๆของบริษัท Embraer ใช้งาน
นอกเหนือจากกองทัพอากาศบราซิล(Brazilian Air Force, FAB: Força Aérea Brasileira) ซึ่งเป็นผู้ใช้งานหลักของเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Embraer KC-390 Millennium

เครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium ได้มีลูกค้าต่างๆที่สั่งจัดหาแล้วในออสเตรีย(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/c-390-9.html), สาธารณรัฐเช็ก(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/c-390-millennium-2.html), ฮังการี(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/kc-390.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/02/kc-390.html), 
เนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส(https://aagth1.blogspot.com/2023/04/kc-390-c-130k.html), สโลวาเกีย(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/c-390-millennium-3.html), สาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/kc-390.html) และสวีเดน(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/c-390-millennium-c-130h.html)

นอกจากนี้ Janes ได้เคยรายงานว่า บริษัท Embraer ได้แสดงการนำเสนอเครื่องบินลำเลียง C-390 สำหรับไอร์แลนด์, โมร็อกโก(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/embraer-c-390.html), ไนจีเรีย, ซาอุดีอาระเบีย, 
แอฟริกาใต้(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/embraer-c-390.html), และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เช่นเดียวกับกองบินลำเลียงหนัก(HAW: Heavy Airlift Wing) ของขีดความสามารถการลำเลียงทางยุทธศาสตร์ NATO(SAC: Strategic Airlift Capability) 

อาร์เจนตินา, ชิลี, และโคลอมเบียได้ลงนามจดหมายแสดงความจำนง(LOI: Letter of Intent) ที่จะจัดหาเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC/C-390 Millennium แต่ยังไม่ได้วางคำสั่งจัดหาอย่างเป็นทางการในขณะนี้
Embraer บราซิลยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU: Memorandum of Understanding) เพิ่มเติมกับบริษัทต่างๆในอินเดียในการเตรียมการเข้าแข่งขันสำหรับโครงการเครื่องบินลำเลียงขนาดกลางของกองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force) ด้วย

บริษัท Embraer ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกาศ ซึ่งรวมถึงการปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดต่างๆของวงเงินสัญญา, กำหนดการส่งมอบ หรือรูปแบบของเครื่องบิน(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/embraer-c-390.html)
ตามข้อมูลจาก Embraer เครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 สองเครื่องยนต์ไอพ่น IAE V2500 สามารถบรรทุกสัมภาระได้ถึง 26tonne(57,320lbs) เป็นระยะทางมากกว่า 1,080nmi ซึ่งสามารถจะเพิ่มขยายได้โดยการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ มีความเร็วเดินทางที่ถึง 470knots(870 km/h) ครับ

วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2567

อินโดนีเซียบรรลุข้อตกลง offset ในสัญญาสำหรับเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง PPA อิตาลี

Indonesia secures offset arrangements in contract for Italian PPAs



Italian Navy Thaon di Revel (PPA)-class multi-purpose patrol ship Raimondo Montecuccoli (P 432) seen here during Exercise ‘Rim of the Pacific' (RIMPAC) 2024. (US Navy)

Indonesia is set to receive two similar vessels, KRI Brawijaya (320) and KRI Prabu Siliwangi (321) in 2025. (Fincantieri)

รัฐบาลอินโดนีเซียในนครหลวง Jakarta ได้บรรลุผลการปรับเปลี่ยนของรูปแบบข้อตกลงชดเชย(offset) ในสัญญาของตนสำหรับเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งอเนกประสงค์ PPA(Pattugliatore Polivalente d'Altura) จำนวน 2ลำกับบริษัท Fincantieri อิตาลีผู้สร้างเรือ
เอกสารต่างๆที่ได้ถูกมอบให้แก่ Janes เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2024 โดยแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับประเด็นนี้บ่งชี้ว่า(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/ppa.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/03/ppa.html)

รูปแบบข้อตกลงต่างๆเหล่านี้รวมถึงการส่งมอบให้ของเครื่องจำลองสถานการณ์ทางเรือ(naval simulator) และความช่วยเหลืออย่างเต็มรูปแบบสำหรับอินโดนีเซียที่จะพัฒนาขีดความสามารถการออกแบบและผลิตยานไฟฟ้าของตนเองในประเทศ
บริษัท Fincantieri เปิดเผยครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2024 ว่าตนได้ลงนามสัญญาวงเงิน 1.18 billion($1.23 billion) สำหรับเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง PPA กับกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/aew-fremm.html

และเรือเหล่านี้จะประจำการในกองทัพเรืออินโดนีเซีย(Indonesian Navy, TNI-AL: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Laut) ในชื่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง KRI Brawijaya หมายเลขเรือ 320 และเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง KRI Prabu Siliwangi หมายเลขเรือ 321 ตามลำดับ
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง PPA เป็นชั้นเรือของเรือรบทีคล้ายกับเรือฟริเกตความยาวตัวเรือ 143m ที่สามารถปรับแต่งรูปแบบสำหรับภารกิจต่างๆได้หลากหลายมิติจากรูปแบบ 'เบา' การปฏิบัติการตรวจการณ์ทางทะเลจังหวะต่ำ(low-tempo) จนถึง  'การรบเต็มรูปแบบ'(full combat) สถานการณ์การสู้รบขั้นสูงกว่า 

จนถึงขณะนี้กองทัพเรืออิตาลี(Italian Navy, Marina Militare) ได้ขึ้นระวางประจำการเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง PPA ในชื่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้น Paolo Thaon di Revel แล้ว 3ลำคือเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P430 ITS Paolo Thaon di Revel ในเดือนมีนาคม 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/08/ppa-p430-paolo-thaon-di-revel.html), 
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P431 ITS Francesco Morosini ในเดือนตุลาคม 2022(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/lima-2023.html) และเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P432 ITS Raimondo Montecuccoli ในเดือนกันยายน 2023(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/blog-post.html)

สำหรับสัญญาที่ได้ลงนามกับอินโดนีเซีย เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง PPA ที่จะถูกส่งมอบทั้งสองลำเดิมจะเป็นเรือที่มีกำหนดจะส่งมอบแก่กองทัพเรืออิตาลีในรูปแบบ 'เบาบวก'(light plus) เช่นเดียวกับเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P432 Raimondo Montecuccoli 
ในรูปแบบ light plus เรือทั้งสองลำได้รับการติดตั้งด้วยอุปกรณ์ระบบตรวจจับและอาวุธสำหรับการปฏิบัติการสงครามต่อต้านทางอากาศ(AAW: Anti-Air Warfare) ในการเพิ่มเติมต่อภารกิจสงครามต่อต้านเรือผิวน้ำ(ASuW: Anti-Surface Warfare)

Fincantieri อิตาลีขณะนี้กำลังปรับเปลี่ยนเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง PPA เหล่านี้สำหรับความต้องการต่างๆของกองทัพเรืออินโดนีเซีย แต่เรือทั้งสองลำจะยังคงรูปแบบ 'light plus' ของพวกตนอยู่ จากภายถ่ายล่าสุดที่อู่เรือของ Fincantieri ใน La Spezia อิตาลีที่เผยแพร่ในสื่อสังคม online 
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P433 ITS Marcantonio Colonna และเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P435 ITS Ruggiero di Lauria เดิมสำหรับอิตาลีมีกำหนดจะถูกส่งมอบให้อินโดนีเซียในชื่อ KRI Prabu Siliwangi และ KRI Brawijaya ตามลำดับในปี 2025 ครับ

วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2567

จีนทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 076 ลำแรก LHD-51 Sichuan

China Names Type 076 Amphibious Catapult Carrier “Sichuan” At Launch Ceremony In Shanghai 







Type 076 amphibious carrier "Sichuan" being launched at Hudong in Shanghai, December 27, 2024. Images via China Bugle, the Chinese People's Liberation Army (PLA) News Media Center.





อู่เรือ Hudong-Zhonghua ได้ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำของเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 076 (LHD: Landing Helicopter Dock) ลำแรกเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2024 ซึ่งเป็นนวัตกรรมเรือยกพลขึ้นบกจู่โจม(Amphibious Assault Ship) บรรทุกเครื่องบินแบบใหม่ ณ สถานที่ของตนในเกาะ Changxing ในมหานคร Shanghai สาธารณรัฐประชาชนจีน
พิธีปล่อยเรือลงน้ำเป็นเครื่องหมายถึงเหตุการณ์หลักที่สำคัญในการดึงความสนใจจากนานาชาติในโครงการอย่างมีนัยสำคัญ ตามแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเรือได้รับการตั้งชื่อว่า เรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอย LHD-51 Sichuan ซึ่งตั้งชื่อตามมณฑล Sichuan("เสฉวน" หรือ "ซื่อชวน") ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

สื่อทางการของจีนประกาศว่าระวางขับน้ำของเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 076 LHD ใหม่อยู่ที่มากกว่า 40,000tons เรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอย LHD-51 Sichuan มีขนาดใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัดในทุกมิติเทียบกับเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 075 รุ่นก่อนหน้า(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/type-075-lhd-31-hainan-type-055-type-094.html)
ตัวเรือมีความยาวที่ประมาณ 260m โดยมีความกว้างที่ตลอดดาดฟ้าบินที่ประมาณ 50m ขนาดโดยรวมของเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 076 จึงสามารถเปรียบเทียบได้กับเรือยกพลขึ้นบกจู่โจมของกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ในปัจจุบันเช่น เรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Wasp และเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์จู่โจมชั้น America

การประกอบตัวเรือในอู่แห้งถูกดำเนินการอย่างค่อนข้างรวดเร็วตลอดระยะเวลาที่ราว 14เดือน ผู้สนใจทางทหารหลายรายเดิมพบเอกสารสำหรับโครงการเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 076 LHD ย้อนกลับไปอย่างน้อยที่ปี 2020 สัญญาต่างๆจำนวนมากสำหรับวัสดุระยะเวลาดำเนินการยาวนาน(LLI: long-lead items) ได้ปรากฎขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2023
ชิ้นส่วน modules ต่างๆชุดแรกสำหรับโครงการเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 076 LHD ได้ปรากฎขึ้น ณ อู่เรือ Hudong-Zhonghua บนเกาะ Changxing ในเดือนตุลาคม 2023 การประกอบตั้งแต่นั้นได้ถูกดำเนินการอย่างค่อนข้างรวดเร็ว จนถึงขั้นสูงสุดในพิธีปล่อยเรือลงน้ำเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2024

เป็นสิ่งที่น่าสังเกตตรงนี้ว่าตัวอู่เรือ Hudong บนเกาะ Changxing เองที่สร้างเรือและปล่อยเรือลงน้ำเป็นสถานที่ที่ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ อู่เรือ Hudong-Zhonghua ได้จัดตั้งอู่เรือหลักใหม่นี้เป็นเวลาตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมาใกล้กับอู่เรือ Jiangnan ซึ่งเป็นอีกอู่เรือหลักที่สร้างเรือให้กับกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAN: People’s Liberation Army Navy)
อู่เรือใหม่มุ่งเป้าที่จะย้ายอู่สร้างเรือออกจากแม่น้ำ Huangpu ที่แออัด อู่เรือใหม่จะยังดำเนินงานการสร้างเรือหลักทั้งหมดของอู่เรือ Hudong-Zhonghua ซึ่งเป็นผู้สร้างเรือยกพลขึ้นบกสำหรับกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีนโดยส่วนใหญ่ นอกจากนั้นจะสร้างเรือฟริเกตให้กับกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีนและลูกค้าต่างประเทศ และยังนำมาปรับใช้สำหรับภารกิจยามฝั่งด้วย

ตามที่ Naval News ได้รายงานก่อนหน้า เรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 076 LHD แสดงถึงวิวัฒนาการในการออกแบบเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเครื่องบินสำหรับจีน มากไปกว่านั้นเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอย LHD-51 Sichuan ยังยังเป็นแบบแรกที่โดดเด่นตามมาตรฐานทั่วโลกด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่มีเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเครื่องบินจู่โจมที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ
ที่ได้รวมการติดตั้งรางดีดส่งอากาศยานขึ้นบิน(catapult) และลวดลงจอดบนดาดฟ้าบินของเรือบรรทุกเครื่องบิน(arrestor hook) สำหรับการปฏิบัติการของอากาศยานปีกนิ่ง รางดีด catapult แม่เหล็กไฟฟ้า EMALS(Electromagnetic Aircraft Launch System) มีความเหมือนมากกับที่ติดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน CV-18 Fujian ที่เป็นเรือที่ติดราง catapult ลำแรกของจีน(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/cv-18-fujian.html)

กองบินที่คาดไว้ในอนาคตสำหรับ Type 076 LHD ยังมีที่เหลือสำหรับการคาดเดา การปรากฏของสถานที่ทดสอบใกล้กันที่มีอากาศยานรบไร้คนขับ(UCAV: Unmanned Combat Aerial Vehicle) แบบ GJ-11 สองเครื่อง ถูกตั้งข้อสังเกตว่า UCAV เหล่านี้มีความตั้งใจจะนำมาใช้กับแบบเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเครื่องบินจู่โจมใหม่ 
นอกเหนือจากอากาศยานไร้คนขับปีกนิ่ง เรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเครื่องบินจู่โจมจะปฏิบัติการเฮลิคอปเตอร์หลากหลายแบบตามปกติและน่าจะมีอากาศยานไร้คนขับปีกหมุนอย่างน้อยหนึ่งแบบ ข้อสังเกตนี้ได้รับการสนับสนุนโดยการปรากฎขึ้นของแบบจำลองขนาดเท่าของจริง mockup ของอากาศยานแบบต่างๆใกล้กับอู่แห้ง

การประกาศอย่างเป็นทางการสำหรับพิธีปล่อยเรือลงน้ำของเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอย LHD-51 Sichuan ยังได้ระบุขีดความสามารถที่จะสนับสนุนอากาศยานปีกนิ่ง อย่างไรก็ตามนี่จะรวมถึงอากาศยานแบบมีนักบินบังคับอย่างเครื่องบินขับไล่ J-35 รุ่นใช้งานทางเรือหรือไม่ยังคงเป็นสิ่งที่จะต้องได้มีการเห็นจริงก่อน(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/j-35a.html)
เรือยกพลขึ้นบกจู่โจมของกองทัพเรือสหรัฐฯนั้นขาดรางดีด catapult และลวดลงจอดบนดาดฟ้าบิน อย่างไรก็ตามเรือของสหรัฐฯสนับสนุนอากาศยานแบบบินขึ้นระยะสั้นลงจอดทางดิ่ง STOVL(Short Take-Off Vertical Landing) ปัจจุบันจีนยังไม่มีอากาศยานปีกนิ่งที่มีขีดความสามารถ STOVL แบบใดในประจำการ(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/f-35b-ddh-184-kaga.html)

นอกจากการติดตั้งรางดีด catapult เรือชั้น Type 076 LHD ยังแสดงถึงคุณลักษณะอื่นๆอีกหลายอย่างนอกจากที่มีในเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 075 LHD เรือชั้น Type 076 มีคุณลักษณะติดตั้ง lift ยกอากาศยานที่ด้านของเรือ ที่ตั้งอยู่ด้านกราบขวาระหว่างหอเรือสองหอ และที่กราบซ้ายใกล้ท้ายเรือ
การจัดวางนี้ตรงข้ามกับเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 075 LHD ที่มีเพียง lift ยกอากาศยานสองระบบที่รวมอยู่ในดาดฟ้าบินของเรือ ส่วนดาดฟ้ายก(superstructure) ที่แยกออกจากกันน่าจะเป็นเนื่องมาจากการออกแบบใหม่ที่นำระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ gas turbine รูปแบบ COGAG(Combined Gas turbine and Gas turbine) มาใช้

ตรงข้ามกับเรือชั้น Type 075 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ดีเซลรูปแบบ CODAD(Combined Diesel and Diesel) การเลือกใช้ระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ gas turbine จะมีผลในการที่เรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเครื่องบินจู่โจมใหม่แบบใหม่นี้จะทำความเร็วการปฏิบัติการต่อเนื่องได้สูงกว่า รวมถึงสำหรับการสนับสนุนการใช้รางดีดส่งอากาศยานขึ้นบิน catapult ของอากาศยานปีกนิ่งด้วย
ในรายงานการพัฒนาทางทหารและความมั่นคงของสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำปี 2024(Military and Security Developments Involving the People’s Republic of China 2024) ที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเผยแพร่ล่าสุดยังอ้างว่า เรือชั้น Type 076 ได้ติดตั้ง "ระบบขับเคลื่อนผสมผสาน hybrid" การเลือกใช้คำนี้มีข้อสังเกตว่ามีบางอย่างจากการบูรณาการระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า

ระบบอาวุธป้องกันตนเองของเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 076 LHD มีความแข็งแกร่งอย่างชัดเจนมาก รวมถึงแท่นยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ HQ-10 ความจุ 24ท่อยิงสามแท่น และระบบป้องกันระยะประชิด(CIWS: Close-In Weapon System) ปืนกล H/PJ-11 ขนาด 30mm 11ลำกล้องหมุน รูปแบบเดียวที่พบในเรือบรรทุกเครื่องบิน CV-18 Fujian
นอกจากนี้เรือชั้น Type 076 ยังติดตั้งแท่นยิงเป้าลวงตระกูล Type 726 ความจุ 24นัดสี่แท่นใกล้กับท้ายเรือและกลางลำเรือ ระบบตรวจจับต่างๆรวมถึง AESA(Active Electronically Scanned Array) radar สองย่านความถี่ dual-band แบบหมุนได้บนเสากระโดงเรือบูรณาการเหนือสะพานเดินเรือ เช่นเดียวกับแบบหนึ่งที่ใช้กับเรือฟริเกตชั้น Type 054B รุ่นใหม่ล่าสุด

เสากระโดงที่สองบนดาดฟ้ายกที่สองด้านหลังติดตั้งระบบตรวจจับการแพร่สัญญาณไฟฟ้า(ESM: Electronic Support Measures) และชุดระบบสื่อสารต่างๆ ยังรวมถึงอู่ลอย(welldock) ที่เห็นได้ในด้านใต้ของท้ายเรือ ตามหลังการปล่อยเรือลงน้ำเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 076 LHD จะดำเนินงานติดตั้งสิ่งอุปกรณ์ต่อไปที่น่าจะใช้เวลาพอสมควร
ระบบอาวุธต่างๆที่เห็นน่าจะเป็นเพียงการติดตั้งสำหรับการปล่อยเรือลงน้ำแต่จำเป็นต้องมีการติดตั้งและเดินสายเพิ่มเติมในฐานะส่วนหนึ่งของขั้นตอนการติดตั้งสิ่งอุปกรณ์ ในการปล่อยเรือลงน้ำได้รวมอาคารชั่วคราวแยกต่างหากคลุมรางดีดแม่เหล็กไฟฟ้า EMALS catapult ไว้เช่นเดียวกับที่เห็นในพิธีปล่อยเรือบรรทุกเครื่องบิน CV-18 Fujian ลงน้ำในปี 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/06/type-003-cv-18-fujian.html)

เรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอย LHD-51 Sichuan ใหม่จะดำเนินการงานติดตั้งสิ่งอุปกรณ์ในอู่เรือเดียวกับเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 075 ลำที่สี่ LHD-34 Jiangxi ที่ถูกเคลื่อนย้ายมาหลังการทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำในวันที่ 14 ธันวาคม 2023 หรือเกือบจะหนึ่งปีก่อน(https://aagth1.blogspot.com/2020/08/type-075-lhd.html)
ปัจจุบันจีนได้ปล่อยเรือบรรทุกเครื่องบินหรือหรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ทุกๆหนึ่งปีตั้งแต่ปี 2019 เมื่อเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Type 075 ลำแรก LHD-31 Hainan ถูกปล่อยลงน้ำ ณ อู่เรือก่อนหน้าของอู่เรือ Hudong(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/type-075-lhd.html)

ความเร็วในการต่อเรือที่น่าประทับใจแม้ว่าจะเป็นแบบเรือลำแรกของชั้นเรือด้วยคุณลักษณะที่ไม่มีในเรือรบก่อนหน้าเป็นการเน้นย้ำอีกครั้งถึงขีดความสามารถของการสร้างเรือรบหลักของอู่เรือของจีนที่มีความคล่องตัวและรวดเร็ว อู่เรือ Hudong-Zhonghua Shipbuilding Group(HZ) มหานคร Shanghai ในเครือ China State Shipbuilding Corporation(CSSC) รัฐวิสาหกิจผู้สร้างเรือจีน 
ยังเป็นสถานที่สร้างเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอยชั้น Type 071ET LPD(Landing Platform Dock) เรือหลวงช้าง(ลำที่๓) ของกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ที่ปล่อยลงน้ำในปี พ.ศ.๒๕๖๔(2021) และส่งมอบเข้าประจำการในปี พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/navantia-type-071et-lpd.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/05/type-071et-lpd.html)

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2567

อิตาลีลงนามจัดหาเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ใหม่ 24เครื่อง

Italy signs for follow-on Eurofighters





Italy is to replace 26 Tranche 1 Eurofighter combat aircraft with up to 24 new Tranche 4+ aircraft under a deal signed on 23 December. (Italian Air Force)

อิตาลีได้ลงนามสัญญาสำหรับการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon(กำหนดแบบเป็นเครื่องบินขับไล่ F-2000 ในประจำการกองทัพอิตาลี) ใหม่จำนวน 24เครื่องเพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon รุ่นก่อนหน้าที่มีกำหนดสำหรับการปลดประจำการลง
บริษัท Leonardo อิตาลีแกนนำภาคอุตสาหกรรมหลักในกลุ่มกิจการค้าร่วม Eurofighter สี่ชาติยุโรป(สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, สเปน และอิตาลี) ได้ประกาศข้อตกลงกับสำนักงานบริหาร Eurofighter และ Tornado NATO(NETMA: NATO Eurofighter and Tornado Management Agency) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา

การประกาศไม่ได้กล่าวว่าเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ใหม่ในรุ่น tranche ใดที่จะถูกจัดหา และทั้งไม่ได้ให้รายละเอียดเปิดเผยว่าจะแบ่งเป็นรุ่นที่นั่งเดียวและรุ่นสองที่นั่งจำนวนกี่เครื่อง 
ข่าวนี้มีขึ้นให้หลัง 13เดือนหลังจาก Janes ได้รับการบอก ณ งานสัมนาเครื่องบินขับไล่นานาชาติ IQPC International Fighter Conference(IFC) 2023 ในกรุง Madrid สเปนว่า(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/f-35-eurofighter-typhoon.html)

กองทัพอากาศอิตาลี(Italian Air Force, AMI: Aeronautica Militaire Italiana) ได้กำลังมองที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon เพิ่มเติมจำนวน 24เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/eurofighter-typhoon-24.html)
เพื่อทดแทนฝูงเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 1 รุ่นก่อนหน้าจำนวน 26เครื่องของตน(แบ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียว F-2000A Typhoon จำนวน 16เครื่อง และเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง TF-2000A Typhoon จำนวน 10เครื่อง)

เครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon รุ่นที่อยู่ในการสร้างปัจจุบันเป็นรุ่นมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 4(ทั้งหมดได้รับการเพิ่มขยายขีดความสามารถเพิ่มด้วย E-Scan radar)(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/eurofighter-typhoon-25-halcon-ii.html
หมายความว่าเครื่องบินของอิตาลีในในสัญญาใหม่เหล่านี้น่าจะเป็นรุ่นมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 4+(รุ่น Tranche 4 เพิ่มการปรับปรุงต่างๆที่ไม่ระบุ)(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/eurofighter-typhoon-e-scan-radar.html)

รุ่นมาตรฐาน Tranche 4+ ถูกนำมาใช้ประจำการเพื่อบรรเทาความล่าช้าของชุดการเพิ่มขยายการพัฒนาการระยะยาว(LTE: Long-Term Evolution) ที่น่าจะเป็นการปรับแต่งคัดกรองสำหรับรุ่นมาตรฐาน Eurofighter Typhoon Tranche 5(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/eurofighter-typhoon-20.html)
จากการพูดคุยกับสื่อ ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Farnborough International Airshow 2024 ระหว่างวันที่ 22-26 กรกฎาคม 2024 ในสหราชอาณาจักร Giancarlo Mezzanatto ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มกิจการค้าร่วม Eurofighter กล่าวว่า

ความต้องการเร่งด่วนสำหรับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ใหม่ 24เครื่องเหล่านี้จะได้เห็นเครื่องบินถูกส่งมอบพร้อมกับ radar แบบ Leonardo European Common Radar System(ECRS) Mk 0 ซึ่งเป็นรุ่นใช้ปฏิบัติการล่าสุดของ E-Scan radar
การลงนามล่าสุดของอิตาลีมีขึ้นสามวันให้หลังจากที่สเปนได้ลงนามสัญญาสำหรับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ใหม่จำนวน 25เครื่องภายใต้โครงการ Halcon II เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2024 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/eurofighter-typhoon-halcon-ii-25.html)

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ไต้หวันรับมอบรถถังหลัก M1A2T Abrams สหรัฐฯชุดแรก 38คันจาก 108คัน

Taiwan receives first batch of M1A2T Abrams tanks







Taiwan's MND has announced the delivery of 38 M1A2T tanks, which resemble the Abrams M1A2 SEPv3. (Taiwan's Ministry of National Defence)



ไต้หวันได้รับมอบรถถังหลัก M1A2T Abrams MBT(Main Battle Tank) ชุดแรกจากสหรัฐฯแล้ว กระทรวงกลาโหมไต้หวันรายงานในช่องทางสื่อสังคม online ทางการของตนเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2024
กระทรวงกลาโหมไต้หวันแสดงชุดภาพของรถถังหลัก M1A2T Abrams กำลังได้รับการตรวจรับและเคลื่อนที่ขึ้นไปบนรถยนต์บรรทุกพ่วงชานต่ำเพื่อทำการขนส่ง อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมไต้หวันไม่ได้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม

สำนักข่าว Central News Agency(CNA) ของรัฐบาลไต้หวันรายงานว่ารถถังหลัก M1A2T Abrams ชุดแรกจำนวน 38คันจากที่ได้รับการสั่งจัดหาจำนวน 108คัน(https://aagth1.blogspot.com/2018/07/8x8-m1a2.html
ได้ถูกส่งมอบให้กับกองบัญชาการการฝึกยานเกราะกองทัพบก(Army Armor Training Command) ของกองทัพบกไต้หวัน(RoCA: Republic of China Army) ที่มีที่ตั้ง Hsinchu ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะไต้หวัน

อ้างอิงจากกระทรวงกลาโหมไต้หวัน สำนักข่าว CNA ไต้หวันรายงานว่า รถถังหลัก M1A2T Abrams เพิ่มเติมจำนวน 42คันจะถูกส่งมอบในปี 2025 และที่เหลืออีกจำนวน 28คันจะมาถึงไต้หวันในปี 2026
ไต้หวันได้สั่งจัดหารถถังหลัก M1A2T จำนวน 108คันในปี 2019 ราคาอยู่ที่วงเงิน $2.22 billion และรวมอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ Block I-92F Stinger จำนวน 250นัด, รถเกราะกู้ซ่อม BAE Systems M88A2 ARV(Armoured Recovery Vehicle) และรถยนต์บรรทุกขนส่งยุทโธปกรณ์หนัก Oshkosh M1070A1

ตามข้อมูลจาก Janes Land Warfare Platforms: Armoured Fighting Vehicles รถถังหลัก M1A2T เป็นรุ่นของรถถังหลักตระกูล M1 Abrams ที่ได้รับการติดตั้งด้วยปืนใหญ่รถถังลำกล้องเรียบขนาด 120mm และเครื่องยนต์ gas-turbine โดยเฉพาะ
รถถังหลัก M1A2T มีความคล้ายคลึงกับมาตรฐาน Abrams System Enhancement Package version 3(SEPv3) และได้รับการออกแบบให้ตรงความต้องการของกองทัพบกไต้หวัน(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/m1a2-abrams-sepv3.html)

รถถังหลัก M1A2T ได้รับการปรับแต่งรูปแบบป้อมปืนใหม่ด้วยการดัดแปลงต่างๆที่ไม่ถูกระบุเพื่อความอยู่รอดของรถ, ระบบไฟฟ้าและหน่วยกำเนิดพลังงานเสริม(APU: Auxiliary Power Unit) ที่ได้รับการดัดแปลง, และเครือข่าย datalink กระสุนใหม่
คุณลักษณะหลักต่างๆของรถถังหลัก M1A2T เป็นเช่นเดียวกับรุ่นรถถังหลัก M1A2 Abrams(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/m1a2-abrams-sepv3.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/10/m1a1-abrams-49.html) ตามรายงานของ Janes ก่อนหน้า 

ไต้หวันยังได้ลงนามสัญญากับสถาบันอเมริกาในไต้หวัน(AIT: American Institute in Taiwan) ซึ่งทำหน้าเป็นสถานทูตรัฐบาลสหรัฐฯใน Washington ในนครหลวง Taipei ไต้หวันโดยพฤตินัย สำหรับจัดหาเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง M142 HIMARS จำนวน 11ระบบพร้อมกระสุนจรวดและระบบที่เกี่ยวข้องในเดือนมิถุนายน 2021 และเพิ่มเติมอีก 18ระบบในเดือนพฤษภาคม 2023 ด้วย
เมื่อถูกนำเข้าประจำการเป็นที่คาดว่ารถถังหลัก M1A2T Abrams ใหม่จะทดแทนรถถังหลักเก่าที่มีอายุการใช้งานมานานของกองทัพบกไต้หวัน รวมถึงรถถังหลัก M60A3 สหรัฐฯ และรถถังหลัก CM11 ที่สร้างในไต้หวันครับ(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/m60a3.html)

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2567

กองทัพเรือพม่าทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำเรือฟริเกต UMS King Thalun ใหม่ที่สร้างในประเทศ












State Administration Council Chairman Defence Services Commander-in-Chief Senior General Min Aung Hlaing poses for the commemorative group photo at the christening and launching event of the domestic frigate at Myanmar Navy Naval Dockyard in Thanlyin, Yangon Region on 24 December 2024.
A new frigate pennant 19 named F19 UMS King Thalun has length of 135 metres, beam of 14.5 metres, height of 9 metres, and draught of 4.1 metres, displacement of 3,500 tonnes, and can attain cruise speed at 30 knots.
The Myanmar Navy also held commisioning ceremony of new two of Yan Nyein Aung-class 63m stealth submarine chaser, UMS Yan Min Aung (445) and UMS Yan Zwe Aung (44? or 450) at No. 3 Naval Pier in Yangon in same day. (Myanmar News Agency via Global New Light of Myanmar and Myawaddy TV (MWD))

Myanmar Navy christens and launches domestically built frigate





พิธีครบรอบปีที่77 ของการก่อตั้งกองทัพเรือพม่า(Myanmar Navy) ณ อู่เรือ Thanlyin ในมหานคร Yangon เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2024 โดยมีประธานสภาบริหารแห่งรัฐ(SAC: State Administration Council) และผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพพม่า พลเอกอาวุโส Min Aung Hlaing ร่วมกับผู้บัญชาการกองทัพเรือพม่า พลเรือเอก Htein Win, ผู้บัญชาการกองทัพอากาศพม่า(Myanmar Air Force) พลอากาศเอก Tun Aung 
และแขกผู้ร่วมงานอื่นๆได้ร่วมการทำพิธีตั้งชื่อเรือและปล่อยเรือลงน้ำของเรือฟริเกตใหม่ที่สร้างในประเทศ เรือฟริเกต F19 UMS King Thalun ซึ่งตั้งชื่อเรือตามพระนามของ "พระเจ้าตาลูน" กษัตริย์องค์ที่8 แห่งราชวงศ์ตองอู พระนัดดาของพระเจ้าบุเรงนอง "ผู้ชนะสิบทิศ" ที่ได้รับยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ชาติพม่าในฐานะผู้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาและระเบียบการปกครอง ทั้งปกป้องบ้านเมืองจากศัตรูภายในและภายนอกของพม่า

เรือฟริเกต UMS King Thalun ถูกปล่อยลงน้ำ เมื่อเวลา 0900 ตามเวลาท้องถิ่น และถูกลากจูงไปจอดที่ท่าเรือหน้ากองบัญชาการอู่ทหารเรือพม่าใกล้อู่เรือ Thanlyin ต่อมาในเวลา 1124 ทั้งนี้กองทัพเรือพม่ายังทำได้พิธีขึ้นระวางประจำการเรือคอร์เวตปราบเรือดำน้ำชั้น Yan Nyein Aung ใหม่ 2ลำ UMS Yan Min Aung (445) และ UMS Yan Zwe Aung ณ ท่าเทียบเรือ No 3 ฐานทัพเรือ Ayeyarwady ใน Yangon ใกล้กันด้วย
เรือคอร์เวตปราบเรือดำน้ำขนาด 63m รูปทรงตรวจจับได้ยาก stealth ใหม่ 2ลำเป็นเรือที่ต่อโดยอู่เรือ Thanlyin กองทัพเรือพม่าในประเทศเช่นกัน โดยเรือสองลำแรก UMS Yan Nyein Aung (443) และ UMS Yan Ye Aung (446) ได้มีพิธีขึ้นระวางประจำการในพิธีครบรอบ 73ปีกองทัพเรือพม่าเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/12/kilo-ums-minye-theinkhathu.html)

พิธีครบรอบ77ปี การก่อตั้งกองทัพเรือพม่ายังรวมถึงการสวนสนามทางเรือหน้ากองบัญชาการฐานทัพเรือ Ayeyarwady ในแม่น้ำอิรวดีของเรือฟริเกต F11 UMS Aung Zeya, F12 UMS Kyan Sit Thar, เรือฟริเกต F14 UMS Sin Phyu Shin(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/f14-ums-sin-phyu-shin-radar-revathi.html), เรือคอร์เวตชั้น Anawrahta เรือคอร์เวต UMS Tabinshwehti (773), 
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง UMS Inlay (54)(https://aagth1.blogspot.com/2021/12/type-035-ums-minye-kyaw-htin.html) , เรือคอร์เวตปราบเรือดำน้ำ UMS Yan Ye Aung (446), เรือเร็วโจมตีติดอาวุธปล่อยนำวิถีขนาด 49m รูปทรงตรวจจับได้ยาก stealth หมายเลข 491(https://aagth1.blogspot.com/2020/12/ums-minye-theinkhathu-73.html) ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเรือที่สร้างในประเทศ

ตามข้อมูลจากสำนักข่าวของรัฐบาลพม่า เรือฟริเกต UMS King Thalun(Thalun Min) ซึ่งเคยรู้จักในชื่อเรือฟริเกตขนาด 135m ใหม่ ได้เริ่มการสร้างที่อู่เรือ Thanlyin ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2017 มีความยาวเรือ 135m, กว้าง 14.5m, สูง 9m และกินน้ำลึก 4.1m มีระวางขับน้ำเต็มที่ที่ประมาณ 3,500 tonnes และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ราว 30 knots ระบบขับเคลื่อนอาจจะเป็นแบบ CODOG(Combined Diesel or Gas)
เรือฟริเกต UMS King Thalun ใหม่ของกองทัพเรือพม่าจะมีขีดความสามารถในการรองรับการปฏิบัติการของกองทัพเรือในศตวรรษที่21 ในการปกป้องภัยคุกคามทั้งตามแบบและนอกแบบในน่านน้ำทะเลของพม่า ในการลาดตระเวนและตรวจการณ์ การรบกับการรุกรานของกลุ่มก่อการร้ายและชาติศัตรู ปกป้องและควบคุมชายแดนทางทะเลเพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ สื่อของรัฐบาลพม่ากล่าวในรายงาน

เรือฟริเกต F19 UMS King Thalun เป็นเรือรบผิวน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่พม่าออกแบบและสร้างในประเทศล่าสุด แม้จะไม่มีการให้รายละเอียดในรายงานทางการของสื่อรัฐบาลพม่า แต่เรือจะได้รับการติดตั้งระบบตรวจจับและอาวุธที่ทันสมัยหลายๆแบบ ที่เห็นได้เป็นครั้งแรกคือแท่นยิงแนวดิ่ง(VLS: Vertical Launching System) แบบ H/AKJ-16 แปดท่อยิง 2แท่นยิงสำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ HHQ-16 จำนวน 16นัดของจีน
ระบบอาวุธอื่นๆที่คาดว่าจะถูกติดตั้งรวมถึง อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ C-802A แปดท่อยิงของจีน, ปืนเรือขนาด 76mm ที่สร้างโดยกรมอุตสาหกรรมกลาโหม(DI: Directorate of Defence Industries) พม่าที่คล้ายกับ OTO Melera 76/62 อิตาลี, Torpedo เบาปราบเรือดำน้ำแบบ Shyena สามท่อยิง 2แท่นของอินเดีย และจรวดปราบเรือดำน้ำ RBU-6000 สองแท่นยิงของรัสเซีย เรือยังมีลานจอดและโรงเก็บอากาศยานท้ายเรือรองรับเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลาง AS365 Dauphin ด้วย

เรือฟริเกต UMS King Thalun ใหม่ถูกปล่อยลงน้ำในช่วงเวลาที่กองทัพพม่า(Myanmar Armed Forces, Tatmadaw) กำลังเผชิญกับการรุกครั้งใหญ่จากแนวร่วมกองกำลังกลุ่มชาติพันธ์หลายกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าที่ทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ที่รู้จักในชื่อ Operation 1027 ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/5.html
เป็นเวลาเกินหนึ่งปีที่รวมถึงกองทัพอาระกัน Arakan Army(AA) ในรัฐยะไข่(Rakhine state) ทางตะวันตกของพม่าสามารถรุกยึดพื้นที่ได้เป็นส่วนมากของทั้งรัฐ ตั้งแต่ฐานทัพเรือ Maung Shwe Lay และศูนย์ฝึกหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองทัพเรือพม่าในเดือนกันยายน 2024 และกองบัญชาการปฏิบัติการทหารที่5(MOC-5, No.5 Military Operations Command) กองทัพบกพม่า(Myanmar Army) ในเดือนธันวาคม 2024 ครับ

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ออสเตรเลียเสร็จสิ้นการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A ครบ 72เครื่อง

Australia completes acquisition of 72 F-35A fighter aircraft







A Lockheed Martin F-35A Lightning II (serial no A35-072) ordered by the Royal Australian Air Force arrives at RAAF Base Williamtown in New South Wales on 18 December 2024. (Commonwealth of Australia)



กองทัพอากาศออสเตรเลีย(RAAF: Royal Australian Air Force) ได้เสร็จสิ้นการจัดหาตามสัญญาของเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II จำนวน 72เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2018/04/f-35a.html)
หลังจากเครื่องบินขับไล่ F-35A Lightning II จำนวน 9เครื่องสุดท้ายได้เดินทางมาถึงออสเตรเลียในเดือนพฤศจิกายน 2024 และเดือนธันวาคม 2024 ตามข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/fa-18f.html)

ออสเตรเลียเดิมมีกำหนดที่จะรับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35A ครบ 72เครื่องภายในสิ้นปี 2023 อย่างไรก็ตามการส่งมอบได้ถูกเลื่อนเนื่องจากความล่าช้าในการนำมาใช้งานของการปรับปรุงมาตรฐาน Technical Refresh-3(TR-3) Janes ได้รายงานก่อนหน้านี้ 
ตามข้อมูลจากบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ TR-3 เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้สามารถจะทำการปรับปรุงขีดความสามารถต่างๆที่กำลังดำเนินอยู่ต่อระบบของเครื่องบินขับไล่ F-35 ได้(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/f-35a-tr-3.html)

ในเดือนกรกฎาคม 2024 สำนักงานโครงการร่วม F-35(F-35 JPO: Joint Program Office) และบริษัท Lockheed Martin ได้ประกาศว่า เครื่องบินขับไล่ F-35 พร้อมมาตรฐาน TR-3 จะเริ่มต้นที่จะส่งออกให้แก่ลูกค้าต่างๆในรูปแบบ "เป็นขั้นระยะ"
ตามข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย เครื่องบินขับไล่ F-35A ใหม่ 9เครื่องที่มาถึงใหม่(โดยมีหมายเลขเครื่องตั้งแต่ A35-064, A35-065, A35-066, A35-067, A35-068, A35-069, A35-070, A35-071 และ A35-072) ได้รับมอบในมาตฐาน TR-3

"ทำให้การปรับปรุงมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ F-35 Block 4 ที่สามารถจะสนับสนุนขีดความสามารถใหม่และได้รับการเพิ่มขยายต่างๆที่ต้องการเพื่อให้ตรงกับภัยคุกคามต่างๆตั้งที่กำลังวิวัฒนาการในอนาคต"
กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียกล่าวว่าฝูงบินเครื่องบินขับไล่ F-35A "ในการทำงานร่วมกันกับ" เครื่องบินโจมตีสงคราม Electronic แบบ Boeing EA-18G Growler(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/ea-18g-growler.html) และเครื่องบินขับไล่ F/A-18F Super Hornet

เป็น "เสาหลักของขีดความสามารถการป้องกันภัยทางอากาศและการโจมตี  ตามการร่างเค้าโครงในยุทธศาสตร์กลาโหมแห่งชาติ 2024(DSR: National Defence Strategy)(https://aagth1.blogspot.com/2023/08/thai-boomerang-2023.html)
ชุดภาพจากกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียของเครื่องบินขับไล่ F-35A ใหม่ 9เครื่อง บ่งชี้ว่าเครื่องบินได้มาถึงฐานทัพอากาศ RAAF Base Williamtown ในรัฐ New South Wales ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2024 และ 18 ธันวาคม 2024

เครื่องบินขับไล่ F-35A ใหม่ 9เครื่องได้ถูกทำสีและเครื่องหมายของฝูงบินที่75(No 75 Squadron) ของกองทัพอากาศออสเตรเลีย(https://aagth1.blogspot.com/2021/11/fa-18ab-hornet.html) ภายใต้ชื่อการฝึก Lightning Ferry 2024
การสั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A จำนวน 72เครื่องของออสเตรเลียได้ถูกดำเนินการภายใต้โครงการ Project Air 6000 Phase 2A/B ซึ่งมุ่งเป้าที่จะประจำการในสามฝูงบินปฏิบัติการคือ ฝูงบินที่3(No 3 Squadron), ฝูงบินที่75 และฝูงบินที่77(No 77 Squadron) ครับ